ABM ประกาศงบไตรมาส 1/65 มีรายได้ 612.89 ล้านบาท โต 28.29% จากยอดขายในประเทศพุ่งเกิน 50% รับอานิสงส์ราคาสินค้าเชื้อเพลิงชนิดอื่นมีราคาสูงขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าชีวมวลเพิ่มขึ้น พร้อมวางกลยุทธ์แก้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ โดยเฉพาะไม้สับ ทำสัญญาซื้อไม้โตเร็ว พื้นที่กว่า 3,000 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบในการผลิตสินค้า ป้องกันความเสี่ยงจากการขาดแคลน ทั้งเพิ่มการลงทุนในระบบโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง รองรับการเติบโตในอนาคต

นางสาวธิญาดา เมฆพงษ์สาทร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้รวม 612.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.54 ล้านบาท หรือ 28.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขายเชื้อเพลิงชีวมวลโดยรวม และมีกำไรสุทธิ 6.37 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ อยู่ที่ 610.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.35 ล้านบาท หรือ 29.33% จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น และราคาขายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกะลาปาล์ม ส่วนรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 2.82 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้รับเงินชดเชยจากสินค้าเสียหายและมีหนี้สูญที่ได้รับคืน

สำหรับปริมาณการขายเชื้อเพลิงชีวมวลโดยรวมของบริษัทในไตรมาสแรก อยู่ที่ 170.64 พันตัน เพิ่มขึ้น 24.36% แบ่งเป็นปริมาณการขายในประเทศ 137.80 พันตัน เพิ่มขึ้น 59.81% จากการกลับมาใช้ชีวมวลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงพลังงานประเภทอื่นถีบตัวสูงขึ้นมากในปัจจุบัน และการขายต่างประเทศ อยู่ที่ 32.84 พันตัน โดยบริษัทยังคงเป็นผู้จัดจำหน่ายและส่งออกหลักเชื้อเพลิงชีวมวล ทั้งกะลาปาล์ม  ไม้สับ และส่วนอื่นๆ ของไม้ ขี้กบ ขี้เลื่อย และชีวมวลอัดแท่ง และสินค้าอื่นๆ

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดการณ์สามารถทำรายได้เติบโต 40-50 % จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,931.75 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 26.80 ล้านบาท ตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ทยอยฟื้นตัว

“ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายเชื้อเพลิงชีวมวล โดยเฉพาะการจำหน่ายในประเทศที่สูงเกินกว่า 50% เนื่องจากราคาสินค้าเชื้อเพลิงชนิดอื่นมีราคาสูงขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าชีวมวลเพิ่มขึ้น โดยบริษัทยังคงเดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าด้านพลังงานสะอาด เพื่อการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน”

อย่างไรกตาม จากการขาดแคลนสินค้าบางประเภทช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะไม้สับ บริษัท จึงได้ทำสัญญาซื้อไม้โตเร็ว (Acacia Species) พื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบในการผลิตสินค้าและป้องกันความเสี่ยงจากการขาดแคลนในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะได้ผลผลิตมากถึง 30,000 ตัน ประกอบกับบมีแผนจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น ด้วยการลงทุนในระบบขนส่งสินค้า (โลจิสติกส์) ของบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง พร้อมเพิ่มจำนวนรถขนส่ง และการปรับปรุงพื้นที่และคลังสินค้าในการรองรับสินค้าที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตในอนาคต

********

- Advertisement -