บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +33.7%

Close May 25, 2022 Price (THB) 4.30

12M Target (THB) 5.75

Previous Target (THB) 5.75

What’s new?

  • SHR Guidance การฟื้นตัวที่เด่นในเดือน เม.ย.65 ในทุก Properties และ Guidance แนวโน้มที่ดียิ่งขึ้นใน 2H65 พร้อมคาดหวังกลับมาทำกำไรในปี 2565
  • ตั้งเป้าเติบโตรายได้ 3 เท่าใน 3 ปี ผ่านการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ การ M&A ภายใต้งบลงทุน 4.5 พันล้านบาท การทำ Asset light model และการขึ้นโรงแรม So/Maldives ที่จะแล้วเสร็จในปี 2566

Our view

  • เราคงประมาณการปี 2565-2566 มีกำไรปกติ 319 ล้านบาท และกำไรปกติ 700 ล้านบาท ตามลำดับ ประมาณการของเราสูงกว่าตลาด แต่เป็นไปได้
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 5.75 บาท ต่อหุ้น SHR ซื้อ ขาย บน P/BV ปี 2565 เพียง 1.0x ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 2.7x
  • ให้เป็นหุ้น Recovery Play ที่เด่นที่สุดของกลุ่มโรงแรม

S Hotels and Resorts Recovery Play ที่เด่นที่สุดในกลุ่มโรงแรม

มุมมองบวกหลังการประชุม … Guidance กลับมาทำกำไรปกติในปี 2565

  • ตลาด Maldives โรงแรมกลุ่ม Crossroads แม้ว่าเดือนเม.ย.65 จะเข้าสู่ช่วง Low Season แต่กลับทำ Occ. Rate ได้ถึง 77% เทียบกับช่วง 1Q65 ซึ่งเป็น High Season ที่ 74% และทำ ADR +64% YoY สะท้อน SHR สามารถแทนที่นักท่องเที่ยวรัสเซียที่หายไป ด้วยนักท่องเที่ยวอินเดียและอิสราเอล ขณะที่แนวโน้ม Occ. Rate ในเดือนพ.ค.-มิ.ย.65 คาดชะลอตัวลง MoM ตามผลของฤดูกาล แต่ยังโตเด่น YoY ขณะที่บริษัทฯ Guide Occ. Rate 3Q65 ที่ 60%-75% และ 4Q65 ที่เกินกว่า 75%
  • โรงแรมใน UK เดือนเม.ย.64 กลับเข้าสู่ช่วง High Season และได้ผลบวกจากการเปิดประเทศทำให้ Occ. Rate ปรับขึ้นมาที่ 60% เทียบกับ 1Q65 ที่ 46% ขณะที่ ADR โต 6% เทียบกับ 1Q65 และโต 49% YoY แนวโน้ม 2H65 ดีขึ้นต่อเนื่อง SHR Guidacne Occ. Rate ที่ระดับ 80% ใน 3Q65
  • โรงแรมในไทยแม้เผชิญการระบาดของ Omicron และเปิดประเทศได้ไม่เต็มศักยภาพ แต่ตัวเลข Occ Rate ในเดือนเม.ย. 65 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 59% เทียบกับ 38% ใน 1Q65 และ 13% ใน 2Q64 เช่นเดียวกับ ADR เดือนเม.ย.65 ที่ +72% YoY สะท้อนความเป็นที่นิยมของโรงแรมในหมู่เกาะท่องเที่ยวสำคัญที่พร้อมฟื้นตัวเร็วและแรง SHR Guidance Occ. Rate ที่ระดับ 60%-75% ใน 4Q65 จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการท่องเที่ยวภายในประเทศไทยที่แข็งแกร่ง
  • โรงแรมกลุ่ม Outrigger ตลาด Mauritius Fiji และ Castaway ทำ Occ. Rate เฉลี่ยในเดือนเม.ย. 65 ที่ ราว 61% เทียบกับ 37% ใน 1Q65 และทำ ADR ได้ที่ 8.1 พันบาทต่อคืน (+241 YoY) ขณะที่ SHR Guidance ตลาด Mauritius ที่ระดับ >75% ใน 4Q65 และ Fiji ที่ระดับ 65%-75% ตลอด 2H65
  • การขอ Refinancing หนี้ใน UK ราว 4 พันล้านบาท มีความคืบหน้าไปมาก คาดจะแล้วเสร็จภายใน มิ.ย.65 บริษัทฯ Guidance ว่า Term ใหม่จะเพิ่ม Flexibility ให้กับบริษัทฯ และจะช่วยลดต้นทุนการเงิน
  • Inflation and Energy Cost Rising บริษัทฯ พยายามปรับขึ้นราคาเปลี่ยนเมนูอาหารที่ได้รับผลกระทบ และมีการเพิ่มงบลงทุนใน Solar Energy เพื่อลดผลกระทบใน Maldvies ภาพรวมปัจจุบันยังรับมือได้ SHR ตั้งเป้ากลับมาทำกำไรปกติในปี 2565 ขณะที่เป้าหมายระยะยาวตั้งเป้าเติบโตรายได้ 3 เท่าใน 3 ปี ผ่าน 1) การ M&A ตั้งงบลงทุนราว 4.5 พันล้านบาท ภายใต้กรอบ IRR ราว 12%-14% 2) การทำ Asset Light Platform ผ่าน Flagship SAii และ Brand อื่นๆ และ 3) การพัฒนา Exisiting Portfolio ผ่านการทํา Asset Roation และ So/Maldives ที่จะแล้วเสร็จในปี 2566

การฟื้นตัวเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น … ลุ้นกำไรเด่นใน 2H65 ต่อเนื่องตลอดปี 2566

ใน 2Q65 เราคาดว่า Occ. Rate ที่เพิ่มขึ้นอาจต้องไปชดเชยให้กับการจ้างพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพื่อให้กลับมาเปิดโรงแรมได้เต็มศักยภาพทำให้อาจยังต้องลุ้นกำไรปกติ อย่างไรก็ดี หากการระบาดไม่มีการกลายพันธุ์ที่รุนแรงเพิ่มเติม เราคาด SHR จะกลับมาทำกำไรปกติใน 3Q65 และจะเด่นที่สุดของปีใน 4Q65 จากแรงส่งของการเข้าสู่ High Season ของสองตลาดหลัก ได้แก่ ตลาด Maldives และตลาดไทยต่อเนื่องไปในปี 2566 ที่จะรับผลบวกของ post COVID-19 เต็มปีเป็นปีแรก

คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม สิ้นปี 2555 ที่ 5.75 บาทต่อหุ้น

เราคงประมาณการปี 2565-2566 มีกำไรปกติ 319 ล้านบาท และกำไรปกติ 700 ล้านบาท ตามลำดับ ประมาณการของเราสูงกว่าตลาดถึงสมมติฐานโรงแรมระดับบนตามหมู่เกาะท่องเที่ยวสำคัญจะฟื้นตัวได้ ดีกว่ากลุ่มในช่วง post COVID-19

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 5.75 บาทต่อหุ้น อิง EV/EBITDA ที่ 12.1x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม แม้หุ้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ SHR ยังซื้อ ขาย บน P/BV ปี 2565 ที่ 10x เทียบกับค่าเฉลี่ยโรงแรม ขนาดใหญ่ในกลุ่มที่ 2.7x และซื้อ ขาย บน EV/EBITDA ปี 2566 ที่ 8.4x ต่ำกว่ากลุ่มที่ 17.7% อย่างมีนัยสำคัญ

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การระบาดของ COVD-19 สูงขึ้นอีกครั้ง 2) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่าคาด และ 3) ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนลุกลามและลากยาว

- Advertisement -