ภาพรวมตลาดหุ้น Dow Jones ปรับตัวขึ้นโดดเด่น 1.6% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของกลุ่มค้าปลีก หลัง บริษัทเมซีส์ รายงานกำไรต่อหุ้นที่ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด ช่วยหนุนให้หุ้นในกลุ่มค้าปลีกตัวอื่นๆ ปรับขึ้นตามไปด้วย ด้านตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน มีการรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.1 แสนตำแหน่งดีกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 2.17 แสนตำแหน่ง ถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ดี เป็นอีกปัจจัยหนุนตลาดหุ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นเด่น 3% ได้แรงหนุนจากความต้องการน้ำมันในสหรัฐปรับสูงขึ้นช่วงวันหยุด Memorial Day รวมทั้งคาดการณ์ว่าสมาชิกสหภาพยุโรปจะสามารถบรรลุถข้อตกลงคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย ระยะสั้นเป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) แต่อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของตลาดหุ้นในช่วงนี้ให้ระมัดระวังช่วงถัดไป เพราะตั้งแต่ มิ.ย. สภาพคล่องในระบบจะเริ่มหายไปจากการที่ FED จะเริ่มดำเนินนโยบาย QT ราว 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือนจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ / เดือน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ช่วงที่มีการลดสภาพคล่อง (QT) ก.พ. 18 ตลาดหุ้น Dow Jones ปรับฐานลงมาราว 14% จึงยังคงมุมมองว่าตลาดหุ้นโลกการฟื้นตัวรอบนี้จะเป็นเพียงช่วงสั้น หลังจากนั้นจะเผชิญกับความเสี่ยงทั้งเรื่องเศรษฐกิจที่มีปัญหาและสภาพคล่องที่หายไป อย่างไรก็ตาม วันนี้คาด SET INDEX ฟื้นตัวบวกในกรอบ 1634 – 1645 รับจิตวิทยาเชิงบวกทั้งจากตลาดหุ้นสหรัฐ และ Nikkei ที่เช้านี้แกว่งบวก 0.96%

เชิงกลยุทธ์การลงทุน วันนี้เลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ค้าปลีก (BJC CPALL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) โดยยังแนะหาจังหวะสะสมกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC RATCH) ปันผลสูง (KKP TISCO) พร้อมมองจังหวะปรับขึ้นของตลาดหุ้น เป็นจุดเริ่มทยอยขายเพิ่มการถือครองเงินสด

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 179 บาท) ภาพรวม 2Q22 เป็นบวก เพราะคาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ประเมินว่าการเริ่มผลิตก๊าซจากโครงการ G1/61 และ G2/61 (ประเทศไทย) จะช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายได้ 10% ส่วนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจเข้ามาช่วยกระตุ้นราคาขายเฉลี่ยขึ้น

BJC (ถือ / ราคาเป้าหมาย 40 บาท) Trading ระยะสั้นหลังจากกลุ่มค้าปลีกในสหรัฐปรับตัวขึ้นโดดเด่น จึงเชื่อว่าจะมีจิตวิทยาเชิงบวกมายังกลุ่มค้าปลีกในไทยวันนี้ ขณะที่ในเชิงพื้นฐานมองเป็นกลุ่มที่ผลกระทบจำกัดมากสุดจากภาวะเงินเฟ้อ

*หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้ โดยแนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -