Daily Focus: Value and Selective Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้ต่อเนื่องและปิดบวกอีก 5.02 จุด โดยยังไม่ผ่านแนวต้าน 1,640-1,645 จุดตามคาด เนื่องจากรอดูตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ คืนวันศุกร์ สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 599 ลบ.และ 1.1 พันลบ. ตามลำดับ (สถานะ Index Futures ไม่มีนัยยะนัก)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,650+- จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก หลังตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐาน PCE ของสหรัฐฯออกมาตามคาด +0.3% M-M, +4.9% Y-Y โดยเริ่มการปรับขึ้น Y-Y ในอัตราที่ชะลอ ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ กำลังผ่านจุดสูงสุดในรอบ 40 ปี หนุนเม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับน้ำมันดิบที่ไต่ระดับขึ้นคาดหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ชัดเจน โฟกัสยังคงอยู่ที่การ Reopening และเปิดประเทศเต็มรูปแบบในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้กระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้าในระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์เรายังเน้นลงทุนในหุ้น Reopening และ Value Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับช่วงปี 2019 ที่ยังไม่มี COVID-19 และมีแนวโน้มกำไร 2Q22 แข็งแกร่งต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด โดยรวมท่ามกลางนโยบายการเงินที่ดึงตัว

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value Play ที่แนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : GFPT, ILINK, SAPPE, SMT, TH

หุ้นเด่นวันนี้ : MAJOR

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 24 บาท
  • คาดกําไรกลับมาฟื้นตัวอย่างโดดเด่นใน 2Q22-3Q22 จาก Lineup หนังทำเงินดังหลายเรื่อง ได้แก่ Doctor Strange, Top Gun, Jurassic World, Thor เป็นต้น
  • เราคาดผลการดำเนินงานปี 2022 พลิกกลับมามีกำไร 729 ลบ.จากขาดทุน 528 ลบ.ปี ก่อน ราคาหุ้นมีโอกาส Outperform จากกำไรที่ผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q22 และเร่งตัวขึ้นใน 2Q22 เป็นต้นไป
  • แนวรับ 20.50//20.20 บาท แนวต้าน 21.50//22 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$1,011 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$736 ล้าน ส่วนอาเซียนไหลเข้าทุกประเทศ นำโดยอินโดนีเซีย US$94 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังอยู่ในทิศทางไหลเข้าหลังเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณว่าจะผ่านพีคในรอบ 40 ปี เม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) Core PCE สหรัฐฯ +0.3% M-M, +4.9% Y-Y ออกมาตามตลาดคาด แม้จะยังปรับตัวขึ้น M-M แต่เริ่มเห็นการปรับขึ้น Y-Y ที่ชะลอตัวลง ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯอาจใกล้ผ่านช่วงที่สูงสุดในรอบ 40 ปีไปแล้ว  นักลงทุนทั่วโลกตอบรับเชิงบวก เม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้น Growth ส่วน Dollar Index และ Bond Yield ชะลอตัวต่อเนื่อง

(+) BDMS ราคาหุ้นพักตัวลงหลังจากประกาศแผนลงทุน Residential & Wellness Project ย่านหลังสวน ด้วยเม็ดเงินลงทุน 2.35 หมื่นลบ. และจะเปิดให้บริการปี 2029 โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ Silver Age ที่มีกำลังซื้อสูง เรามองว่าการลงทุนโครงการนี้ไม่กระทบความแข็งแกร่งของฐานะการเงินอย่างมีนัยยะ เนื่องจากทยอยก่อสร้างและจะมีกระแสเงินสดจากการขาย Residetial เข้ามาช่วย ทำให้ Net D/E คาดปรับเพิ่มขึ้นเป็นเพียง 0.3 เท่า เราประเมินว่าดีลนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ BDMS 1 บาทต่อหุ้น จากราคาเป้าหมายปี 2023 ปัจจุบันที่ 31 บาท ราคาหุ้นปรับลงเป็นโอกาส “ซื้อลงทุน” (Source: FSSIA)

(-) TKN แนวโน้มกำไร 2Q22 ยังท้าทาย ยังมีปัจจัยลบจากต้นทุนที่ปรับขึ้นทั้งน้ำมันพืช ฟอยล์ และกระดาษ ประกอบกับรายได้ส่งออกไปจีนคาดลดลงต่อจากการ Lockdown บริษัทยังตั้งเป้ารายได้ปีนี้ +10% Y-Y (1Q22 +5% Y-Y) โดยคาดหวังการฟื้นตัวใน 2H22 หากนักท่องเที่ยวฟื้น และยังไม่ปรับเพิ่มราคา และเน้นปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้คุ้มราคาขึ้นในสายตาผู้บริโภค และกำลังพัฒนา Popcorn ร่วมกับ MAJOR อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นยังมองไม่น่าสนใจในการเข้าลงทุนจนกว่าจะเห็นพัฒนาการเชิงบวก

(0) MSCI Rebalance มีผลราคาปิด 31 พ.ค. ดัชนี Global Standard หุ้นเข้า JMT หุ้นออก STGT เพิ่มน้ำหนัก BDMS EA OSP BGRIM ส่วน Small Cap หุ้นเข้า STGT ASK BYD DITTO FORTH KEX PSG SABUY STARK VIBHA หุ้นออก EASTW JMT

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 575.77 จุด หรือ 1.76% ปิดที่ 33,212.96 จุด เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเงินเฟ้อ หลังดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงา นและเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 4.9% Y-Y ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการปรับลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เทียบกับเดือนมี.ค.ที่ +5.2% Y-Y

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และความกังวลลดลงเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลง

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น อยู่ที่บริเวณ 34.09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 115.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนจากแนวโน้มความต้องการใช้นํามันที่เพิ่มขึ้นจากวัน Memorial Day ของสหรัฐในวันที่ 30 พ.ค. ท่ามกลางปริมาณนํามันที่ดึงตัว

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 3.4 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,857.3 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,069.81 / +-

- Advertisement -