Our View? “Upside ยังตึงตัว”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,645 / 1,640 และแนวต้านที่บริเวณ 1,660 / 1,665 คาดวันนี้ตลาดแกว่งตัวในกรอบจํากัดจากการขาดปัจจัยชี้นําใหม่ เนื่องจากเมื่อคืนนี้ ตลาดสหรัฐปิดทําการเนื่องในวัน Memorial Day ขณะที่เรามองว่าเราฟื้นตัวขึ้นของตลาดจากการรายงานตัวเลข PCE เดือน เม.ย. ออกมา +6.3% ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด และเริ่มชะลอตัวลงหลังพุ่งขึ้นสูงถึง 6.6% ในเดือน มี.ค. ซึ่ง เป็นการส่งสัญญาณถึงอัตราเงินเฟ้อที่น่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ตลาดน่าจะรับรู้ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ล่าสุด CME FED Watch Tools เริ่มกลับมาบ่งชี้ตลาดกลับมาคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% ในอีก 3 ครั้งถัดไป ทำให้อัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีสหรัฐกลับไปอยู่ที่ระดับ 3.00% แต่ยังไม่คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในช่วงปี’66 คาดจะเป็นปัจจัยจํากัด Upside การฟื้นตัวของราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม คาดตลาดอาจได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เซี่ยงไฮ้ของจีน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. นี้รวมทั้งเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งได้รับผลกระทบของ COVID-19 อีกทั้งแนะนำติดตามการเปิดเผยตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนคาดจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ค. นี้ คาดจะหนุนทิศทางตลาดได้ภูมิภาครวมถึงหุ้นในกลุ่มส่งออกที่คาดจะได้รับประโยชน์ทางอ้อม จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนได้บ้าง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (KCE, HANA และ SVI)

ในส่วนของการที่สหภาพยุโรป (EU) มีมติระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ในส่วนของการขนส่งทางทะเล จากความขัดแย้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์คาดจะหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้ต่อจาก ความกังวลด้านอุปทานที่ลดลง รวมทั้งมองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น (TOP, SPRC, BCP และ ESSO) ตามความต้องการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปที่มากขึ้นของ EU เพื่อทนแทนการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐฟื้นตัวขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงวันหยุด Memorial Day คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้เรายังแนะนำติดตามความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ต่อเนื่อง คาดยังเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาอาหารปรับตัวขึ้นต่อ เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออกอาหารต่อ (CPF, TFG, GFPT, TU และ BR) รวมทั้งยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มน้ำตาล (KSL, BRR และ KBS) ตามปัญหาการขาด แคลนอาหารจากผลกระทบดังกล่าว ขณะที่เมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์ไทยเปิดเผยตัวเลขมูลค่าการส่งออกน้ำตาล ทราย +87.9% คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ทางด้านของปัจจัยในประเทศ เรายังมีมุมมองเชิงบวกจากการที่ Dollar Index เริ่มอ่อนตัวลงบ้างแล้ว ส่งผลให้ค่าเงินบาทเริ่มชะลอการอ่อนค่าลง มองเป็นปัจจัยบวกหนุนทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าได้อีกครั้ง โดยเราคาดว่าหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการเตรียมกลับมาเปิดประเทศ เศรษฐกิจเต็มรูปแบบคาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว-สายการบิน (AOT, MINT, CENTEL, ERW, AWC, AAV และ BA) ฟื้นตัวขึ้นได้อีกครั้ง รวมทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB, BBL และ TTB) จากการที่ ธปท. ส่งสัญญาณเตรียมผ่อนผันให้ธนาคารฯ ไม่ต้องนับระยะเวลาการถือครองอสังหาริมทรัพย์ รอการขายตั้งแต่ช่วงปี 65-66 และไม่ต้องกันเงินสํารองเพิ่มเติมในช่วงเวลาดังกล่าว คาดจะเป็นปัจจัยช่วยลด ตัวเลข NPL ของธนาคารฯ อ่อนตัวลงได้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “TU”

กลยุทธ์ แนวรับ 16.80 / 16.50 Target 18.00 / 19.00 Stop <16.00

- Advertisement -