บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) 35.6%

Close May 30, 2022 Price (THB) 10.10

12M Target (THB) 13.70

Previous Target Price 14.90

What’s new?

  • EPG รายงานกำไรสุทธิ 4Q64 (สิ้นงวด มี.ค.65) จำนวน 336 ลบ. ลดลง 16.8% YoY และ 16%QoQ แต่ถ้าไม่รวมกำไรจาก FX และโอนกลับสำรอง ECL จะมีกำไรปกติ 309 ลบ. ลดลง 12.9%YoY และ 23.9%QoQ แย่กว่าคาด หลังยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ปรับตัวลง จากความต้องการในยุโรปที่ชะลอตัว บวกกับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ปรับลงสอดรับกับยอดขายยานยนต์ในยุโรป

Our view

  • เรามอง EPG เป็นบริษัทที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี จึงคาดผลดำเนินของ EPG ยังสามารถเติบโตได้ต่อ เพราะมีธุรกิจฉนวนยางกันความร้อนและบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ที่พึ่งพาตลาดยุโรปค่อนข้างมาก ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 35.6% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 13.70 บาท (อิง PER ย้อนหลัง 3 ปี +1 S.D.) และล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 0.19 บาท คิดเป็น Div.Yield 1.9% (XD วันที่ 1 ส.ค. และจ่ายปันผลวันที่ 19 ส.ค.) เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

EASTERN POLYMER GROUP

ฉนวนยางฟื้นตัว ชดเชยยอดขายอะไหล่ยานยนต์ที่ถูกกดดัน

กำไร 4Q64 แย่กว่าคาด หลังยอดส่งออกอะไหล่ยานยนต์ชะลอตัว

EPG รายงานกำไรสุทธิ 4Q64 (สิ้นงวดเดือน มี.ค.65) ที่ 336 ลบ. ลดลง 16.8%YoY และ 16%QoQ แต่หากไม่รวมรายการพิเศษจากการกำไร FX ที่บันทึกในไตรมาสนี้ 7 ลบ. และรายการโอนกลับของผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 13 ลบ. บริษัทจะมีกำไรปกติ 309 ลบ. ลดลง 12.9%YoY และ 23.9%QoQ แย่กว่าที่เราและตลาดคาด

ปัจจัยกดดันหลักๆ มาจากยอดขายรวมที่ปรับตัวลง 2.6%QoQ หลังยอดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของ Aeroklas ปรับตัวลง 2.2%QoQ จากปัญหาขาดแคลนชิปในการผลิตยานยนต์ ทำให้ความต้องการ Canopy และชิ้นส่วนส่งออกต่างๆ ของบริษัทปรับตัวลง อีกทั้งรายได้อื่นๆ ปรับตัวลงกว่า 40.4%QoQ เนื่องจากไม่มีเงินชดเชยจากรัฐบาลแอฟริกาเหมือนใน 3Q64 (สิ้นงวดเดือน ธ.ค. 65) บวกกับส่วนแบ่งกำไรของจากบริษัทร่วมปรับตัวลงแรง 58.2%QoQ สอดรับไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุโรปที่ชะลอตัว ทั้งนี้ ผลลบต่างๆ บางส่วนถูกชดเชยด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยับขึ้นจาก 31.5% ใน 3Q64 เป็น 31.9% หนุนด้วยการปรับขึ้นราคาเพื่อส่งผ่านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นให้กับลูกค้าได้มากขึ้นของ Aeroflex และ Eastern Polypack

ปรับประมาณลดประมาณการกำไร สะท้อนความเสี่ยงของธุรกิจอะไหล่ยานยนต์

เรามีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ EPG ตั้งแต่ปี 2565 ลงเฉลี่ยปีละ 4% เพื่อสะท้อนรายได้จากการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของ Aeroklas ที่ได้รับผลกระทบจากความต้องการซื้อในยุโรปที่ปรับตัวลงจากผลของสงครามยูเคลน-รัสเซีย โดยภายใต้ประมาณการใหม่ เราคาด EPG จะมีกำไรปกติราว 1,734 ลบ. โต 13.9%YoY โดยมีแรงหนุนหลักจากการขยายตัวของยอดขายฉนวนยางกันความร้อนของ Aeroflex ในตลาดสหรัฐฯ ที่มีแผนเข้าไปสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพื่อเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานใหม่ให้สูงขึ้น หลังประสบความสำเร็จกับสินค้าในกลุ่มห้องทำความเย็นที่ยังมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขายในเอเชียและไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวตามสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลายลง นอกจากนี้ คาดยอดขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกจะกลับมาเติบโตขึ้น หลังพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยกลับมาเปิดขายของตามปกติ หนุนความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทแก้วพลาสติก และบรรจุภัณฑ์อาหาร รวมทั้งคาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจะเร่งตัวขึ้นตามผลดำเนินงานของบริษัท Aeroklas Duys ในแอฟริกาและ Faraero สามารถพลิกมามีกำไรจากการดำเนินงานได้ ตามคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ของรถโมเดลใหม่ๆ

คาดผลดำเนินงานเริ่มฟื้นตัว ขณะที่ราคาหุ้นมี Upside น่าสนใจ

เรามอง EPG เป็นบริษัทที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี จึงคาดผลดำเนินของ EPG ยังสามารถเติบโตได้ต่อ เพราะมีธุรกิจฉนวนยางกันความร้อนและบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยชดเชยปัจจัยลบจากธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ที่พึ่งพาตลาดยุโรปค่อนข้างมาก ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 35.6% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 13.70 บาท (อิง PER ย้อนหลัง 3 ปี +1S.D.) และล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 0.19 บาท คิดเป็น Div.Yield 1.9% (XD วันที่ 1 ส.ค. และจ่ายปันผลวันที่ 19 ส.ค.) เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -