Market Update
คาด SET INDEX จะเริ่มพักฐานหลังขึ้นมา 5% ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐ (Dow Jones) ปรับฐานเล็กน้อยราว 0.67% ปัจจัยกดดันยังเป็นเรื่องเดิมๆ อาทิความกังวลดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หลังจากที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะกรรมการผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ออกมาสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% ในทุกๆ การประชุมของ FED จนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง ด้านราคาน้ำมันดิบเริ่มเห็นการผันผวน ในช่วงแรกราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นรับข่าวกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) มีมติระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียราว 2 ใน 3 เพื่อตัดแหล่งการเงินขนาดใหญ่ของรัสเซีย ที่รัสเซียใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงครามกับยูเครน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นในช่วงเวลากลางคืนตามเวลาประเทศไทยมีข่าวออกมาว่า การผลิตที่ลดลงของรัสเซียเปิดทางให้ OPEC+ มีโอกาสที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันให้มากยิ่งขึ้น โดย WTI ลดลง 0.4% สวนทางกับ Brent +1% ด้านตลาดหุ้นในฝั่ง EU เริ่มเห็นแรงขาย Dax -1.3% รวมถึง Italy -1.2% หลังกลุ่ม EU เปิดเผยภาวะเงินเฟ้อ (CPI) ประจำเดือน พ.ค. +8.1%YoY สูงกว่าตลาดประเมินที่ 7.8%YoY และนับเป็นการขยายตัวที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นเรายังคงมุมมองเช่นเดิมว่าภาวะเงินเฟ้อในหลายๆ ประเทศยังลดลงได้ยาก
Market Outlook
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1657 – 1667 เชื่อว่าจะเริ่มพักตัวบ้างหลังจากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นมา 5% (จากจุดต่ำสุดเดิม) สำหรับปัจจัยติดตามเย็นวันนี้ประธาน ECB จะมีให้ถ้อยแถลงก็เชื่อว่าตลาดจะจับตารอดูความเห็นเกี่ยวกับดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ หลังจากที่เงินเฟ้อ EU พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้านสหรัฐคืนนี้จะมีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) จากสถาบัน ISM Bloomberg ประเมินที่ 54.4 ส่วนวันพรุ่งนี้ติดตามผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg ประเมินที่ 2.1 แสนตำแหน่ง รวมถึงการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) Bloomberg ประเมินที่ 2.95 แสนตำแหน่ง ทั้งนี้เชื่อว่าตลาดมอยากเห็นตัวเลขที่ร้อนแรงจนเกินไป มิเช่นนั้นจะกลับมากังวลกับภาวะเงินเฟ้ออีกรอบและเพิ่มโอกาสต่อการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่มีโอกาสเร่งตัว ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังแนะหาจังหวะทยอยลดพอร์ตการลงทุน เนื่องจากในช่วงถัดไปยังเผชิญกับความเสี่ยงในการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน ล่าสุด Bloomberg Consensus เริ่มปรับลดกำไรต่อหุ้นของ SET INDEX ลงมาที่ 96.25 บาท / หุ้น จากก่อนหน้าที่ 97.23 บาท / หุ้น ขณะที่ Valuation ตลาดก็เริ่มแพง ระยะสั้นหาก Trading แนะหุ้นสินค้าจำเป็น (BJC CPALL) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) โรงพยาบาล (BCH CHG) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) เครื่องดื่ม (CBG TACC)
Pi Stock Picks
TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.25 บาท)
ผู้บริหารยังตั้งเป้ารายได้โต 10% YoY แม้ 1Q22 ทำได้เพียง 4%YoY ขณะที่ในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. รายได้เติบโตมากกว่า 5% ด้านราคาหุ้นยังไม่แพงและอัตราเงินปันผลน่าสนใจ
TFG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 6 บาท)
คาดกำไรปกติ 2Q22 ยังโตขึ้น YoY จากฐานในช่วงก่อน และปรับดีขึ้น QoQ จากราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และการฟื้นตัวของอุปสงค์