WP ส่งสัญญาณผลงานไตรมาส 2/65 เติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกจากปริมาณการขายก๊าซ LPG ในประเทศพุ่งตามการพื้นตัวของเศรษฐกิจและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ทั้งยังมีจุดกระจายสินค้าที่ครอบคลุมถึง 20 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งมีการขยายฐานลูกค้าโดยการส่งออกไปต่างประเทศ มั่นใจทิศทางธุรกิจยังสดใส ตามความต้องการใช้ก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนที่ขยายตัวต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปี 65 เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 5% ส่วนยอดขายก๊าซ LPG คาดเพิ่มขึ้นแตะระดับ 7.65 แสนตัน

 

นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65  ของกลุ่มบริษัท เชื่อว่าจะเติบโตอย่างมีศักยภาพต่อเนื่องจากไตรมาสแรก  เนื่องจากได้รับผลบวกจากภาพรวมของอุตสาหกรรมก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยภาคครัวเรือนมีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจน ตามความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่กลับมาเติบโต ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องใช้และมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซทดแทนมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ รายได้การขายก๊าซยังเพิ่มสูงขึ้น จากการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศอีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัทได้ขยายจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยปัจจุบันมีอยู่จำนวน 20 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถขยายฐานกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น และยังรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ทำให้มั่นใจว่า จะผลักดันให้ยอดขายปี 2565 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 5% ส่วนยอดขายก๊าซ LPG คาดเพิ่มเป็น 7.65 แสนตัน โดนปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ “เวิล์ดแก๊ส” อยู่ที่อันดับ 2 คิดเป็นมาร์เก็ตแชร์ที่ 19%

“ที่ผ่านมาบริษัทมีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับมีแผนธุรกิจและทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน ขณะที่ผลิตภัณฑ์และการบริการ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและทันเวลา ทำให้ WP สามารถรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัท”มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องทุกปี” นางสาวชมกมล กล่าว

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/65 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,331.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.05% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 18.54 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 159.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.45 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.84%

สาเหตุที่รายได้รวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณการขายรวมในประเทศของก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นเป็นถึง 182,236 ตัน จาก 176,080 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 3.50%  นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังมียอดส่งออกรวม 13,180 ตัน ส่งผลให้รายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นเกิดจากกลุ่ม Auto gas เป็นหลัก โดยปรับตัวขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ LPG กลับมาเป็นที่นิยมมากขึ้น รองลงมาคือกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% อีกทั้งไตรมาส 1/65 ยังเริ่มรับรู้รายได้จากการขายไฟของโครงการโซลารูฟท็อป จำนวน 1.54 ล้านบาท

*********

- Advertisement -