SCM ได้ฤกษ์แตกไลน์ธุรกิจเข้าสู่ผู้ให้บริการสินเชื่อ รุกจัดตั้งบริษัทย่อย “จัดให้ ลิสซิ่ง” ดำเนินธุรกิจการให้บริการสินเชื่อประเภทเช่าซื้อ จำนำทะเบียนรถ จำนองที่ดิน รวมทั้งสิ่งปลูกสร้าง ระบุเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทชั้นนำ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว คาดเริ่มให้บริการภายในไตรมาส 3/65 นี้ โดยเจาะฐานลูกค้าสมาชิกของ SCM ที่มีอยู่กว่า 1.6 แสนราย มั่นใจสามารถต่อยอดธุรกิจได้มากขึ้น ด้านโบรกฯ ให้กรอบราคาเป้าหมายของราคาหุ้น SCM ไว้ที่ 8.0-8.8 บาท ประเมินจากอัตราการเติบโตของรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20%
นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนแตกไลน์ธุรกิจสู่ธุรกิจลิสซิ่งภายใต้ชื่อ บริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด ดำเนินธุรกิจการให้บริการสินเชื่อประเภทเช่าซื้อ จำนำทะเบียนรถ จำนองที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทชั้นนำ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลประกอบการของบริษัทในระยะยาว พร้อมทั้งยกระดับฐานะการเงินของบริษัท โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการธุรกิจลิสซิ่งภายในไตรมาส 3/65 นี้ โดยเจาะฐานลูกค้าสมาชิกของ SCM ซึ่งจะสามารถต่อยอดธุรกิจได้มากขึ้น เนื่องจากมองว่า ธุรกิจลิสซิ่งสามารถรองรับความต้องการของกลุ่มสมาชิก MLM ที่มีอยู่กว่าในปัจจุบัน 1.6 แสนรายได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายการต่อยอดผ่านธุรกิจเดิม ทั้งจากตัว SCM และโรงงานผลิตในเครือ ภายใต้ชื่อ บริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด (SMI) เพื่อเดินหน้าขยายสู่ตลาด OEM รับจ้างผลิตสินค้าอาหารเสริมสุขภาพ
“SCM พร้อมเดินหน้าขยายฐานสมาชิกซัคเซสมอร์ เพิ่มมากขึ้นเป็น 250,000 รายภายในปีนี้ จากเดิมที่มีฐานสมาชิกอยู่แล้ว 1.6 แสนราย ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์หลักคือ การยกระดับพลังแบรนด์องค์กร และสินค้าให้สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายและสร้างแบรนด์เลิฟเวอร์ ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานและเป็นเครื่องมือการขยายตลาด สร้างและผสมผสานระบบ Offline และ Online ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อให้รองรับและเติมเต็มจุดอ่อนจุดแข็งของทั้ง 2 ระบบ และการบริหารจัดการประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ของลูกค้า ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตให้บริษัทอย่างยั่งยืน”
ส่วนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาซอฟต์เจลที่มีส่วนผสมของกัญชง กัญชา โดยมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูเซลล์ และทำให้ผ่อนคลาย หลับสบาย คาดว่าจะสามารถออกจำหน่ายได้เร็วๆ นี้ ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกสู่ตลาด เชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และสามารถสร้างยอดขายให้กับ SCM ได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษถาคมที่ผ่านมา นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร SCM ได้เข้าซื้อหุ้น SCM เพิ่ม จำนวน 200,000 หุ้น เฉลี่ยราคา 6.30 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 184.8 ล้านหุ้น จากเดิมที่ 184.6 ล้านหุ้น โดยการเข้าเก็บหุ้นเพิ่มเติมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตที่มีโอกาสจะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งสอดรับกับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะการเตรียมเพิ่มไลน์ธุรกิจสู่ลิสซิ่งภายในไตรมาส 3/65 นี้
ขณะที่บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)ให้กรอบราคาเป้าหมายของราคาหุ้น SCM ไว้ที่ 8.0-8.8 บาท โดยประเมินอัตราการเติบโตของรายได้การเติบโตปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20% โดยได้เริ่มรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ตั้งแต่ไตรมาส 2/65 ให้กับลูกค้า SME ที่ขายสินค้าอาหารเสริมทางออนไลน์ ซึ่งมีการขยายตัวต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มรายได้ และ Utilize โรงงานของบริษัท ช่วยทำให้ประหยัดต้นทุนการผลิต รวมทั้งเพิ่มอัตรากำไร เนื่องจากธุรกิจ OEM มี Net margin ที่ 30-35% ขณะที่ SCM จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 1-2 ตัวต่อไตรมาส ซึ่งจะผลักดันยอดขายและอัตรากำไร ส่วนรายได้จากต่างประเทศ ซึ่งมาจากการมีตัวแทนจำหน่ายในกลุ่มประเทศ ASEAN คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากการคลายล็อกดาวน์ นอกจากนั้น SCM ยังมีโอกาสในการปรับลดค่าคอมมิชชันลงจากที่ระดับเกือบ 50% เนื่องจากยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ประมาณ 40% ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น
ส่วนแผนการขยายสู่ธุรกิจเช่าซื้อนั้น ทางฝ่ายวิเคราะห์มองว่า เพื่อเป็นการต่อยอดจากฐานสมาชิก โดยการจัดตั้งบริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด (บริษัทย่อยของ SCM) โดยในระยะแรกมีลูกค้าเป้าหมายคือสมาชิกนักธุรกิจเครือข่ายของ SCM โดยใช้พื้นที่สาขาของบริษัท และระยะต่อไปจะขยายไปสู่บุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการต่อยอดจากฐานสมาชิกปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 1.6 แสนราย โดยบริษัทเชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า แนวโน้มการเติบกำไรของ SCM จะเติบโตจากการเปิดเมือง ซึ่งทำให้มีโอกาสในการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์การเกษตร ได้อานิสงส์จากราคาปุ๋ยที่อยู่ในระดับสูง บริษัทมีการออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น และมีรายได้เพิ่มเติมจากการรับจ้างผลิตสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง อีกทั้ง SCM กำลังเข้าสู่ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งต่อยอดจากการมีฐานสมาชิก 1.6 แสนราย ซึ่งอาจจะเป็นอัพไซด์ต่อผลประกอบการในระยะยาว
*****