บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +50%
Close May 31, 2022 Price (THB) 24.00
12M Target (THB) 36.10
Previous Target (THB) 36.10
What’s new?
- จากการประชุมเมื่อวานนี้ บริษัทให้มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการใน 2Q65 แม้จะเข้า low season แต่ยังเห็นการเติบโตดี YoY ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม และการควบคุมต้นทุนที่ดี
- ปี 2565 คาด Outperform อุตสาหกรรม ปัจจัยหนุนจากทั้งการฟื้นตัวของธุรกิจ OEMs คำสั่งซื้อขนาดใหญ่ global market รวมถึงการฟื้นตัวของบริษัทย่อย ทั้งที่มาเลเซียและโปตุเกส
Our view
- เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 ที่คาดฟื้นตัวโดดเด่น Outperform กลุ่ม
- เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยคงมูลค่าพื้นฐาน ปี 2565 ที่ 36.10 บาท อิง PE เฉลี่ย 5 ปี ที่ 10x ซึ่งราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เพียง 6.6x ซึ่งถือว่ายังถูกมาก
AAPICO HITECH คาดเติบโตเด่นกว่าอุตสาหกรรม ราคาถูกเกินไป
แนวโน้ม 2Q65 ยังเติบโต YoY สวนทางกลุ่ม
- บริษัทให้ข้อมูลแนวโน้ม 2Q65 คาดชะลอตัว QoQ แต่ยังเติบโต YoY เทียบ QoQ ชะลอตัว ซึ่งนอกจากจะเข้าช่วง low season ซึ่งมีวันหยุดยาวหลายวัน อุตสาหกรรมยานยนต์ยังมีผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนชีพในอุตสาหกรรม และขาดแคลนตู้คอนเทรนเนอร์ ขณะที่บริษัทลูกที่จีนได้รับผลกระทบบ้างจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งทางประเทศจีนมีการ Lockdown บางพื้นที่ ขณะที่ โรงงานของบริษัทย่อยของ AH ไม่ได้โดนปิดแต่มีการผลิตลดลง อย่างไรก็ตาม เทียบ YoY คาดรายได้ยังเติบโต จากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในประเทศ โดยเฉพาะโมเดลรถกระบะ และบริษัทย่อยที่โปรตุเกสกลับมาผลิตปกติ และมาเลเซียสถานการณ์การเริ่มดีขึ้น ธุรกิจขายรถยนต์กลับมาขายปกติจากที่โดน Lockdown ในปีก่อน
- สถานการณ์ต้นทุนที่สูงขึ้นกระทบ แต่น้อยกว่าคนอื่น เนื่องจากบริษัทมีการทยอยปรับราคากับลูกค้าไปแล้วส่วนใหญ่ เนื่องจากมี lag time ในการปรับราคาเพียง 1 เดือน กอปรกับนโยบายการควบคุมต้นทุนที่ดี ทำให้อัตรามาร์จิ้นยังดีกว่าปีก่อน
คาดผลประกอบการจะฟื้นเด่นใน 2H65 ทั้งปีเติบโตดีกว่ากลุ่ม
- สถานการณ์ขาดแคลนชิพมีแนวโน้มจะดีขึ้นในช่วง 2H65 ซึ่งทำให้ผลประกอบการกลับมาเติบโตเด่น เรายังคงประมาณการรายได้ปี 2565 ที่ 24,928 ล้านบาท +22% YoY ถือว่าอนุรักษ์นิยมกว่าเป้าของบริษัทที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 30%YoY ส่วนประเด็นต้นทุนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นมองว่าไม่กระทบมากนัก โดยผลของรายได้ที่สูงขึ้นมีผลมากกว่า
- ในปี 2565 เราคงประมาณการกำไรปกติที่ 1,282 ล้านบาท (+25%YoY) โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตในปีนี้ จาก 1) อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในประเทศปีนี้คาดเติบโต 7%YoY จากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในประเทศ ส่วนประเด็นปัญหาขาดแคลนชิพเรามองว่าจะดีขึ้นใน 2H65 2) ในปี 2565 รถกระบะหลายรุ่นจะเข้าสู่รอบปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ (Model Change) (เฉลี่ยทุก 5 ปี) ดังนั้น กลุ่มลูกค้าหลายรายเริ่มทยอยนำโมเดลใหม่เข้ามาเจรจากับบริษัทอย่างต่อเนื่อง 3) บริษัทได้คำสั่งซื้อใหม่ เป็น global market สำหรับชิ้นส่วนรถกระบะ ซึ่งเป็นโมเดลที่ส่งออกทั่วโลก ซึ่งเป็นชิ้นส่วนใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยได้ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท จากกลุ่มลูกค้ายุโรป โดยในปี 2565 คาดรับรู้รายได้ราว 700 ล้านบาท 4) ผลบวกจากการที่รัฐบาลมาเลเซียมีการต่ออายุนโยบายลดภาษีรถยนต์ ทำให้ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มีแนวโน้มฟื้นตัว เทียบปีก่อนที่โดน Lockdown ไปกว่า 6 เดือน 5) บริษัทลูกที่โปรตุเกสคาดว่าจะพลิกฟื้นกลับมามีกำไรจากการฟื้นตัวของยอดขาย และมีการขยายผลิตภัณฑ์ค้าไปยังกลุ่ม Non-auto
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เรายังคงเลือก AH เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มยานยนต์ ด้วยแนวโน้มกำไรปี 2565 ที่คาดว่าจะเติบโตเด่นกว่าอุตสาหกรรม เราคงมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 36.10 บาท อิง PE เฉลี่ยที่ 10x ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เพียง 6.6x ของ EPS ในปี 2565 และคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2565 ที่ 5%