ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
ปรับฐานลงต่อ ก่อนช่วงวันหยุดยาว
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ลดลงต่อ ก่อนเข้าวันหยุดยาว 3 วัน…. หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยไซด์เวย์ก่อนปิดลบเล็กน้อย (ตามคาด) หลังจากการรีบาวด์ของค่าเงินดอลล่าร์ฯ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ กดดันให้ฟันด์โฟลว์ต่างชาติชะลอตัวลง… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อย i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลง หลังจาก CEO ของ JP Morgan ออกโรงเตือนถึงปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะถัดไป ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ ปรับขึ้นต่อแรงเมื่อคืนนี้ ตามการให้สัมภาษณ์ของผู้ว่าการเฟดสาขาเซ็นหลุยส์ นาย James Bullard ว่าเขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยถึงระดับ 3.50% ณ สิ้นปี 2565 นอกจากนี้ค่าเงินยูโรอ่อนลงแรง (หนุนดอลล่าร์ฯ แข็งอีกทางหนึ่ง) หลังจากเยอรมันรายงานยอดค้าปลีก เม.ย. ลดลงถึง 5.4% MoM และต่ำกว่าที่ตลาดคาดอย่างมาก ii) ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงประมาณ 2.0% เช้าวันนี้ หลังจากตลาดรอผลประชุม OPEC+ ในวันนี้ และยังมีความไม่แน่นอนว่ากลุ่ม OPEC+ จะตัดกำลังการผลิตน้ำมันของรัสเซียออกจากการคำนวณโควต้าการผลิตหรือไม่ ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจเปิดทางให้ประเทศสมาชิกอื่นๆ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันได้… ด้านปัจจัยภายในประเทศ เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ชะลอตัวลงอีก อยู่ที่ 2,560 ราย เสียชีวิต 34 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 5,605 ราย ขณะที่ในวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการประชุมรัฐสภาเรื่อง พรบ. งบประมาณของไทยปี 2566 ซึ่งน่าจะมีการลงมติในเร็วๆ นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร BLA*, UBE, LEO
- BLA* (เป้า Consensus 53 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 29.5 บาท / แนวต้าน 41.5 บาท กรณี Breakout ผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 42 – 44 บาท (Stop loss 39 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เริ่มฟื้นตัว ก่อนการประชุมเฟด เดือนนี้ 3) Valuation ไม่แพง Forward PE 16.6 เท่า ขณะที่ Consensus คาดกำไรปีนี้โต +48% YoY
- UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.08 บาท / แนวต้าน 2.16 – 2.2 บาท กรณี Breakout กรอบแนวต้านนี้ได้มีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 2.3 (Stop loss 1.98 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มกำไร 2Q65 ทรงตัว QoQ บริเวณ +100 ล้านบาท (แม้จะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน 14 วัน) และจะไปฟื้นตัวแรงใน 30 – 40 จาก i) การส่งออกแป้งมัน (Starch และ Flour) โดยคาดความต้องการสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นตามการเปิดประเทศในหลายๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้งการเป็นสินค้าทดแทนแป้งสาลีที่ขาดแคลน โดยเฉพาะที่ยุโรป และ ii) ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามการเปิดประเทศ หนุนความต้องการใช้เอทานอล 3) Valuation ไม่แพง Forward PE 16 เท่า และ PEG ต่ำเพียง 0.69 เท่า (ฝ่ายวิจัยฯ คาด EPS โต +40% CAGR 2564 – 66)
- LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.7 บาท / แนวต้าน 13.4 บาท กรณี Breakout ผ่านแนวต้านนี้ได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 14.0 บาท (Stop loss 12.5 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการที่จีนเริ่มคลายการล็อคดาวน์ และมาตรการอัดฉีดงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนจะหนุนการเร่งนำเข้าสินค้าเพื่อ Re-stock อีกครั้ง โดยเริ่มเห็นการฟื้นตัวของดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์แล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา 3) จากการ Conference call กับผู้บริหาร คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q – 3Q ยังดีต่อเนื่อง และคาดมีการเพิ่มเที่ยวบินขนส่งสินค้าของทาง China Post เพิ่ม ชดเชยความล่าช้าของการขนส่งผ่านรถไฟจีน – ลาว เราอยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯ ขึ้น ทั้งนี้ Consensus คาดกำไรปีนี้โต +27% YoY และ Forward PE ลดลงต่ำเพียง 15 เท่า
หุ้นมีข่าว
(+) SGP จ่อซื้อกิจการตั้งเป้ารายได้โต 10-15% (กรุงเทพธุรกิจ) คาดครึ่งปีหลังปริมาณขายก๊าซแอลพีจีดีขึ้น เหตุเป็นไฮซีซัน “สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์” แย้มมีแผนศึกษาการซื้อกิจการ (M&A) ตลอด แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุป พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% ขานรับปริมาณขายราคาพุ่ง เผยวางงบลงทุน 400-500 ล้าน ขยายคลังบรรจุก๊าซที่ถนนสุขสวัสดิ์
(+) WP ราคา LPG ขึ้น ดันกำไรสต๊อกพุ่ง (ข่าวหุ้น) WP ลุ้นรายได้ปีนี้โตเกินเป้า 1.2 หมื่นล้านบาท หลังรับปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นราคาขาย LPG ในประเทศ ดันมาร์จิ้นในสต๊อกพุ่ง ขณะที่คงเป้ายอดขายปีนี้ 7.65 แสนตัน ส่วนธุรกิจโรงซ่อมถังปีนี้เริ่มเห็นตัวเลขกำไรเพิ่มขึ้น
(+) ‘ชัชชาติ’ เร่งหนุนอีวี EA*-FORTH ชาร์จไฟ (ทันหุ้น) อีวีรับข่าวดีนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ คนใหม่ ดันระบบนิเวศรถพลังงานไฟฟ้า ดันติดตั้งสถานีชาร์จ ขณะที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศให้เงินหนุน 1.5 แสนบาท โบรกมองกลุ่มที่ชาร์จอีวีรับอานิสงส์กลุ่มแรก FORTH, OR*, EA*, BANPU* นำทีม ขณะที่ AH, SAT ได้ด้วย จับตาขสมก.คลอดทีโออาร์จ้างวิ่งรถอีวี 224 คัน โอกาส EA*, NEX, BYD
(+) BE8 ผนึก ‘PTT Digital’ สู่เทคโนโลยีครบวงจร (ทันหุ้น) “BE8” ผนึกกำลัง “PTT Digital” เสริมแกร่งเทคโนโลยี ปักธงการพัฒนาและให้บริการ CRM Solutions ครบวงจร หนุนองค์กรทรานส์ฟอร์ม ชูการ Synergy มุ่งขยายฐานลูกค้า ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
(+) CRC* ทุ่ม 1.7 หมื่นล.เสริมแกร่ง ปรับโฉม “โรบินสันไลฟ์สไตล์” (ทันหุ้น) CRC* กางแผนเสริมศักยภาพ “โรบินสันไลฟ์สไตล์” ทุ่มงบ 1.7 หมื่นล้านบาท ใน 5 ปี ปรับโฉมศูนย์การค้าให้มีความแตกต่างอย่างเหนือระดับทุกมิติ รองรับความต้องการลูกค้า คาดปี 2565 มีแผนเปิดตัวศูนย์การค้าแห่งใหม่ 2 สาขา จ.ภูเก็ต และราชพฤกษ์ ดันรายได้รวมปี 2565 โตเกิน 30%
(0) MALEE-ABICO ชนซิลลิ่ง รับแผนเทนเดอร์แลกหุ้น (ข่าวหุ้น) MALEE ควง ABICO พุ่งแรงชนซิลลิ่ง รับแผน MALEE เตรียมทำเทนเดอร์ ABICO โดยการสวอปหุ้นกันในช่วงไตรมาส 3/65 และคาดควบรวมกิจการแล้วเสร็จไตรมาส 4/65 ก่อนจะถอด ABICO ออกจากตลาดหุ้น โบรกฯ เชื่อหนุนผลงาน MALEE พลิกมีกำไร
(0) TRUE* เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 บริษัทได้ขายหน่วยลงทุนใน DIF จำนวน 300 ล้าน หน่วยให้แก่นักลงทุน โดยกำหนดราคาจำหน่ายหน่วยลงทุนจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ ของนักลงทุน (book building) ทั้งนี้ การขายหน่วยลงทุนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.82 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุน โดยหลังจากการขายหน่วยลงทุนแล้ว กลุ่มบริษัทจะถือหน่วยลงทุนในสัดส่วนประมาณร้อยละ 20.56 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุน (SET) เรามองเรื่องดังกล่าวเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเพียงในระยะสั้น ซึ่งเป็นภาพเดียวกับที่ TRUE เคยขาย DIF จำนวน 300 ล้านหน่วยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 อย่างไรก็ตาม ราคากองทุนก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตามมา ซึ่งเราเห็นว่าปัจจัยพื้นฐานกองทุนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ราคากองทุนที่อ่อนลงจะส่งผลให้ dividend yield ปรับตัวขึ้นจากระดับปกติราว 7% ต่อปี ดังนั้น เรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ DIF
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- BEM* (เป้า Consensus 9.9 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 9.0 บาท)
- IVL* (เป้าพื้นฐาน 59 บาท) แนวรับ 48.75 บาท / แนวต้าน 50-52 บาท (Trailing stop 47.75 บาท)
- CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) แนวรับ 26.0 บาท / แนวต้าน 26.5-27.0 บาท (Trailing stop 25.25 บาท)
- OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) แนวรับ 12.5 บาท / แนวต้าน 13.1-13.6 บาท (Stop loss 12.4 บาท)
- MAJOR* (เป้า Consensus 24.7 บาท) แนวรับ 21.2 บาท / แนวต้าน 21.6-22.2 บาท (Stop loss 20.8 บาท)
- IP (เป้า Consensus 26.6 บาท) แนวรับ 20.0 บาท / แนวต้าน 20.7-21.0 บาท (Stop loss 19.7 บาท)
- BEC* (เป้าพื้นฐาน 18 บาท) แนวรับ 15.5 บาท / แนวต้าน 16.0-16.5 บาท (Stop loss 15.0 บาท)
- INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 89.5 บาท) แนวรับ 71.25 บาท / แนวต้าน 73-74 บาท (Stop loss 71.0 บาท)
- CPALL* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) แนวรับ 65.5 บาท / แนวต้าน 67.0-68.0 บาท (Stop loss 65 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- BCPG* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 12.7 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ”) แม้คาดผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตเด่น +76% YoY แต่คาดหาก BCPG ยังไม่มีการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มเติม Earnings momentum จะเริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่ปี 2566 (โครงการโซลาร์ฟาร์ม เริ่มทยอยหมดค่า Adder) จึงแนะนำเพียง “ถือ”