บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Initiate)

TP upside (downside) +39.9%

Close Jun 7, 2022 Price (THB) 3.46

12M Target (THB) 4.84

Previous Target (THB) –

What’s new?

  • ยอดคำสั่งซื้อที่เต็มกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี หนุนรายได้ และกำไร All time high ต่อเนื่อง
  • PIMO เป็นรายเดียวในไทย และ 1 ใน 3 รายในโลก ที่มีสิทธิบัตร BLDC ซึ่งการเปลี่ยนกฎหมายในสหรัฐฯ ทำให้อุปสงค์ BLDC เพิ่มขึ้น พร้อมโอกาสจากการเปลี่ยนกฎใน EU และออสเตรเลีย
  • รายได้จาก Motor EV ที่ยังไม่รวมในประมาณการ คาดจะรับรู้ช่วง 4Q65 เสริมยอดขายได้อีกราว 15-30% ของยอดขายที่เราคาดการณ์ในปี 2566

Our view

  • เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ PIMO จากการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดกำไรปกติปี 2565 ที่ 139 ลบ. (+36%YoY)
  • เราประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ด้วยวิธี PER multiple +0.5SD ของ P/E band ย้อนหลัง 3 ปี เทียบเท่า PER2565 ที่ 27.6 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย 4.84 บาทต่อหุ้น มี Upside 40% เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ”

PIONEER MOTOR มอเตอร์น้อยลอยอยู่ใน Blue Ocean

Order แน่นถึงสิ้นปี หนุนรายได้ All time high

สินค้าที่ PIMO ผลิตและจัดจำหน่ายแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1) มอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ 2) มอเตอร์กำลังสำหรับภาคอุตสาหกรรม และ 3) เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง และมอเตอร์สำหรับสระและสปา โดยมีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 33%, 7% และ 59% ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขายแบบ OEM ทั้งนี้ใน 1Q65 มีสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 60% โดยเราประเมินรายได้จากการขาย ณ สิ้นปี 2565 จะทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69%YoY หนุนจากยอดคำสั่งซื้อมอเตอร์ AC ที่เต็มกำลังการผลิตไปจนถึง 3Q65 และมอเตอร์ BLDC ที่เต็มกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี 2565 แม้ 1Q65 จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นมากดดัน GPM เหลือเพียง 16.2% แต่บริษัทมีการปรับราคาขึ้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 20% รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าช่วยลดผลกระทบ ทำให้ GPM ทั้งปี 2565 เราคาดการณ์ที่ 18% ลดลงจาก 18.9% ในปี 2564 แต่ยังทำให้กำไรปกติในปี 2565 ทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกที่ 139 ล้านบาท เติบโต 36%YoY เทียบเท่า EPS ที่ 0.17 บาทต่อหุ้น เราใช้ PER2565 ที่ 27.6เท่า (+0.5SD) ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 4.84 บาท มี Upside gain 40% ปัจจุบันซื้อขายที่ PER2565 เพียง 19.8 เท่า จึงเริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ”

BLDC Motor เพราะยังเล็ก จึงเติบโตได้อีกมาก

PIMO เป็นรายเดียวในประเทศไทยและ 1 ใน 3 รายในโลก ที่มีสิทธิบัตรการผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ BLDC สำหรับสระน้ำ โดยสิทธิบัตรมีอายุคงเหลืออีก 16 ปี ซึ่งยอดคำสั่งซื้อที่เต็มกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี 2565 มาจากลูกค้าในต่างประเทศที่เร่งผลิตมอเตอร์สำหรับสระน้ำ เนื่องจากการเปลี่ยนกฎหมายในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม PIMO ยังมีกำลังการผลิตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับผู้ผลิตในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เบื้องต้นเราประเมินว่าอัตราการเปลี่ยนปั้มสระน้ำในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ราว 0.9 – 1.3 ล้านตัวต่อปี ซึ่งอัตราการผลิตของ PIMO ปัจจุบันอยู่ที่ราว 37,000 ลูกต่อปีเท่านั้น ทำให้ยังมีโอกาสในการเติบโตสูงจากมูลค่าตลาดในสหรัฐฯ ที่สูงถึงราว 7,500 ล้านบาท (อิงสมมุติฐานอัตราการเปลี่ยนปั้มสระน้ำที่ 1 ล้านตัวต่อปี และราคา ขายมอเตอร์ที่ 7,500 บาทต่อลูก) และยังมีโอกาสที่ออสเตรเลียและสหภาพยุโรปซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของ PIMO จะเปลี่ยนกฎหมายแบบเดียวกับสหรัฐฯ ซึ่งจะผลักดันให้ตลาด BLDC เติบโตสูงขึ้นไปอีก โดย PIMO มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตมอเตอร์ BLDC เป็น 47,500 ลูก และ 63,300 ลูกต่อปีในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ โดยเรารวมรายได้ส่วนนี้เข้าไปในประมาณการปี 2565 และ 2566 แล้ว

ตลาด AC กับลูกค้ารายใหญ่ที่เติบโตต่อเนื่อง และ “EV” ตลาดใหม่ที่น่าจับตา

ปัจจุบันบริษัทขายมอเตอร์ AC ให้กับลูกค้ารายใหญ่หลายราย หนึ่งในนั้นคือมิตซูบิชิ ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศชั้นนำ และผู้ผลิตปั้มน้ำอันดับหนึ่งในไทย ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลัง COVID-19 ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าปีที่ผ่านมา และราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้นทำ ให้เกษตรกรมั่นใจในการขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น หนุนความต้องการใช้ปั๊มน้ำและเครื่องจักรการเกษตรให้สูงขึ้น รวมถึงการติดตั้งหรือเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศและปั๊มน้ำในบ้านมากขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้มอเตอร์สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าก็เป็นรายได้อีกช่องทางของ PIMO ที่น่าสนใจเช่นกัน

ปัจจุบันบริษัทมีคู่ค้าที่จับมืออยู่ 3 ราย โดยเราประเมินสมมุติฐานเบื้องต้น คู่ค้า 3 รายดังกล่าวจะผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้อยู่ที่ราว 60,000 คันต่อปี และราคาขายของมอเตอร์ชนิดนี้อยู่ที่ 5,000-10,000 บาทต่อลูก จะทำให้บริษัทมีรายได้จากสินค้าชนิดนี้เพิ่มขึ้นอีกราว 300 – 600 ล้านบาทต่อปี หรือราว 15-30% ของยอดขายที่เราประมาณการในปี 2566 โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มมีรายได้เข้ามาช่วง 4Q65 ซึ่งเรายังไม่ได้รวมรายได้ส่วนนี้เข้าไปในประมาณการ

การประเมินมูลค่า

โดยเราให้ PER สูงกว่าค่าเฉลี่ย จากการขายมอเตอร์ BLDC ที่มีพื้นที่ให้ขยายตลาดได้อีกค่อนข้างมาก เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนมอเตอร์สระน้ำจาก AC เป็น BLDC นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่คู่ค้าหลักในปัจจุบันอย่างออสเตรเลียและสหภาพยุโรปจะหันมาใช้กฎหมายแบบเดียวกับสหรัฐอเมริกา เราใช้วิธี PER multiple ในการประเมินมูลค่า PIMO โดยอิง PER2565 ที่ 27.6 เท่า เทียบเท่า +0.5SD ของค่าเฉลี่ย ย้อนหลัง 3 ปี จากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันต่ำ ทำให้กำไรทำ New high ได้ต่อเนื่องเช่นกัน ราคาดกำไรปกติปี 2565 ที่ 139 ล้านบาท เติบโต 36% YoY คิดเป็น EPS ที่ 0.17 บาทต่อหุ้น ได้มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2565 ที่ 4.84 บาทต่อหุ้น มี Upside gain ที่ +40% ทั้งนี้ประมาณการของเรายังมี Upside จากมอเตอร์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีรายได้เข้ามาช่วง 4Q65 ปัจจุบัน PIMO ซื้อขายบน PER2565 ที่ 19.8 เท่า เราจึงเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -