Our View? “ยังไม่ไหว”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,630 / 1,620 และแนวต้านที่บริเวณ 1,640 / 1,645 คาดตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีโอกาสเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อสกัดการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ โดย FED สาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจําลอง GDPNow Tracker มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าว ขณะที่คาดการณ์ GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะอยู่ที่เพียง 0.9% หลัง -1.5% ในไตรมาส 1 อีกทั้งเรายังคาดว่าตลาดจะให้นํ้าหนักกับการติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คาดจะยังอยู่ในระดับสูงกว่า +8.2% YoY +0.7% MoM ใกล้เคียงเดือนก่อนหน้าที่ระดับ +8.3% YoY +0.3% สะท้อนทิศทางเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง คาดจะกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับการที่ FED ยังมีแนวโน้มเร่งขึ้นดอกเบี้ยนานกว่าที่ตลาดคาดไว้ คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลงได้ต่อ
ขณะที่วันนี้แนะนำติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดจะยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป แต่อาจจะส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย และคุมเข้มนโยบายทางการเงินเพื่อสกัดการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ถือเป็นจุดสิ้นสุดของช่วงการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของ ECB มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบในแง่สภาพคล่องจาก EU ที่ลดลง สอดคล้องกับสภาพคล่องจากสหรัฐที่เริ่มลดลงแล้วก่อนหน้า กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. เมื่อคืนนี้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องปิดที่ระดับ 122.1 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.70 ดอลลาร์ (+2.26%) โดยได้แรงหนุนหลักจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้าน การพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 8 แสนบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่ตลาดคาด สะท้อนอุปสงค์ภายในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นช่วยประคองตลาดใด้บ้าง
อย่างไรก็ดี เรายังมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออกอาหาร (CPF, GFPT, TFG, TU, TWPC, CFRESH และ CM) รวมทั้งหุ้นในกลุ่มน้ำมันปาล์ม (UVAN, CPI, VPO) จากวิกฤตขาดแคลนอาหารโลก โดยปัจจุบันราคาอาหาร โลกยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
ในส่วนของปัจจัยในประเทศเรามีมุมมองเชิงลบต่อผลการประชุม กนง. เมื่อวานนี้ แม้จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% แต่เริ่มมีการส่งสัญญาณการเตรียมขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาด จากผลประชุมอยู่ที่ระดับ 4:3 โดยคณะกรรมการ 3 ท่าน มีมุมมองเศรษฐกิจไทยและความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อทำให้ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว เรามองเป็นการส่งสัญญาณว่าปลายไตรมาส 3 อาจเห็นการขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ได้ ซึ่งถือว่าเร็จกว่าที่ตลาดคาดก่อนหน้า รวมทั้งคาดจะกดดันทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้เช่นกัน มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันทิศทางตลาดได้อีก ทั้งเรายังมีมุมมองเชิงลบต่อทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มขายหุ้นออกมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันตั้งแต่เข้า เดือน มิ.ย. รวม โดยขายไปแล้วกว่า 6.54 พันล้านในเดือน มิ.ย. นี้ รวมทั้งอยู่ในฝั่ง Short SET50 Index Futures กว่า 2.95 หมื่นสัญญาในช่วงเวลาเดียวกัน คาดจะกดดันทิศทางหุ้นไทยได้อยู่
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “CPF”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 26.25 / 25.75 Target 29.50 / 30.50 Stop<25.00