บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +31.4%

Close Jun 9, 2022 Price (THB) 51.75

12M Target (THB) 68.00

Previous Target (THB) 56.50

What’s new?

  • เราชอบกลยุทธ์การพยายามต่อยอดจาก CRM Platform ไปสู่การเป็น End-to-End Platform สําหรับด้าน Digital Transformation ที่จะมีมูลค่าสูงกว่าเดิมมาก
  • เราคาดว่าเป้าหมายการเติบโตสู่รายได้ 2 พันล้านบาทภายในปี 2567 ของ BE8 ท้าทายแต่เป็นไปได้ เราคาดจะเห็นบริษัทฯ เดินหน้าต่อยอดในงานภาครัฐ และการ M&A เพื่อเสริมศักยภาพ Platform ปัจจุบัน

Our view

  • เราปรับเพิ่มราคาเหมาะสมของ BE8 เป็น 68.00 บาทต่อหุ้น หลักๆ จากการ Roll Over ไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 และการปรับเพิ่ม PER ขึ้นเป็น 65 เท่า
  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้หุ้นปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่ภาพการเติบโตไปสู่รายได้ 2 พันล้านบาท ภายในปี 2567 ยังไม่สะท้อนในราคา หากทำได้หุ้นมีโอกาสไปต่อได้อีกมาก และ Risk Reward ปัจจุบันยังน่าสนใจ

BERYL 8 PLUS เป้าหมายเติบโต 5 เท่าใน 3 ปี ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

กลยุทธ์สร้าง Ecosystem สำหรับ Digital Transformation ให้สมบูรณ์แบบ

เป้าหมายหลักทางธุรกิจของ BE8 คือการสร้าง Ecosystem ให้กับ Platform Digital Transformation ของ ตัวเองให้สมบูรณ์แบบ ปัจจุบัน BE8 แข็งแกร่งด้านการวางกลยุทธ์ การนำเสนอเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ ระบบ CRM และ Integration หนุนหลักๆ ด้วยระบบของ Salesforce และ MuleSoft แต่ระยะถัดไปบริษัทฯ ต้องการเพิ่มบริการ 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) ด้าน Digital Agency เช่น การใช้เทคโนโลยีมายกระดับ Brand การออกแบบ Marketing Campaign 2) ด้าน Cyber Security เช่น การออกแบบระบบ Enterprise security architecture และ 3) งานด้าน Experience Design เช่น การออกแบบ digital products เป็นต้น ซึ่งงานทั้ง 3 ส่วนมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับฐานลูกค้าปัจจุบันของ BE8 ที่ใช้บริการ CRM และ Integration Platform อยู่แล้ว

หาก BE8 ทำสำเร็จ บริษัทฯ จะยกระดับจากการเป็นตัวแทนของ CRM เบอร์ 1 โลก กลายเป็นผู้ถือครอง End-to-End Digital Transformation Platform ชั้นนำระดับ Regional ซึ่งเป็นก้าวย่างสำคัญที่ต้องติดตาม เพราะจะทำให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อีกมากทั้งในแง่ธุรกิจ และการทำกำไร

เป้าหมายรายได้ 2 พันล้านบาท ภายในปี 2567 มีโอกาสเกิดขึ้นได้

ขณะที่เป้าหมายทางการเงินของบริษัทฯ มีความน่าสนใจ BE8 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5 เท่าใน 3 ปี หรือหมายถึงเป้าหมายรายได้ 2 พันล้านบาทภายปี 2567 เราประเมินเป้าหมายดังกล่าวมีโอกาสเป็นไปได้ เนื่องจาก

1) ธุรกิจหลัก แม้ Salesforces จะมีฐานรายได้สูงมากแล้ว แต่ Salesforces ก็ยังตั้งเป้าหมายเติบโตรายได้กว่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2569 จากระดับ ณ สิ้นปี 2564 ที่ 2.6 หมื่นล้านเหรียญในปี 2564 ขณะที่ BE8 อยู่ในภูมิภาคที่ Penetration ด้าน Digital Transformation ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกมาก และมีฐานรายได้ต่ำมาก ทำให้มีโอกาสเติบโตเด่นกว่าเป้าหมายของ Salesforces

2) บริษัทฯ วางเป้าหมายจะเติบโตผ่านการ M&A ซึ่งหากอิงจากดีลที่ผ่านมา (กรณีของ X10) บริษัทฯ ใช้การ SWAP หุ้น และจ่ายเงินสดเพียงบางส่วนเท่านั้น ทำให้ยังมีงบดุลที่แข็งแกร่ง มีเงินสดเหลือสำหรับ M&A เพิ่มเติมได้อีก เราคาดบริษัทฯ จะเดินหน้าเข้าซื้อกิจการเพื่อเข้ามาเสริมการทำ Digital Transformation ให้ครบสมบูรณ์ตามแผนในช่วง 1-2 ปีจากนี้

3) การปรับ Model ไป partner กับลูกค้ามากขึ้น เช่น การเข้าจับมือกับ PTT Digital Solution ซึ่งเป็นหัวหอกด้าน Digital Transformation ให้กับ PTT Group การร่วมมือกับลูกค้าจะนำไปสู่การมีรายได้สม่ำเสมอและต่อเนื่องด้วยงานขนาดใหญ่ในระยะถัดไป

และ 4) การปรับไปรับงานภาครัฐ ซึ่งเป็นโอกาสใหญ่ที่ยังต้องการ Digital Transformation อีกมาก

คงประมาณการปี 2565/66 … เริ่ม Introduce ประมาณการปี 2567

คาดผลประกอบการ 2Q65 ที่ 29.5 ล้านบาท (+24.2% QoQ, +21.2% YoY) จากรายได้ที่เติบโตเด่นและ แนวโน้มการทำกำไรที่แข็งแกร่ง เราคงประมาณการปี 2565-2566 และแนะนำประมาณการปี 2567 เป็นครั้งแรก โดยคาดว่าบริษัทฯ จะเติบโตได้ตามเป้าหมายรายได้ 2 พันล้านบาท หนุนจากการเติบโตในธุรกิจปัจจุบัน และการทำ M&A ภายใต้งบดุลที่แข็งแกร่ง 65x

ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 68.00 บาทต่อหุ้น อิง PER

เราคาดกำไรปกติของ BE8 ในปี 2565-2567 ที่ 135 / 225 / 391 ล้านบาท คิดเป็น CAGR ที่ 70% เราคง คำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมของ BE8 โดยใช้กำไรปี 2566 ที่ 68.00 บาทต่อหุ้น อิง PER65x หุ้นสมควรซื้อ ขาย สูง เนื่องจากขนาดของตลาดที่ใหญ่และฐานกำไรยังเล็กทำให้โอกาสเติบโต ของกำไรยังเป็นไปได้อีกมาก

ความเสี่ยงสำคัญ คือ 1) ความเสี่ยงจากการพึ่งพิง Supplier ในฐานะผู้พัฒนาระบบซอฟท์แวร์หลักของบริษัทฯ 2) สูญเสียทรัพยากรบุคคลสำคัญ และ 3) Synergy ระหว่าง X10 ไม่เกิดอย่างที่คาด

Valuation

เราประเมินมูลค่าของ BE8 ด้วยวิธี PER โดยประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 68.00 บาทต่อหุ้น เราคาดการณ์กำไรปกติปี 2566 ที่ 225 ล้านบาท (+66.7% YoY) แต่เนื่องจากมี Dilution ทำให้คาด EPS ปี 2566 ที่ 1.05 บาทต่อหุ้น (+60.1% YoY) และเราใช้ PER 65x ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมในมุมมองของเราเพราะสะท้อนโอกาสการเติบโตของกำไรจากขนาดของตลาดที่ใหญ่ และฐานกำไรยังเล็ก

BE8 Business Plan & Financial Target

BE8 มีความเชี่ยวชาญในด้านการวางกลยุทธ์ การนำเสนอเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบ CRM ของ Salesforce แต่ระยะถัดไป บริษัทฯ ต้องการเพิ่มการให้บริการเพื่อปรับตัวเองเป็นผู้นำด้าน End-to-End Digital Transformation Platform เริ่มด้วยแผนการซื้อบริษัท X10 Partner หลักของ MuleSoft ซึ่งเป็น Integration Platform ที่มีขนาดตลาดใหญ่ และอยู่ใน Universe ของ Salesforce เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ BE8 นำเสนอโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

ต่อจากนี้ BE8 มีแผนจะเดินหน้าเพิ่มการให้บริการหลักอีก 3 ส่วนได้แก่ 1) ด้าน Digital Agency เช่น การใช้เทคโนโลยีมายกระดับ Brand 2) ด้าน Cyber Security เช่น การออกแบบระบบ Enterprise security architecture และ 3) งานด้าน Experience Design เช่น การออกแบบ digital products เป็นต้น ซึ่งงานทั้ง 3 ส่วนมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับฐานลูกค้าปัจจุบันของ BE8 ที่ใช้บริการ CRM และ Integration Platform อยู่แล้ว

หาก BE8 ทำสำเร็จ บริษัทฯ จะยกระดับจากการเป็นตัวแทนของ CRM เบอร์ 1 โลกกลายเป็นผู้ถือครอง End-to-End Digital Transformation Platform ชั้นนำระดับ Regional ซึ่งเป็นก้าวย่างสำคัญที่ต้องติดตามเพราะจะทำให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อีกมาก

BE8 เริ่มปรับ Business Model ไปร่วมมือกับลูกค้ามากขึ้น เช่น การลงนามในสัญญาความร่วมมือกับ PTT Digital Solution ซึ่งเป็นหัวหอกด้าน Digital Transformation ให้กับ PTT Group เพื่อนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทฯ มาพัฒนา และส่งมอบ CRM Solutions แบบครบวงจร ซึ่งการร่วมมือกับลูกค้าจะนำไปสู่การมีรายได้สม่ำเสมอและต่อเนื่องด้วยงานขนาดใหญ่ในระยะถัดไป ขณะที่ประโยชน์สำคัญของการร่วมมือครั้งนี้นอกเหนือจากการได้ฐานลูกค้าขนาดใหญ่อย่างกลุ่ม ปตท. อยู่ที่ความเชี่ยวชาญของ PTT Digital ในด้าน Enterprise Digital Solutions และ Customer Service Operation จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ BE8 พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน CRM ของไทย

Salesforce Target & Performance

Salesforces ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ CRM ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้กว่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2569 จากระดับ ณ สิ้นปี 2564 ที่ 2.6 หมื่นล้านเหรียญในปี 2564

Salesforce รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 มีรายได้ 7.41 พันล้านเหรียญสหรัฐ (+24.3% YoY) และสูงกว่าที่ Consensus คาดการณ์ไว้ที่ราว 7.38 พันล้านเหรียญสหรัฐ (+23.7% YoY) โดย Salesforce ยังให้ Guidance การเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2 สะท้อนความต้องการด้านซอฟต์แวร์ จากองค์กรต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่ และยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ BE8 อยู่ในภูมิภาคที่ Penetration ด้าน Digital Transformation ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกมาก และมีฐานรายได้ต่ำมากทำให้มีโอกาสเติบโตเด่นกว่า

คาดผลประกอบการ 2Q65 เติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY

คาดผลประกอบการ 2Q65 ที่ 29.5 ล้านบาท (+24.2% QoQ, +21.2% YoY) จาก 1) คาดรายได้ที่ 135 ล้านบาท (+9.9% QoQ, +47.5% YoY) เติบโตจาก Backlogs ณ สิ้น 1Q65 ที่ 564 ล้านบาท (+240% YoY) และมีงานรอเข้าประมูลอีก 596 ล้านบาท หนุนจากการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเจาะกลุ่มลูกค้าภาครัฐ 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 46.0% (+158bps QoQ, -673bps YoY) ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต แต่เนื่องจากว่าคาดจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Consulting ซึ่งเป็นงานโครงการ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเทียบ YoY และ 3) คาด SG&A ที่ 32 ล้านบาท (+1.8% QoQ, +35.3% YoY) คาด SG&A to sale ที่ 25% ใกล้เคียงที่ทำได้ใน 1Q65 และ 2Q64

หากกำไรออกมาตามคาดกำไร 6M65 จะคิดเป็น 40% ของประมาณการทั้งปี 2565 ของเรา แต่เราคาดบริษัทฯ จะมีผลประกอบการเด่นในช่วง 2H หลังมีการเปิดประเทศอย่างเต็มตัว หลายองค์กรจะเริ่มลงทุนด้านดิจิทัลมากขึ้น สะท้อนใน Backlogs ของบริษัทฯ ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดได้ผลบวกจากรวมงบบริษัท X10 หากผ่านประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนก.ค.65 ทำให้เราคงประมาณการปี 2565 ที่กำไรปกติ 135 ล้านบาท (+60.0% YoY)

- Advertisement -