Daily Focus: Value and Defensive Play

2022 SET Target: 1770

ดลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลง 8.72 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลัง ECB ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยและยุติ QE รวมถึงกังวลกนง.ขึ้นดอกเบี้ยเร็ว นอกจากนี้ยังรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนวันศุกร์ สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ่น 906 ลบ.และ 3.9 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติพลิกมา Short Index Futures 6.2 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกทดสอบระดับ 1,600-1,610+- จุด หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน พ.ค. ออกมาสูงกว่าตลาดคาด กดดัน FED ให้มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเร่งในการประชุมสัปดาห์นี้และใน 2H22 เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและถือครองดอลลาร์ ตลาดกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และอยู่ในภาวะ Stagflation ส่วนปัจจัยในประเทศแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังไม่สูงเท่า และเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตเร่งตัวตามการเปิดประเทศ ทำให้การปรับลงคาดไม่รุนแรงเท่าภูมิภาคอื่นๆ อย่างไรก็ตาม จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ ประกอบกับ Valuation ของตลาดฯ ที่ฝังตัว และประมาณการ EPS และ SET Target ปัจจุบันที่ 1,770 จุด มี Downside เราจึงยังรอจังหวะปรับฐานของดัชนีลงต่ำกว่า 1,600 ก่อนพิจารณาเข้าลงทุนอีกครั้ง ส่วนหุ้นยังเน้นกลุ่ม Value และ Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 สินค้าบริการจําเป็น ที่มี PER/PBV ต่ำกว่าช่วงปี 2019 ก่อนมี COVID-19

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และ Defensive Play ที่แนวโน้มกําไร 2Q22-2422 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD

หุ้นเด่นวันนี้ : PR9

  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 16.50 บาท
  • แนวโน้มกาไร 2Q22 ยังเร่งตัวแกร่ง Y-Y จากทิศทางรายได้เดือน เม.ย.-พ.ค. ที่ยังแข็งแรง โดยเฉพาะการรักษาโรคซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น
  • ผู้บริหารคาดว่าเป้ารายได้ปีนี้ที่ +15% Y-Y อาจมี Upside เป็น +20% Y-Y จากทั้งรายได้ผู้ป่วยต่างชาติและไทยที่ฟื้นตัว ส่วนเงินเฟ้อกระทบจํากัดต่อ PR9 จากราคาที่ยังถูกกว่าโรงพยาบาลระดับใกล้เคียงกันอื่นๆ คาดกําไรปีนี้ +65% Y-Y
  • แนวรับ 13.80 บาท แนวต้าน 14.80-15//15.50 บาท

Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่นอีก US$1,478 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$701 ล้าน และ US$633 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนไหลออกเกือบทุกประเทศ นำโดยไทย US$111 ล้าน มีเพียงเวียดนามที่ไหลเข้าบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังไหลออกหนาแน่นต่อเนื่องหลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าคาด ทำให้ตลาดยังเทขายสินทรัพย์เสี่ยง กังวล FED ขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นในการประชุมสัปดาห์นี้

ประเด็นสําคัญวันนี้

(-) เฟ้อสหรัฐฯ เดือน พ.ค. สูงกว่าคาด เงินเฟ้อทั่วไปออกมา +1% M-M, +8.6% Y-Y เพิ่มขึ้นในอัตราเร่งจากเดือนก่อนหน้า ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.6% M-M, +6% Y-Y ส่งสัญญาณว่าการชะลอตัวของเงินเฟ้อยังช้ากว่าที่ตลาดคาดหวัง และทำให้การประชุม FED สัปดาห์หน้า แน่นอนว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.5% แต่หากปรับขึ้น 0.75% จะยิ่งเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากสะท้อนความกังวลด้านเงินเฟ้อของ FED ที่สูงขึ้น เรายังเน้นลงทุนหรือพักเงินในกลุ่ม Value และ Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการจำเป็น ซึ่งคาดมีความผันผวนน้อยกว่าตลาด

(+) TLI บริษัทประกันชีวิตใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทย มีช่องทางตัวแทนที่แข็งแกร่ง ผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตอบโจทย์ ส่วนด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินมีประสิทธิภาพ มีอัตราส่วนทางการเงินดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม เราคาดว่าตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป อุตสาหกรรมประกันภัยโดยเฉพาะ TLI จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และความตื่นตัวต่อการซื้อประกัน คาดกำไรปี 2022-2024 +16% CAGR ประเมินมูลค่าหุ้นได้ในช่วง 2-2.41 แสนลบ. อิง P/EV ที่ 1.22-1.47 เท่า (Source: FSSIA)

(0) KSL กำไรปกติ 2Q22 Flat Q-Q, +141% Y-Y ถือว่าไม่แย่ แต่สดใสน้อยกว่าคาด รายได้ฟื้นตัวดีตามปริมาณและราคาที่สูงขึ้น แต่ Gross Margin ลดลงจากราคาอ้อยและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น แนวโน้ม 2H22 จะอ่อนตัวลง H-H ดามฤดูกาล แต่ยังเติบโตดี Y-Y ยังคาดกาไรปีนี้ +92% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 4.70 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”

(0) ITEL ค่าไฟที่ปรับขึ้นเป็นขั้นบันได และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นดูเหมือนกระทบบริษัท แต่รายได้จาก Data center ซึ่งใช้ไฟมากมีสัดส่วนเพียง 3-5% ของรายได้ ส่วน Etix Itel Bangkok บริษัทถือหุ้นเพียง 33% สําหรับดอกเบี้นที่เปลี่ยนไปทุก 1% อาจกระทบกำไรราว 9% แต่บริษัทชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่การรวม Blue Solutions เข้ามาเต็มไตรมาสตั้งแต่ 2Q22 เชื่อทำให้กําไรโตทั้ง Q-Q, Y-Y เราคงประมาณการกำไรปี 2022-24 แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 6.70 บาท โดยรวม ITEL-W3 ที่เหลือทั้งหมด ยังแนะน่า “ซื้อ”

(0) คาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50-SET100 งวด 2H22 สําหรับ SET50 คาดหุ้น เข้า JMT JMART หุ้นออก RATCH STGT ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า AAV ASK FORTH ONEE PSL TIPH หุ้นออก BPP MAJOR RS SIRI STEC TTA

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 880.00 จุด หรือ 2.73% ปิดที่ 31,392.79 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 8.6% Y-Y ในเดือน พ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 8.3% และดัชนี CPI พื้นฐาน (ไม่นับรวม หมวดอาหารและพลังงาน) เพิ่มขึ้น 6.0% Y-Y ในเดือนพ.ค. สูงกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 5.9%

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อสูงกว่าคาด อาจทำให้กังวลเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาด ทำให้กังวลว่าเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง อยู่ที่บริเวณ 34.81 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 84 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 120.67 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาด

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 22.7 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 1,875.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,068.86 / +3.47

- Advertisement -