TNP ย้ำการเป็นร้านค้าปลีกท้องถิ่นของคนไทยที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเกือบเป็นปกติหลังจากเปิดประเทศ รวมถึงคนไทยเองก็ออกมาใช้ชีวิตกันมากขึ้น มองช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจกลับมาคึกคักเหมือนช่วงก่อนโควิดตั้งเป้าสิ้นปีนี้ขยายครบ 44 สาขา พร้อมลุยช่องทางใหม่ เข้าสู่ตลาดออนไลน์ บนแอปพลิเคชันLAZADA เปิด “ธนพิริยะลาซาด้า” หวังขยายกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ แบบไร้ขีดจำกัดระบุถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการเติบโตอีกทางหนึ่ง จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

 

เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นขยายร้านค้าเพื่อเพิ่มการเข้าถึงสินค้าของผู้บริโภค ดั่งปณิธาน ราคาถูกจริง ช้อปปิ้งถูกใจ อยู่ใกล้บ้านคุณ เพื่อให้การช้อปปิ้งของผู้บริโภคเป็นไปอย่างง่าย ไม่ว่าจะจากช่องทางออนไลน์หรือเดินทางมาซื้อของที่หน้าร้านได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบครันในที่เดียว

สำหรับแผนงานในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 6 สาขา เป็น 44 สาขา จากที่สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 38 สาขา โดยล่าสุดได้ฉลองเปิดสาขาใหม่เพิ่มเป็นที่เรียบร้อย เดินทางสู่สาขาที่ 39 สาขาแม่ใจ จ.เชียงราย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นับเป็นสาขาแรก จาก 6 สาขาที่ตั้งเป้าไว้ สนับสนุนให้ปัจจุบันมีสาขาที่ จ.เชียงราย 30 สาขา เชียงใหม่ 3 สาขา พะเยา 6 สาขา และจะทยอยเปิดเพิ่มให้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ ย้ำความสำเร็จของร้านค้าปลีกท้องถิ่นคนไทยที่มีการเติบโตทุกปี

นอกจากนี้ บริษัทยังบุกตลาดใหม่เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างประสบการณ์ใหม่กับ “ธนพิริยะลาซาด้า” บนแอปพลิเคชัน LAZADA แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ เพื่อเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าได้ทั้งประเทศ นอกเหนือจากแค่เฉพาะลูกค้าในโซนภาคเหนือตอนบนเท่านั้น อีกทั้งเป็นโอกาสในการขยายรากฐานการเติบโตของรายได้ให้แข็งแกร่ง สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ที่เริ่มหันมาช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก โดยรวมบริษัทยังสามารถทำออกมาได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จากการเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ในปีนี้ และการทำรายได้จากสาขาที่ได้เปิดเพิ่มเติมในปีที่ผ่านมา ซึ่งทิศทางของผู้บริโภคมีการจับจ่ายต่อบิลที่สูงขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการเปิดร้านค้าแพลตฟอร์มออนไลน์ ในไตรมาส 2 นี้ คาดว่าจะส่งผลทางบวกเสริมการเติบโตได้ในอนาคต

“ในปี 2565 นี้ ก็ถือว่าเป็นปีที่เร่งเดินหน้าฝ่าวิกฤติในหลายๆ อย่าง ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ แต่จากการเตรียมปรับให้เป็นโรคประจำถิ่น ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเกือบเป็นปกติแล้วหลังจากเปิดประเทศ รวมถึงคนไทยเองก็ออกมาใช้ชีวิตกันมากขึ้น จึงมองว่าในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจจะกลับมาเดินหน้าคึกคักเหมือนช่วงก่อนโควิดแน่นอน อีกทั้งในปีนี้ บริษัทได้ขยายฐานลูกค้า บุกเข้าสู่ตลาดออนไลน์ บนแอปพลิเคชัน LAZADA ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการเติบโตอีกทางหนึ่ง จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเข้าสู่ยุคดิจิทัล อีกทั้งยังมั่นใจในแผนที่จะเปิดหน้าร้านให้ครบทั้ง 6 สาขา ทำให้คาดว่ารายได้ในปีนี้จะต้องเติบโตได้ดีอย่างแน่นอน” เภสัชกรหญิงอมร กล่าว

**********

- Advertisement -