ดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นมักนำโลกเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจ

Market Update

เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones ปรับฐาน 2.79% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวกเล็กน้อย 0.2% ได้แรงหนุนจากอุปทานน้ำมันในตลาดโลกยังเผชิญภาวะตึงตัว ระยะสั้นเป็น เล็กน้อยต่อ (PTTEP) สำหรับเรื่องของดอกเบี้ยความเห็นล่าสุดจาก CME Fed Watch ระบุว่า FED มี เดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งที่กำลังจะถึง (14 – 15 มิ.ย.) ให้น้ำหนักราว 93.4% ส่วนโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% เหลือน้ำหนักเพียง 6.6% เท่ากับว่าตลาดปัจจุบันกำลัง Price In ดอกเบี้ยครั้งที่กำลังจะถึงที่ 0.75% แล้ว ดังนั้นจากนี้ต้องติดตามผลประชุมใกล้ชิด

Market Outlook

ประเมิน SET INDEX ปรับฐานต่อเนื่อง และอาจทดสอบจุดต่ำสุดที่ 1580 อีกครั้ง ประเมินกรอบวันนี้ที่ 1577 – 1597 รับแรงกดดันรอบด้านทั้งจาก Dow Jones ที่ปรับตัวลง ขณะที่เช้านี้ Nikkei ปรับฐานต่อเนื่องอีกราว 1.7% โดยคืนนี้ติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ Bloomberg ประเมินที่ 0.8%MoM หากเร่งแรงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ก็ย่อมเป็นความเสี่ยงกับประเด็นเงินเฟ้อของสหรัฐ ถัดไปจะเป็นผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ทราบผลอย่างเป็นทางการในเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย แม้ตลาดจะประเมินไว้ว่าดอกเบี้ยมีโอกาสเร่งตัวขึ้น และหากออกมาตามตลาดประเมินไว้ (0.75%) อาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง อย่างไรก็ตาม ในอดีตที่ผ่านมาดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงมักตามมาด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจ อาทิ อัตราการว่างงานที่จะสูงขึ้น ยอดขายอสังหาฯ ที่จะลดลง และสุดท้ายนำไปซึ่งการปรับตัวลงของตลาดหุ้น ด้านในประเทศเองก็ยังมีความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อที่ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลขยับมาทดสอบ 34.94 บาท/ลิตร จากเดือน พ.ค. ที่อยู่เพียง 31.94 บาท/ลิตร ดังนั้นภาวะเงินเฟ้อไทยในเดือน มิ.ย.มีโอกาสขยับขึ้นต่อเนื่อง และจะเป็นปัจจัยกดดันไปยังดอกเบี้ยที่แท้จริงของประเทศไทยให้มีโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังแนะหาจังหวะทยอยลดพอร์ต เพิ่มการถือครองเงินสด ส่วนหุ้นแนะนำเน้นเพียงสินค้าจำเป็น อาทิ โรงพยาบาล (BCH CHG) กลุ่มส่งออก (ASIAN TU) ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า สื่อสาร (ADVANC INTUCH) เชื่อผลกระทบจากเงินเฟ้อจำกัด กลุ่มค้าปลีกอาหาร (BJC CPALL)

Pi Stock Picks

ADVANC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 259 บาท)

คงประมาณการกำไรปี 2022 ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท (+9%YoY) ยังเชื่อว่าการปรับเพิ่ม ARPU บริการ 5G และการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยวที่จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะช่วยพลิกฟื้น ARPU และหนุนการเติบโตของกำไรใน 2H22 ได้

CBG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 125.00 บาท)

ภาพรวมระยะกลางถึงยาวค่อนข้างสดใส หนุนจากอุปสงค์ระดับสูงต่อเครื่องดื่มชูกำลังทั่วเอเชียแปซิฟิก ที่ได้อานิสงส์มาจากการพัฒนาเมือง และรายได้ใช้จ่ายที่สูงขึ้นในภูมิภาคนี้ ขณะที่กำไร 2H22 มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 รายการ

- Advertisement -