สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในแดนลบช่วงเปิดตลาด แต่มีแรงซื้อกลับ ทำให้ดัชนีแกว่งในกรอบแคบ ราว +2 ถึง +3 จุด มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี อย่าง IVL, PTTGC นักลงทุนยังคงกังวลว่าเฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย และนักลงทุนยังติดตามการประชุม FOMC ในวันที่ 14-15 มิ.ย. นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,603.03 จุด +2.97 จุด +0.19% มูลค่าการซื้อขาย 63,139 ลบ. ต่างชาติ +97.49 ลบ. TFEX -16,820 สัญญา ตราสารหนี้ – 1,075.55 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ จีนเปิดเผยว่ายอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พุ่งขึ้น 17.3%YoY แตะที่ 5.642 แสนล้านหยวน

+ สหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.8%MoM ในเดือนพ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.

+ EIC ปรับประมาณการ GDP ไทยปี 65 ขึ้นเป็น 2.9% จากเดิม 2.7% ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและ ภาคบริการ ผ่านการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและการผ่อนคลายมาตรการผ่านแดนในหลายประเทศทั่วโลก โดยประเมินว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้า ไทยรวม 7.4 ล้านคนจากเดิม 5.7 ล้านคน

+ ที่ประชุมครม.อนุมัติ “โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG and Regional Development)” วงเงินรวม 3,566.28 ล้านบาท โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา วงเงินรวม 4,508 ล้านบาท ระยะทางรวม 1.92 กม.

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,263 ราย ATK 4,236 ราย มีผู้เสียชีวิต 18 ราย รักษาหาย 2,109 ราย

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 151.91 จุด -0.50% นลท. กังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยหาก เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นลท.จับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่จะแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2 ดอลลาร์ +1.65% ปิด ที่ 118.93 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลว่าการที่เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

– FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

– ปธ.เจ้าหน้าที่บริหารของมอร์แกน สแตนลีย์เตือนว่า มีโอกาส 50% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ สถานการณ์ไม่น่าจะรุนแรงก็ตาม พร้อมเตือนว่านักลงทุนเสี่ยงเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก

– WHO เตรียมประชุมฉุกเฉินในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาว่าการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงถือเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศหรือไม่

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% คาดดัชนีวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,610 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • FTSE ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 17 มิ.ย.:
    • FTSE All World Index : เข้า – ออก –
    • Micro Cap Index: เข้า BRI CIVIL HENG KTBSTMR PEACE SVT TKC TFM WFX ออก –
  • กม. PDPA มีผลบังคับใช้ : HUMAN SECURE ITEL IIG INSET
  • ปลดล็อกกัญชาเริ่ม 9 มิ.ย. : GUNKUL KWM RS BC IP DOD RBF JP
  • FTSE SET Index ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 20 มิ.ย.:
    • FTSE SET Large Cap Index : เข้า JTS ออก BTS, FTSE
    • SET Mid Cap Index: เข้า AAV BYD BTS FORTH NEX SABUY ONEE ออก IMPACT JTS
  • กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง KBANK SCB BBL KTB TISCO

หุ้นรายงานพิเศษ

TEKA – บมจ.บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด Set/Contractor (IPO 4.60 บาท)

  • TEKA ประกอบธุรกิจผู้รับเหมาก่อสร้างที่โดดเด่นในงานอาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโครงการคอนโดฯ รวมถึง มิกซ์ยูส โรงแรม ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ และงานอาคารสูงขนาดใหญ่ต่างๆ จากลูกค้า ซึ่งเป็นดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำของไทย ในด้านผลการดำเนินงานของ TEKA ผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง (2562-2564) มีกำไรสุทธิ 104.43 ล้านบาท 87.17 ล้านบาท และ 126.02 ล้านบาท และมีรายได้ 2,435.15 ล้านบาท 2,474.56 ล้านบาท และ 1,605.04 ล้านบาท ตามลำดับ ในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 600.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 440.64 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 53.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40.41 ล้านบาท ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้น 16.7% และอัตรากำไรสุทธิ 8.9% ถือว่าความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม และปีนี้มั่นใจงานในมือที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบตามแผน จะสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามที่วางไว้
  • สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2,400-2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ราว 1,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่จะส่งมอบในปีนี้ประมาณ 1,770 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทยังมีงานใหม่ที่ได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 อีกราว 481 ล้านบาท รวมถึงงานโครงการใหม่ๆ ที่เตรียมเข้ายื่นประมูลเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีอีกจำนวนมาก
  • โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.60 บาท คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 9.91 เท่า มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อสนับสนุนแผนการเติบโต และเพื่อรองรับงานก่อสร้างที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทั้งด้านจำนวนลูกค้าและมูลค่าโครงการที่สูงขึ้น รวมถึงใช้ในการจัดหา ซ่อมแซม และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆ

หุ้นมีข่าว

(0) TOP (Bloomberg consensus 67.00 บาท) แจ้งเลื่อนกำหนดสิทธิเพิ่มทุนออกจาก 16 มิ.ย. แจงเหตุตลาดไม่เอื้อ กูรูพลังงานหนุนรอตลาดดี ชี้มีสิทธิเลื่อนออกไปอีก 1-2 เดือน ทำให้นักลงทุนคลายกังวล แต่ยืนยันไดลูตแค่ 10% ราคารับรู้หมดแล้ว ชูผลงานโดดเด่น จากค่ากลั่นที่พุ่ง Q2 ทั้งปี กำไรโดด 2.8 หมื่นล้านบาท มั่นใจรัฐใช้วิธีเดิมไม่ปรับสูตรค่ากลั่น แต่ขอเงินสนับสนุนกระทบไม่มาก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) STI (Bloomberg consensus – บาท) ยกระดับการลงทุนย้ายเข้าเทรด SET วันนี้ (15 มิ.ย.65) เรียกความเชื่อมั่นลูกค้า-นักลงทุนเข้าถือหุ้นเพิ่มพร้อมเจาะฐานลูกค้าใหม่ คาดครึ่งปีหลัง 2565 กวาด งานเข้าพอร์ตเพิ่ม 800 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกนิวไฮ ดันรายได้ทั้งปีนี้ทะลุ 2,000 ล้านบาท เตรียมเงิน 40 ล้านบาท ดีล M&A เสริมทัพ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASIAN (Bloomberg consensus 21.4 บาท) รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า เดินหน้าบริหารต้นทุนวัตถุดิบหนุนมาร์จิ้น ชูธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงทำเงิน ตั้งเป้ายอดส่งออกกว่า 5.6 พันล้านบาท หลังดีมานด์ทั่วโลกพุ่ง พร้อมอัพกำลังการผลิต หนุนออเดอร์ครึ่งปีหลัง เผย “AAI” เข้าตลาดได้ช่วงปลายเดือนตุลาคมปีนี้ ย้ำเป้ารายได้โต 19% แตะ 1.12 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AUCT (Bloomberg consensus 12.50 บาท) AUCT ผนึก JAM ประมูลบ้าน 97 รายการ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ผ่าน “AUCTbid” 24 ชั่วโมง เจาะฐานออนไลน์เต็มสูบ หวังอัพฐานผู้ใช้จากปัจจุบันที่ 1 พันราย ส่งซิกธุรกิจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก พบดีมานด์ใช้รถยนต์พุ่ง รุกลงทุน แพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองต่างชาติ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 17 มิ.ย. ประชุมศบค.
  • สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลง ยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
  • 22 มิ.ย. ธปท. เผยแพร่รายงานนโยบายการเงิน
  • สัปดาห์ที่ 5 สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจ สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
  • 27 มิ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดประชุมนักวิเคราะห์ ครั้งที่ 2/2565
  • 30 มิ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 14 – 15 มิ.ย. ประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
  • 15 มิ.ย. จีนรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนพ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.

อียู รายงานดุลการค้าเดือนเม.ย.

สหรัฐ รายงานยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เดือนเม.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 16 มิ.ย.)

  • 16 มิ.ย. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงิน ผลสํารวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์คาดที่ประชุมจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
  • 30 มิ.ย.โอเปกพลัสประชุมกำหนดนโยบายการผลิต
- Advertisement -