Our View? “ไม่แย่ไปกว่าคาด”
คาดตลาดวันนี้ “Rebound” มองแนวรับที่บริเวณ 1,590 / 1,580 และแนวต้านที่บริเวณ 1,605 /1,615 ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังคณะกรรมการกาหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ตามที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของ FED คาดอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีจะอยู่ที่ระดับ 3.40% น้อยกว่าที่ตลาดคาดก่อนหน้าที่อยู่สูงกว่าระดับ 4.00% และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.80% ในปี’66 สะท้อนแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในปีหน้าจะเริ่มผ่อนคลายลง อีกทั้ง FED ไม่ได้มีการส่งสัญญาณถึงการปรับเพิ่มขนาดของวงเงินในการปรับลดงบดุล (QT) โดยยังคงไว้ตามเดิมที่ระดับ 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ไป จนถึงวันที่ 1 ก.ย. จะปรับเพิ่มเป็น 9.50 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ตามที่เคยแจ้งไว้ก่อนหน้า คาดจะช่วยลดแรงกดดันระยะสั้นต่อทิศทางความเข้มงวดของนโยบายทางการเงินของ FED ได้บ้าง หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวกลับขึ้นได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรามองการปรับลดคาดการณ์ GDP สหรัฐในปีนี้จากระดับ +2.8% เป็นระดับ +1.7% รวมทั้งปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อจากคาดที่ 4.3% สู่ระดับ +5.2% สะท้อนภาวะเงินเฟ้อยังน่าเป็นห่วงและเศรษฐกิจสหรัฐยังมีแนวโน้มเกิดภาวะถดถอยได้ในระยะถัดไป เป็นปัจจัยจำกัด Upside การฟื้นตัวของตลาดได้บ้างในระยะกลาง
ในส่วนของการประชุมฉุกเฉินธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวานนี้มีมติเตรียมประกาศใช้เครื่องมือใหม่เพื่อป้องกันการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก โดย ECB จะใช้รายได้จากการไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนดอายุมาลงทุนใหม่ (Re-Investment) มองเป็นการอัดสภาพคล่องกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งของ ECB คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดได้
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลง -3.62 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 15.31 ดอลลาร์/บาร์เรล (-3.04%) โดยได้รับแรงกดดันจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่ความกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED คาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยในระยะถัดไป ซึ่งจะกดดันอุปสงค์ น้ำมันดิบสหรัฐลดลงได้ มองเป็นปัจจัยลบกดดันจํากัด Upside ของราคาพลังงาน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้ ถ่วงการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยได้
ในส่วนของปัจจัยในประเทศเรามองตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยลบเป็น Overhang ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ต่อไปคาดยังกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้อยู่ อาทิ 1.) ความพยายามในการปรับลดราคาน้ำมันผ่านทางการลดค่าการกลั่นของรัฐบาล แม้ในปัจจุบันยังเป็นได้ยาก แต่คาดอาจมีการออกมาตรการอื่นออกมากดดันอีกครั้ง 2.) ความกังวลในการเตรียมเก็บภาษีหุ้น (FIT) คาดจะส่งผลให้สภาพคล่อง มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยลดลงในระยะถัดไป อีก ทั้งเรายังมีมุมมองเชิงลบต่อการที่ ธปท. ส่งสัญญาณเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทยภายในเร็วๆ นี้ ซึ่งทำให้เราคาด ว่ามีโอกาสที่ กนง. อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ในการประชุม กนง. เดือน ส.ค. หลังมองเศรษฐกิจไทยและความเสี่ยงด้าน เงินเฟ้อท่าให้ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วกว่าที่ตลาดคาดก่อนหน้า แม้จะเป็นปัจจัย บวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ BBL) แต่คาดจะกดดันทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้เช่นกัน มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันทิศทางตลาดได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “SCB”
กลยุทธ์ แนวรับ 109.00 /107.00 Target 119.00 / 122.00 stop <105.00