บล.ทิสโก้:

บมจ. พรีบิลท์ฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2Q22F แต่ครึ่งหลังน่ากังวล

ฟื้นตัวจากธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และการรับรู้รายได้จากการโอนพรรณนาต่อเนื่อง

เราคาดผลประกอบการ 2Q22F ของ PREB ที่ 75 ล้านบาท เติบโต 22% YoY จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นแต่ลดลง 15%QoQ เพราะอัตรากำไรขั้นต้นลดลง เราประเมินเป้ารายได้คงเดิมในทุกธุรกิจ 1) รับเหมาก่อสร้าง 4 พันล้านบาท (+8% YoY จากฐานต่ำ Covid-19) 2) ขายวัสดุก่อสร้าง 450 ล้านบาท (+15% YoY จากโครงการแนวราบที่ฟื้นตัวดี) และ 3) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 950 ล้านบาท (+94% YoY จากการโอนโครงการพรรณนาที่เหลือราว 52 หลัง และพิมนารา 40 หลัง) อย่างไรก็ตาม เรามีการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงเพื่อสะท้อนแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น เช่น ค่าแรงและวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูน เหล็ก และอลูมิเนียม ซึ่งคิดเป็นราว 50-60% และ 15-20% ของต้นทุน ตามลำดับ

คาดกำไรสุทธิ 2Q22F ที่ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% YoY ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้

เราคาดรายได้รวมอยู่ที่ 1,310 ล้านบาท เติบโต 16% YoY จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และการขายวัสดุก่อสร้างที่ ฟื้นตัวขึ้น 18% YoY และ 40% YoY ตามลำดับจากการเปิดเมืองและอุปสงค์ที่อยู่อาศัยแนวราบที่ยังเติบโตดี และ การขายสินค้า Precast และ GRC ที่สูงขึ้น ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (เปลี่ยนชื่อเป็น PREB-D จากเดิม ISAMARE) ฟื้นตัวไปในทิศทางเดียวกันจากการโอนโครงการบ้านเดี่ยวพรรณา พุทธมณฑลสาย 3 และพิมนารา หนามแดง โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.1% ลดลงเล็กน้อยจาก 12.9% ใน 2Q21 จากสัดส่วนธุรกิจรับเหมา ก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น และต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นของ PREB-D ที่คาดจะลดลงเล็กน้อย จากการรับรู้รายได้จากโครงการพิมนาราที่เพิ่มขึ้น (มีมาร์จิ้นต่ำกว่าพรรณนาเล็กน้อย)

ปรับกำไรสุทธิปี 2022/23 ลง 10%/9% ตามลำดับเพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

เราปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 2022-23F ลงจากเดิม 10% และ 9% จากการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้น ต้นเป็น 13.3% และ 12.7% (จากเดิม 13.9% และ 13.4%) ตามลำดับ เพื่อสะท้อนแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบและ ค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบแผนการประมูลงานใหม่ในอนาคตแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 2H22F เป็นต้นไป เบื้องต้นทางบริษัทชะลอการประมูลโครงการใหม่ๆ เนื่องจากกังวลเรื่องความเสี่ยงของค่าแรง และต้นทุนการจ้างรับเหมาช่วงที่มีโอกาสจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ราว 7 พันล้านบาท ยังสามารถรองรับการเติบโตของรายได้ในปีจนถึงปี 2023F ได้ ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เรายังคงเป้ารับรู้รายได้ 950 ล้านบาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 9.10 บาท

เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2022 ที่ 9.10 บาท โดยใช้ P/E ที่ 9X โดยยังมีความน่าสนใจของเงินปันผลที่คาด จะจ่ายราว 0.51-0.57 บาท (อิง Payout ratio 61%) คิดเป็น Dividend Yield ราว 6.4-7.1% ในปี 2022-23F

ความเสี่ยงหลัก ได้แก่ 1) การแข่งขันในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาจทำให้อัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าคาด 2) การชะลอ การเปิดโครงการของบ.ร่วมต่างๆ 3) นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในอนาคต

- Advertisement -