Daily Focus: Defensive Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวขึ้นเหนือ 1,600 จุดได้ตามตลาดหุ้นต่างประเทศในช่วงเปิดตลาด ก่อนจะมีแรงขายออกมากดดัน โดยเฉพาะช่วงบ่ายหลัง Futures สหรัฐฯ พลิกมาปรับลงแรง กดดันดัชนีหลุดแนวรับ 1,580 จุดและลงทดสอบแนวรับถัดมาที่ 1,560 จุด สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นเล็กน้อย 195 ลบ. แต่นักลงทุน ต่างชาติขายหนักถึง 5.8 พันลบ. (และ Short Index Futures สูงสุดในปีนี้กว่า 5.2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีแนวโน้มปรับลงต่อเนื่องหากรอบ 1,540+ จุด จากบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกที่เป็นลบจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เกิด Recession จากเงินเฟ้อที่ยังคงสูง และดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ยังคงมีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง เข้าถือพันธบัตรและทองค่ามากขึ้น ส่วนปัจจัยใน ประเทศกลุ่มพลังงานคาดเผชิญแรงขาย หลังภาครัฐที่ขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นนำส่งกําไรค่าการกลั่นน้ำมันเบนซินดีเซล รวมถึงโรงแยกก๊าซเข้ากองทุนน้ำมันเป็นระยะเวลา 3 เดือน คาดเป็นเม็ดเงินกว่า 2 หมื่นลบ.เพื่อนํามาอุดหนุนให้ผู้บริโภค เรามอง Downside ของ SET Index รอบนี้ที่บริเวณ 1,500-1,520+- จุด และมองเป็นอีกระดับในการเข้าทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน และคาดหวังเศรษฐกิจที่จะทยอยเร่งตัวใน 2H22 เป็นต้นไป โดยยังเน้นหุ้นกลุ่ม Value และ Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการจำเป็น

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และ Defensive Play ที่แนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD

หุ้นเด่นวันนี้ : MEGA

  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 67 บาท
  • ธุรกิจของ MEGA ที่เป็นยาและวิตามินเป็นสินค้าจำเป็น ถูกกระทบจํากัดมากจากเงินเฟ้อสูง ยอดขายเดือน เม.ย.-พ.ค. ดีใกล้เคียง 1Q22 ซึ่งเป็นไตรมาสที่ดีมาก และยังได้ประโยชน์จากบาทอ่อนบางส่วน
  • คาดกําไรปี 2022 แข็งแกร่ง +21% Y-Y ด้านฐานะการเงินมีหนี้น้อยมาก IBD/E อยู่ที่เพียง 0.02 เท่า กระทบจํากัดจากดอกเบี้ยขาขึ้น
  • แนวรับ 51-50 บาท แนวต้าน 53//54-55 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคเล็กน้อย US$205 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$212 ล้าน และ US$108 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกหนักจากไทย US$166 ล้าน แต่ยังไหลเข้าเวียดนามและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกระแสเงินทุนวันนี้คาดพลิกมาไหลออกหนาแน่น จากความกังวล โอกาสเกิด Recession ของสหรัฐฯ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขายและเข้าถือทองคำและพันธบัตร

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) KSL แนวโน้มราคาน้ำตาลดูสดใสน้อยลง จากผลผลิตน้ำตาลโลกในปีหน้าจะเกินดุลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และเกินดุลมากขึ้นจากปริมาณผลผลิตของผู้ผลิต 3 รายใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งหมด และหากราคาน้ำมันดิบปรับลงจะทําให้ราคาน้ำดาลปรับลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คาดแนวโน้มกำไรยังสดใสในปี 2022-2023 เพราะปริมาณผลผลิตอ้อยไทยเพิ่มขึ้น หนุนปริมาณขายนํ้าตาลและผลิตภัณฑ์พลอยได้ต่างๆ ขณะที่บริษัทได้ล็อคราคาขายน้ำดาลครอบคลุม 100% ของปี 2022 และทยอยล็อคไปแล้ว 50% ของคาดการณ์ปริมาณส่งออกในปี 2023 จึงยังคาดกําไรสุทธิปี 2022-2023 +92% Y-Y และ +9% Y-Y ตามลำดับ คงราคาเป้าหมาย 4.70 บาท แนะนำเพียง “เก็งกำไร”

(+) PLUS คำสั่งซื้อยังดูสดใสต่อเนื่องหลังโควิดและปัญหาสายเรือคลี่คลาย ขณะที่ฝั่งต้นทุนมะพร้าวค่อนไปในทางทรงตัวถึงปรับลงสวนทางราคาสินค้าเกษตรชนิดอื่น กอปรกับมีการล็อกราคาบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วล่วงหน้าไว้ครอบคลุมทั้งปี 2022 แล้ว ทำให้แทบไม่ถูกกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ในปีนี้ ทั้งนี้ผู้บริหารตั้งป้ารายได้ปี 2022 โดสูง +50% Y-Y และคาด Gross Margin จะสดใสจากอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น และได้ผลบวกจากบาทอ่อน เราปรับเพิ่มกำไรสุทธิปี 2022 ขึ้นเป็น +114% Y-Y ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 7 บาท แนะนํา “ซี้อ” (Finansia เป็นผู้จัดจําหน่ายฯ)

(0) คาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50-SET100 งวด 2H22 สําหรับ SET50 คาดหุ้นเข้า JMT JMART หุ้นออก RATCH STGT ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า AAV ASK FORTH ONEE PSL TIPH หุ้นออก BPP MAJOR RS SIRI STEC TTA

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 741.46 จุด หรือ 2.42% ปิดที่ 29,927.07 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ หลังธนาคารกลางอังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้เกิดความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง กดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่ง ขณะที่ติดตามธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตรา ดอกเบี้ยในเช้านี้

(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบอยู่ที่บริเวณ 35.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 117.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังรัฐบาลสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทอิหร่าน และรายงานการผลิตน้ำมันในลิเบียลดเป็น 100,000 – 150,000 บาร์เรล/วัน จาก 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีที่ผ่านมา

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 30.3 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 1,849.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,063.93 / +-

- Advertisement -