Retail Market Monitor

บรรยากาศซื้อขายคาดทรงตัว ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการวันนี้

ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเป็นปัจจัยที่ตลาดจะให้ความสำคัญในช่วงนี้ ราคาน้ำมันดิบลดลง 6% จากความกังวลผลของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทำให้ความเสี่ยงเกิดเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนรอติดตามการแถลงของเจอโรม พาวเวล 22 มิ.ย. ซึ่งประธานเฟดมีกำหนดแถลงนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส เรามอง SET Index ระยะสั้นมีโอกาสทรงตัวถึงฟื้นตัวขึ้นหลังปรับลดลงมาแรง ทั้งนี้กลุ่มที่มีโมเมนตัมเชิงบวกและแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม ได้แก่ ขนส่ง, อาหาร, ท่องเที่ยว/เปิดเมือง เป็นต้น ประเมินแนวต้านที่ 1,565-1,580 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,540 จุด

กลุ่มโรงกลั่นนอกเครือ PTT ดูปลอดภัยกว่า จากการที่ภาครัฐขอให้กลุ่มโรงกลั่นพิจารณาสนับสนุนกำไรส่วนเกินเพื่อช่วยกองทุนน้ำมัน กลุ่มโรงกลั่นได้มีการหารือกันและจะส่งข้อคิดเห็นกลับให้ภาครัฐฯ วันนี้ เรามองโรงกลั่นและธุรกิจภายใต้กลุ่ม PTT (ส่วนใหญ่ถือหุ้นราว 45% โดย PTT) มีแนวโน้มให้ความช่วยเหลือภาครัฐ ขณะที่โรงกลั่นนอกกลุ่มอาทิ SPRC (ถือหุ้น 60.59% โดย Chevron) และ ESSO (ถือหุ้น 65.99% โดย Exxonmobil) มีแนวโน้มไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ในกรณีที่ต้องมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการสนับสนุน เรามอง SPRC และ ESSO มีโอกาสสูงที่จะไม่อนุมัติรายการดังกล่าว ขณะที่ราคาหุ้นปรับลดลงจากจุดสูงสุดในช่วงสัปดาห์ก่อน -13% และ -17% มากกว่า PTTGC (-6%), TOP (-9%), IRPC (-10%) ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่รับ ความเสี่ยงได้ เรามองหุ้นโรงกลั่นนอกกลุ่ม PTT มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า หรือฟื้นตัว

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE

2) กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR

3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO

4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN

5) หุ้นประกัน TIPH, BLA, TVI, THREL (แค่เก็งกำไรรับไทยประกันเข้า IPO)

6) หุ้นพลังงาน-ปิโตรที่ไม่กระทบจากการขอความร่วมมือ IVL OR

ภาพรวมกลยุทธ์: ความผันผวนในภาพรวมของสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้หุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1,540-1,590 จุด การปรับลงยังเน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นในช่วงครึ่งหลัง อาทิ กลุ่มธนาคาร หุ้นเปิดเมืองที่ยังขึ้นน้อย กลุ่มอาหาร ขนส่ง และเปิดเมือง/เปิดประเทศ และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิงหุ้นจีน)

หุ้นแนะนำ: VRANDA, MBK*, CHINA*, CPF*

แนวรับ: 1,550-1,540 / แนวต้าน : 1,565-1,590 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • เฟดส่งสัญญาณ “ทุ่มสุดตัว” ในความพยายามต่อสู้เงินเฟ้อ – ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีความมุ่งมั่น “อย่างไม่มีเงื่อนไข” ในการรักษาเสถียรภาพของราคา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการรักษาตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
  • Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจปรับตัวลง 0.4% – ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวลง 0.4% ในเดือนพ.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวลง 0.4% เช่นกันในเดือนเม.ย.
  • รัสเซียระงับส่งก๊าซผ่านท่อส่งเติร์กสตรีมชั่วคราว – ตั้งแต่วันที่ 21-28 มิ.ย. เพื่อดำเนินการบำรุงรักษาตามกำหนดประจำปี โดยได้รับอนุมัติจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดล่วงหน้าแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ท่อส่งก๊าซเติร์กสตรีมตัดผ่านก้นทะเลดำและประกอบด้วยท่อสองสาย โดยสายหนึ่งจัดส่งก๊าซให้กับผู้บริโภคชาวตุรกี และอีกสายหนึ่งจัดส่งพลังงานไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้
  • แบงก์ชาติไม่ได้เรียกประชุม กนง.นัดพิเศษ – ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ทั้งนี้ ตารางการประชุม กนง. ที่ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าที่ 6 ครั้งต่อปี ยังเพียงพอและมีความเหมาะสมสำหรับการได้มาซึ่งข้อมูลใหม่ๆ เพื่อพิจารณานโยบายการเงิน
  • สกุลเงินดิจิทัล – ยังคงผันผวนต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยรวมตลาดกังวลราคาสินทรัพย์ที่ลดลงจะทำให้เกิดการบังคับขายที่ต่อเนื่องไปยังผู้ให้กู้ยืม และผู้ลงทุนที่มีสถานะกู้ยืม อาจถูกบังคับให้ขายสินทรัพย์ออกมาซ้ำเติมสถานการณ์

ประเด็นติดตาม: 21 มิ.ย. – US Existing Home Sales / 23 มิ.ย. – US&EU Manufacturing PMI, Services PMI, Russia Debt Payment / 24 มิ.ย. – US New Home Sales, Russia Debt Payment /27 มิ.ย. – US Core Durable Goods Orders, US Pending Home Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร VRANDA (9) : ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุด และน่าจะกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/65 ซึ่งเร็วกว่าคนอื่น แต่ราคายังฟื้นตัวจากโควิดน้อยกว่ากลุ่มท่องเที่ยวอื่น ตัดขาดทุน 6.60 บาท
  • เก็งกำไร MBK* (16) : ผลการดำเนินงานคาดทยอยฟื้นตัว ขณะที่มีมูลค่าแฝงจากบริษัทลูกที่ยังไม่ได้นำเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ตัดขาดทุน 13.40 บาท
  • เก็งกำไร CHINA* (8) : หุ้นจีนมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยได้รับผลดีจากการเปิดเมืองและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมา ตัดขาดทุน 6.80 บาท
  • เก็งกำไร CPF (29) : ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับเพิ่ม และได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า ตัดขาดทุน 24.50 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ – ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (17 มิ.ย.) และร่วงลงรายสัปดาห์คิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบหลายเดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางทั่วโลกพยายามที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป – ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (17 มิ.ย.) แต่ยังคงลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรายใหญ่ต่างๆ ทำให้เกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น – ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงลง ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และบรรดาธนาคารกลางในยุโรป (อินโฟเควสท์)

ตลาดน้ำมัน – สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (17 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังธนาคารกลางหลายแห่งแห่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ  ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน (อินโฟเควสท์)

เฟดส่งสัญญาณ “ทุ่มสุดตัว” ในความพยายามต่อสู้เงินเฟ้อ – ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีความมุ่งมั่นอย่างไม่มีเงื่อนไข ในการรักษาเสถียรภาพของราคา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจําเป็นต่อการรักษาตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง (อินโฟเควสท์)

Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจปรับตัวลง 0.4% – ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวลง 0.4% ในเดือนพ.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวลง 0.4% เช่นกันในเดือนเม.ย. (อินโฟเควสท์)

รัสเซียระงับส่งก๊าซผ่านท่อส่งเติร์กสตรีมชั่วคราว – ก๊าซพรอม (Gazprom) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ประกาศระงับการจัดส่งก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซเติร์กสตรีม (Turkish Steam) ทั้งสองสาย ตั้งแต่วันที่ 21-28 มิ.ย. เพื่อดำเนินการบำรุงรักษาตามกำหนดประจำปี โดยได้รับอนุมัติจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดล่วงหน้าแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ท่อส่งก๊าซเติร์กสตรีมตัดผ่านก้นทะเลดำและประกอบด้วยท่อสองสาย โดยสายหนึ่งจัดส่งก๊าซให้กับผู้บริโภคชาวตุรกี และอีกสายหนึ่งจัดส่งพลังงานไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ (อินโฟเควสท์)

แบงก์ชาติไม่ได้เรียกประชุม กนง.นัดพิเศษ – ยังไม่มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดพิเศษ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ทั้งนี้ ตารางการประชุม กนง.ที่ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าที่ 6 ครั้งต่อปี ยังเพียงพอ และมีความเหมาะสมสำหรับการได้มาซึ่งข้อมูลใหม่ๆ เพื่อพิจารณานโยบายการเงิน (อินโฟเควสท์)

KSL รายงานกำไรไตรมาส 2 สิ้นสุด 30 เม.ย. 65 – กำไร 415.15 ลบ. กำไรต่อหุ้น 0.094 บาท เปรียบเทียบกับ กำไรต่อหุ้นไตรมาส 2 ปี 64 ที่ 0.023 บาท (อินโฟเควสท์)

Report & Corporate News

DTAC Upgraded BUY TP: 52.00 บาท – เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q22 จะอ่อนตัว qoq จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งได้รับผลกระทบการใช้จ่ายของผู้บริโภค และความกดดันของเทรนด์รายได้ค่าบริการของดีแทค วันสำคัญที่น่าจับตามอง คือ 10 ก.ค. 22 ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการ กสทช. จะตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงควบรวม TRUE/DTAC ในขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของ DTAC ส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัจจัยลบแล้ว และมี upside อยู่ 8% จากราคาเสนอซื้อ ปรับเพิ่มคําแนะนําเป็น ชื้อ ราคาเป้าหมาย: 52.00 บาท

PTT – บมจ.ปตท. (PTT) มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาตรึงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และขยายระยะเวลาตรึงราคาขายปลีก NGV สำหรับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม ในโครงการ “เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน” ออกไปอีก 3 เดือน จนถึงวันที่ 15 ก.ย.65 รวมเป็นเงินอีกกว่า 2,800 ล้านบาท (อินโฟเควสท์)

OR – บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ลงนามสัญญาจองซื้อหุ้นและสัญญาระหว่างผู้ ถือหุ้นระหว่าง บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด หรือ Modulus ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OR และ บริษัท เค เน็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KNX) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าแบบอุตสาหกรรม รวมถึงประกอบกิจการร้านสะดวกซัก ภายใต้แบรนด์ “อ๊อตเทริ วอชแอนด์ดราย” โดยเข้าลงทุนในสัดส่วน ร้อยละ 40 ในวงเงินประมาณ 1,105 ล้านบาท (อินโฟเควสท์)

TKS – บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ผู้ประกอบธุรกิจ Security Printing ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน Universe กลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี 2565 ด้วยการ คัดเลือกจาก 851 หลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) โดยหน่วยงาน ESG Rating ของสถาบันไทยพัฒน์ (อินโฟเควสท์)

- Advertisement -