ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

แกว่งขึ้นต่อ ติดตามการแถลงของประธานเฟด คืนวันนี้

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธ แกว่งขึ้นต่อ…. หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยแข็งแกร่งกว่าที่เราคาด รับการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน และจิตวิทยาภายในประเทศที่ดีขึ้นหลังจาก ครม. ขยายเวลาของชุดมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชนออกไป ขณะที่นักลงทุนสถาบันภายในประเทศกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิหลักมาแล้วหลายวัน… ด้านปัจจัยต่อตลาดหุ้นวันนี้เป็นบวกเล็กน้อย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวค่อนข้างแรง หลังจากร่วงหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ผนวกกับตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง เดือน พ.ค. ออกมาดีกว่าที่ consensus คาดการณ์ โดยลดลงเพียง 3.4% MoM เทียบกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 5.0% MoM ขณะที่ในคืนวันนี้ นักลงทุนควรติดตามประเด็นสำคัญในสหรัฐฯ เกี่ยวกับการแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะมีการให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และแนวโน้มนโยบายการเงินด้วย… ด้านปัจจัยภายในประเทศนั้น เมื่อวานนี้รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ชี้ว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการขอความร่วมมือจากโรงกลั่น ช่วยส่งเงินอุดหนุนกองทุนน้ำมัน ขณะที่เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ ทรงตัวในระดับต่ำที่ 2,387 ราย เสียชีวิต 19 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 1,683 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร M, MAJOR*, BDMS*

  • M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 50 บาท / แนวต้าน 52-53 บาท กรณี Break กรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 55 บาท (Stop loss 49 บาท) 2) ประเมินแนวโน้ม Earnings momentum จะเริ่มเป็นขาขึ้นแบบไตรมาสต่อไตรมาส หลังปลดล็อคมาตรการโควิด-19 และเปิดรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ 3) ราคาหุ้นพักฐาน คาดเป็นผลจากความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อ แต่เราประเมินผลกระทบน้อย เนื่องจากพิสูจน์ใน 1Q65 แล้วว่ามีการปรับราคาขายขึ้น แต่ไม่กระทบยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นที่ Laggard กลุ่มเปิดเมือง จึงเป็นโอกาสซื้อเก็งกำไร ขณะที่ Valuation ไม่แพง PBV 3.47 เท่า คิดเป็นเพียง 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่คาดกำไรทยอยฟื้นตัวกลับสู่ระดับใกล้เคียงปกติได้ใน 2H65
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 21.2 บาท / แนวต้าน 21.6-21.8 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 22.5 บาท (Stop loss 20.6 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวดีต่อเนื่อง จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็ม รูปแบบแล้ว โดยยอดโฆษณาในโรงภาพยนตร์เริ่มฟื้นตัวเด่น (อ่านรายละเอียดบทวิเคราะห์กลุ่มสื่อวันนี้เพิ่มเติม) บวกหนังฟอร์มยักษ์ทยอยเข้าฉายตั้งแต่ต้น 2Q65 ฝ่ายวิจัยฯ คาดปีนี้พลิกเป็นกำไรจากการดำเนินงาน และปี 2566 คาดกำไรโตกลับสู่ระดับ +1 พันล้านบาท/ปี 3) Valuation และราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว PBV 2.62 เท่า คิดเป็นเพียง 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่ Forward PE ปีหน้าคาดจะลดลงเหลือเพียง +/-16.5 เท่า
  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 24.5 บาท / แนวต้าน 25.25 บาท หาก Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาส Rebound ทดสอบแนวต้านถัดไป +/-27 บาท (Stop loss 24.0 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น BDMS Laggard หุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่าง BH ที่คาดจะได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศต้อนรับผู้ป่วยต่างชาติ โดยฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปีนี้ฟื้นตัว +28% YoY แตะระดับ +1 หมื่นล้านบาทได้ 3) เนื่องจาก i) อัตราส่วนราคา BDMS*/BH* ลดลงต่ำกว่า 2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ย้อนหลัง 200 วัน) และ Upside จากราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยฯ หุ้น BH* ตอนนี้มีต่ำเพียง +4% (ราคาเป้าหมาย BH* 182 บาท) ขณะที่ Upside หุ้น BDMS* ตอนนี้สูงถึง +25% นักลงทุนอาจพิจารณาใช้กลยุทธ์ Pair trade โดยเปิด Long หุ้น BDMS* และเปิด Short หุ้น BH* พร้อมกัน (เริ่มแนะนำตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.)

หุ้นมีข่าว

(0) สัปดาห์นี้รู้เรื่อง ทุบโต๊ะรีดโรงกลั่น โรงแยกก๊าซโดนด้วย 500-1,000 ล้าน/เดือน (ข่าวหุ้น) “สุพัฒนพงษ์” ลั่นผลหารือโรงกลั่นฯ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ 3 เดือน ได้ข้อสรุปสัปดาห์นี้ ไม่บังคับแค่ขอความร่วมมือ รอเคาะวงเงินเร็วๆ นี้ ขณะที่มติครม. ไฟเขียวขึ้นราคา LPG กรอบสูงสุดไม่เกิน 408 บาทต่อถัง จ่อดึงกำไรโรงกลั่นฯ เริ่มก.ค.-ก.ย. 65 พร้อมรีดโรงแยกก๊าซธรรมชาติเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 500-1,000 ล้านบาท/เดือน ด้านโบรกฯ SPRC*-ESSO* ท็อปพิกในกลุ่มโรงกลั่นฯ รอดตัวมาตรการรีดเงิน ไร้เสี่ยงขาดทุนเฮดจิง

(-) สคบ.เคาะเช่าซื้อมอไซค์ หั่นดอกเอกชนเหลือ 20% (ข่าวหุ้น) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เคาะเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อวันนี้ จับตา SAWAD* โดนหนักสุด เหตุพอร์ตสินเชื่อลีสซิ่งมอเตอร์ไซค์สูง 24% ปัจจุบันคิดดอกเบี้ย 33-36% ส่วน MTC* พอร์ตอยู่ที่ 6% ของสินเชื่อรวม ขณะที่ดอกเบี้ยเกินเพดานใหม่ 20% ทั้ง 2 หุ้น หวั่นกดกำไรร่วง ส่วน TIDLOR*, SINGER*, THANI*, AEONTS* และ KTC* กระทบน้อยมาก แบงก์รอดยกกลุ่ม

(+) BGC รับผับบาร์ตี 2 ธุรกิจขวดเบียร์พลิก (ทันหุ้น) ผู้บริหาร BGC เผยยอดขายปีนี้มีโอกาสสูงกว่าเป้าที่กำหนดไว้ที่ 6-7% หลังรับผลดีรัฐผ่อนคลายคุมโควิด ผับบาร์ปิดตี 2 ชูประชาชนทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น ส่งออกพุ่งหมื่นล้าน ผลงานมีสิทธิใกล้เคียงหรือสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดได้ลุ้นนักท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเหมือนอดีต ผลักดันการเติบโต เดินแผนซื้อกิจการได้ข้อสรุป 1 ดีล Q4/2565 ลงทุน 500-600 ล้านบาท

(+) MAKRO โชว์ยอดดาวน์โหลดพุ่ง ตลาดค้าส่งออนไลน์ maknet” (ข่าวหุ้น) “แม็คโคร” ปลื้มยอดดาวน์ โหลด “maknet” หลังเปิดตัวเพียงสองเดือนพุ่งกว่า 4 หมื่นครั้ง คาดสิ้นปีเพิ่มเป็น 1.5 แสนครั้ง หลัง ฃผู้ประกอบการร้านอาหาร แห่ส่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ในราคาขายส่งผ่านแอปพลิเคชั่นตลาดค้าส่งออนไลน์ “maknet” ช่วยประหยัดเวลา เตรียมรับท่องเที่ยวฟื้นตัว

(+) WHAUP แววผลงาน Q2 เด่น ดีมานด์น้ำ-ไฟฟ้านิคมพุ่ง (ทันหุ้น) WHAUP ฉายแววผลงานไตรมาส 2/2565 โดดเด่น หลังเปิดประเทศต่างชาติกลับมาทำกิจกรรมการค้าได้ หนุนความต้องการน้ำ-ไฟฟ้าในนิคมพุ่งขึ้นต่อเนื่อง และดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง แย้มศึกษา M&A ธุรกิจไฟฟ้าในเวียดนาม-ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน พร้อมดีลร่วมทุนพันธมิตรในไทย อัดงบ 5 ปี 1 หมื่นล้านบาท ขยายฐาน

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 155 บาท) แนวรับ 134.5 บาท / แนวต้าน 138.5-140 บาท (Trailing stop 133 บาท)
  • BLA* (เป้า Consensus 53 บาท) แนวรับ 43.5 บาท / แนวต้าน 46-48 บาท (Trailing stop 43 บาท)
  • CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) แนวรับ 26.0 บาท / แนวต้าน 26.5-27.5 บาท (Trailing stop 25.5 บาท)
  • OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) แนวรับ 13.6 บาท / แนวต้าน 14.5-15.0 บาท (Trailing stop 13.0 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 28.0 บาท / แนวต้าน 29.5-30.0 บาท (Stop loss 27.0 บาท)
  • KBANK* (เป้าพื้นฐาน 188 บาท) แนวรับ 148.5 บาท / แนวต้าน 152.5-154 บาท (Stop loss 146 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ราคาสินค้าทั่วไปที่ปรับตัวขึ้น คาดส่งผลบวกสุทธิต่อหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากประเมินรายได้จากภาคเกษตร (Farm income) ปรับขึ้นแรงกว่าเงินเฟ้อ  เป็นบวกต่อกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่การท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัว หลังปลดล็อคมาตรการโควิด-19 ฝ่ายวิจัยฯประเมินหุ้นกลุ่มร้านอาหารจะรับอานิสงส์มากสุด เลือก M AU เป็นหุ้นเด่น ขณะที่หุ้น SAPPE และ PLUS คาดได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
  • EGCO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 199 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานยังเด่นในปี 2565 – 67 ขณะที่ DE ratio ที่ไม่สูง จะช่วยหนุนโอกาสการลงทุนในอนาคต ราคาหุ้นที่ Laggard ตลาดในปัจจุบัน คาดสะท้อนปัจจัยลบต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว ขณะที่ Dividend yield สูงราว +4% ต่อปี จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -