Daily Focus: Defensive and Reopening Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้น 15.31 จุด รีบาวด์ได้ตามตลาดหุ้นทั่วโลก จากเม็ดเงินที่ไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างเบาบางเพียง 5.5 หมื่นลบ. สะท้อนว่าการฟื้นตัวยังไม่แข็งแรงนัก สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 2 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิ 1.5 พันลบ. (แต่พลิกกลับมา Long Index Futures 1.5 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,570-1,580 จุด หลังจากรีบาวด์ระยะสั้นได้พอสมควรวานนี้ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น ปัจจัยกดดันยังคงอยู่ที่เงินเฟ้อและความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยในฝั่งสหรัฐฯ ขณะที่นโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้นเร็วยังจํากัดการปรับขึ้นของ สินทรัพย์เสี่ยงในช่วง 3Q22 ส่วนปัจจัยบวกหลักยังคงอยู่ในประเทศจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มทยอยเร่งตัวขึ้น ตามการผ่อนคลายมาตรการและเปิดปรเทศเต็มรูปแบบใน 2H22 ระยะกลาง-ยาวยังมองระดับที่น่าสนใจในการสะสมหุ้นเพิ่มที่บริเวณ 1,520+- จุด โดยยังเน้นหุ้น Value และ Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการจําเป็น ซึ่งคาดแกว่งตัวได้แข็งกว่าตลาด รวมถึงหุ้น Reopening Play ที่ได้อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และ Defensive Play ที่แนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD

หุ้นเด่นวันนี้ : SMPC

  • แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 19 บาท
  • คาดกําไร 2Q22 เติบโตสูงกว่า 30% Y-Y จากยอดสั่งซื้อถังแก๊สจากต่างประเทศที่ยังแข็งแกร่ง และได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า แต่กำไรลดลง Q-Q เพราะวันทํางานน้อย
  • ปรับกำไรปี 2022 ขึ้นเป็น +30% Y-Y จากการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเพราะเงินบาทอ่อนกว่าคาด สัดส่วนการขายถังสามส่วน ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น และราคาเหล็กที่เริ่มชะลอ ขณะที่ออร์เดอร์ยังแข็งแกร่ง 8 ล้านใบ และ 9 ล้านใบ ตามลำดับ
  • ราคาหุ้นเทรด PER เพียง 8.7 เท่า และให้ Dividend Yield 6.9%
  • แนวรับ 14.60-14.40//14 บาท แนวด้าน 15.50//16 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาค US$454 ล้าน แต่กระจุกตัวที่ไต้หวัน US$696 ล้านและยังไหลออกจากเกาหลีใต้ US$178 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินยังค่อนไปในทิศทางไหลออก นำโดยไทย US$44 ล้าน มีเพียงเวียดนามที่ไหลเข้าอ่อนๆ แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่องระยะสั้นตามเม็ดเงินที่ กลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวด์แรง แต่ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) มติครม.ช่วยเหลือผู้บริโภค 3 เดือน ทั้งการตรึงราคาขายปลีก NGV LPG ให้เงินอุดหนุนน้ำมันดีเซลส่วนที่เกิน 35 บาท/ลิตร ขอความร่วมมือคงค่าการตลาดน้ำมันดีเซลไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร ขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นนำส่งกำไรจากค่าการกลั่นสวนหนึ่ง เข้ากองทุนน้ำมัน และมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 อีก 1.5 ล้านสิทธิ ภาพรวมเป็น ปัจจัย Overhang กลุ่มโรงกลั่นและปั๊มน้ำมัน แต่มองจังหวะย่อตัวในการเข้าซื้อเพราะเป็นปัจจัยชั่วคราว และยังได้อานิสงส์เชิงบวกจาก Demand น้ำมันที่ฟื้นตัวระยะยาว ส่วนกลุ่มท่องเที่ยวได้อานิสงส์เชิงบวก เรายังชอบระยะกลาง SHR BCP จาก PBV ที่ไม่สูงเทียบกับกลุ่ม

(0) TFM คาดกำไร 2Q22 ฟื้นตัว Q-Q จากความต้องการอาหารกุ้งและปลาที่ฟื้นตัว แต่ยังต่ำกว่าปีก่อนเพราะต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น เราคาดความต้องการบริโภคจะเร่งตัวขึ้นใน 2H22 จากการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักมากขึ้นทั้งไทยและต่างชาติ และคาดราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทรงถึงอ่อนตัวใน 2H22 และคลี่คลายมากขึ้นในปีหน้า อย่างไรก็ตาม เราปรับลดกำไรปี 2022 ลงเหลือ 63 ลบ. จาก 411 ลบ. และจะกลับมาโตอีกครั้งในปี 2023 ราว 5x เป็น 327 ลบ. ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 11.50 บาท แนะนํา “ถือ”

(0) หุ้นเข้าออก SET50-SET100 งวด 2H22 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า BLA JMT JMART หุ้นออก COM7 RATCH STGT ส่วน SET100 หุ้นเข้า FORTH ONEE PSL TIPH หุ้นออก BPP RS SIRI TVO

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 641.47 จุด หรือ 2.15% ปิดที่ 30,530.25 จุด จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และ Growth Stocks อาทิ Apple, Microsoft ท่ามกลางติดตามนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลง นโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันที่ 22-23 มิ.ย.

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์, กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มน้ำมัน

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมเช้านี้ โดยยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นพิเศษตามตลาดคาด

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง อยู่ที่บริเวณ 35.41 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 110.65 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน ท่ามกลางอุปทานน้ำมันยังคงตึงตัว

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,838.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากตลาดดาวโจนส์ปรับขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้น

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,073.79 / -1.74

- Advertisement -