LEO ก้าวไปอีกสเต็ป เดินหน้าเซ็นสัญญาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัท Yunnan Tengjun Multimodal Transport Holding Ltd. รัฐวิสาหกิจจีน เร่งพัฒนาระบบขนส่งผลไม้และสินค้าอีคอมเมิร์ซทางรถไฟระหว่างไทยและจีน ผ่านแพลตฟอร์มที่สร้างร่วมกัน ระบุความร่วมมือครั้งนี้ ทำให้ LEO สามารถขยายการให้บริการโลจิสติกส์สำหรับการขนส่งสินค้าทางรางไปยังประเทศจีนได้ครบวงจรมากขึ้น สร้างความสามารถในการแข่งขันให้แตกต่าง ทั้งช่วยสนับสนุนนักธุรกิจไทยส่งออกผลไม้ไปจีนได้มากขึ้นด้วย วางเป้าหมายในส่วนของรายได้ให้เติบโตขึ้นอย่างน้อยปีละ 100 ล้านบาท มั่นใจช่วยผลักดันอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด 

 

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (Strategic Cooperation Agreement) กับบริษัท Yunnan Tengjun Multimodal Transport Holding Ltd. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศจีน เพื่อพัฒนาระบบบริการรถไฟสำหรับการขนส่งผลไม้และสินค้าอีคอมเมิร์ซระหว่างไทยและจีน

สำหรับบริษัท Yunnan Tengjun Multimodal Transport Holding Ltd. เป็นบริษัทโลจิสติกส์ระดับ 5A ของจีน โดยเป็นผู้บริหารจัดการ Gallops International Land Port ซึ่งเป็นศูนย์โลจิสติกส์ระดับชาติที่ครอบคลุมพื้นที่จำนวน 1,528 ไร่ โดยมีการลงทุนรวม 1,100 ล้านหยวน และเป็นศูนย์การขนส่งทางบกที่เชื่อมต่อเส้นทางมณฑลยูนนาน ที่สามารถกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ ในจีน และต่อไปยังทวีปอื่นๆ เช่น ยุโรป เป็นต้น

ด้านขอบเขตความร่วมมือระหว่างกันนั้น Yunnan Tengjun จะให้บริการพิธีการทางศุลกากรและการกระจายสินค้าภายในประเทศจีน รวมถึงพัฒนาการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่าง ไทย จีน ทั้งทางรถไฟ และทางรถบรรทุก เพื่อตอบสนองความต้องการขนส่งสินค้าโดยตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งแบบธรรมดาและแบบห้องเย็นที่เพิ่มขึ้นจาก LEO ซึ่งในขณะนี้ความร่วมมือดังกล่าวอยู่ในช่วงของการทดสอบระบบและทดลองการให้บริการ คาดว่าจะสามารถให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2565

นอกจากนี้ ทาง Yunnan Tengjun ยังมีแผนพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่จะเข้ามาช่วยจำหน่ายผัก ผลไม้ หรือสินค้าที่ส่งมาจากประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการวางแผนและจัดทำ platform  คาดว่าจะสามารถช่วยเพิ่มปริมาณและขยายตลาดให้กับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างไทยและจีน ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้

“เป้าหมายและประโยชน์ที่ LEO คาดว่าจะได้รับคือ LEO จะสามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้เหนือคู่แข่ง  เนื่องจากได้ต้นทุนการให้บริการจากพันธมิตรที่สามารถแข่งขันได้ และสามารถให้บริการทั้งนำเข้าและส่งออกสินค้าได้อย่างครบวงจรทั้งในประเทศไทยและในประเทศจีน  นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยสนับสนุนผู้ส่งออกไทยให้สามาถส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนได้มากขึ้น ส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตขึ้น  สำหรับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ ทางบริษัทวางเป้าหมายในส่วนของรายได้ให้เติบโตขึ้นอย่างน้อยปีละ 100 ล้านบาท ภายในปี 2566” นายเกตติวิทย์ กล่าว

**********

- Advertisement -