Daily Focus: Defensive and Reopening Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index พลิกมาปรับลง 14.50 จุด ตามตลาดหุ้นเอเชียที่อ่อนตัว จากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ และเสี่ยงเกิด Recession โดยเฉพาะสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่องกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงธนาคารและค้าปลีกที่ถ่วงตลาด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 68 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 736 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเร่งตัวเป็น 3.6 พันลบ. (และพลิกกลับมา Short Index Futures อีกครั้งราว 1.2 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,550-1,570 จุด โดยยังขาดปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ตลาดยังคงกังวลเงินเฟ้อและเศรษฐกิจชะลอตัว การแถลงต่อหน้าสภาคองเกรสของประธาน FED ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแรงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย และจะพยายาม Soft Landing เศรษฐกิจ ซึ่งมีความท้าทายมากขึ้น และยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิด Recession ส่งผลให้นํ้ามันดิบอยู่ในช่วงพักตัวลงกดดันกลุ่มพลังงานต้นน้ำ ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้า ปิโตรฯ วัสดุก่อสร้างคาดว่าจะฟื้นดัวขึ้นจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่ลดลง อย่างไรก็ตาม SET Index ถือว่าปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นๆ โดยยังคงมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นขาขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 ที่เป็นปกติแล้ว รวมถึงการเปิดปรเทศเต็มรูปแบบใน 2H22 ระยะกลาง-ยาวยังมองระดับที่น่าสนใจในการสะสมหุ้นเพิ่มบริเวณ 1,520+- จุด โดยยังเน้นหุ้น Value และ Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการจำเป็น ซี่งคาดแกว่งตัวได้แข็งกว่าตลาด รวมถึงหุ้น Reopening Play ที่ได้อานิสงส์จากภาคการท่องเทียวที่ฟื้นตัว
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และ Defensive Play ที่แนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD
หุ้นเด่นวันนี้ : TFG
- แนะน่า “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.50 บาท
- ผู้บริหารให้ภาพแนวโน้มราคาหมูไก่ในประเทศยังสูงต่อเนื่องถึงปี 2023 จากผลของ ASF ที่ระบาด ทำให้ไก่ที่เป็นสินค้าทดแทนปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 9 ปี Demand ในประเทศแข็งแกร่ง ขณะที่การส่งออกยังดีต่อเนื่อง
- ส่วนฝั่งต้นทุนแม้ปรับขึ้น แต่สามารถขึ้นราคาขายชดเชยได้ทั้งหมด เราปรับกำไรปี 2022 ขึ้นจาก 2 พันลบ.เป็น 2.85 พันลบ. ทำจุดสูงสุดใหม่ ส่วนความเสี่ยง คือ ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวลงเร็วกว่าคาด
- แนวรับ 6.30-6.20//6 บาท แนวต้าน 6.65//7 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาค US$1,281 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$876 ล้าน และ US$286 ล้าน ตามล่าดับ ส่วนอาเซียนไหลออก นำโดยไทย US$101 ล้าน มีเพียงเวียดนามที่ไหลเข้าบางๆ แนวโน้มกระแสเงินทุน คาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก จากความกังวลเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงเกิด Recession
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) MAJOR ราคาหุ้นปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาดในเดือนนี้ คาดเป็นผลจากหนังทำเงินที่เข้าฉายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ Doctor Strange, Top Gun: Maverick, Jurassic World, Lightyear รวมถึง Thor 4 ที่จะเข้าฉายเดือนหน้า รวมถึง Avatar 2 ที่จะเข้าฉายปลายปี ประกอบกับมาตรการของ ศบค.ที่ผ่อนลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Traffic ดีขึ้น เราคาดผลการดำเนินงานปี 2022 พลิกกลับมามีกำไร 729 ลบ.จากขาดทุน 528 ลบ. กําไรที่ผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q22 และเร่งตัวขึ้นใน 2Q22 เป็นต้นไป ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 24 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) ASW ยอด Presales 5M22 ท่าได้ 5 พันลบ.หนุนจากยอดขาย Campus Condo พร้อมอยู่แบรนด์ Kave ที่โตอย่างมีนัยยะ หลังมหาวิทยาลับเปิดเทอม ส่วนเดือน มิ.ย. มีแผนเปิดคอนโดใหม่อีก 3 โครงการ ซึ่งผลตอบรับดี ทำให้ยอด Presales 1H22 คาดทำได้ 65% ของเป้าทั้งปีที่ 1 หมื่นลบ. เราปรับกำไรปี 2022 ลงเป็น +11% Y-Y จากการเลื่อนโอนคอนโด Modiz Collection บางโพจากอุบัติเหตุการก่อสร้าง แต่คาดโมเมนตัมกําไร 2Q22 จะดีขึ้นและเร่งตัวใน 2H22 อย่างมีนัยะ ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 10 บาท ราคาหุ้นเทรด PER เพียง 6.4 เท่าและให้ Dividend Yield ราว 7% คงคำแนะนำ “ซื้อ”
(0) หุ้นเข้าออก SET50-SET100 งวด 2H22 สําหรับ SET50 หุ้นเข้า BLA JMT JMART หุ้นออก COM7 RATCH STGT ส่วน SET100 หุ้นเข้า FORTH ONEE PSL TIPH หุ้นออก BPP RS SIRI TVO
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 47.12 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 30,483.13 จุด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวยืนยันต่อสภาคองเกรสว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากการปรับลงของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ตามราคาน้ำมันและโลหะ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษ เพิ่มขึ้น 9.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยจากการเร่งปรับอัตราดอกเบี้ย
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น อยู่ที่บริเวณ 35.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 3.33 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 106.19 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย และความต้องการนํ้ามันชะลอตัวลง ขณะที่ติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,838.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,071.76 / -2.03
