A5 กวาดยอดขาย 5 เดือนแรกของปีนี้ทะลุ 530 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 7% หลังภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทยอยฟื้นตัว ผู้บริโภคเข้าชมโครงการ ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น มองแนวโน้มอสังหาฯ ครึ่งปีหลังฟื้นต่อเนื่องหากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบ พร้อทเตรียมเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,570 ล้านบาท

 

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาทยอยฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ กลับมาดำเนินงานตามปกติและส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคที่เคยชะลอตัวการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมาเพื่อรอดูราคาที่เหมาะสม กลับมานัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลังจากประเมินแล้วว่า ราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้  เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างและราคาวัสดุปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน

จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา โดยสามารถทำยอดขายได้ทั้งสิ้นกว่า 530.54 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้กว่า 7% โดยโครงการที่สร้างยอดขายหลักให้แก่บริษัทคือโครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับลักซ์ชัวรี่ บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ปัจจุบันมีบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ที่เหลือขายอีกเพียง 2 ยูนิตสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายในเร็วๆ นี้

ขณะที่แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลัง หากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภค คาดว่าความต้องการซื้อจะทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่อั้นไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะมีผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์และความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ด้านแผนการดำเนินงาน บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,570 ล้านบาท โดยเป็นบ้านแนวราบในจังหวัดอุดรธานี 1 โครงการ และกรุงเทพฯ อีก 1 โครงการ ล่าสุดเตรียมเปิดพรีเซลโครงการ “บ้านรชยา ประชาสันติ” ที่จังหวัดอุดรธานี ในเดือนสิงหาคมนี้  พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคา 2.79 – 4.5 ล้านบาท จำนวน 71 ยูนิต มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท ส่วนไตรมาสสุดท้ายจะเปิดโครงการบ้านแนวราบระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ในกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท และบ้านแนวราบในจังหวัดอุดรธานีอีก 1 โครงการ บนเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 1,600 ล้านบาท

*********

- Advertisement -