Our View? “รีบาวด์บ้าง อะไรบ้าง”

คาดตลาดวันนี้ “รีบาวด์ในกรอบจำกัด” มองแนวรับที่บริเวณ 1,550 / 1,540 และแนวต้านที่บริเวณ 1,565 / 1,575 ตามทิศทางตลาดต่างประเทศเริ่มรีบาวด์ขึ้นหลังปรับตัวลงก่อนหน้า ขณะที่การแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร โดยได้แสดงความมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ยังได้กล่าวยืนยันถึงแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ รวมทั้งยังให้มุมมองถึงความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสเกิดภาวะถดถอยจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่เมื่อคืนนี้ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐและยูโรโซนออกมา 52.4 และ 52.0 ตามลำดับ น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แม้ยังอยู่สูงกว่าระดับ 50.0 ซึ่งบ่งชี้แนวโน้มการขยายตัวของภาคการผลิตแต่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง สะท้อนภาคการผลิตสหรัฐและยูโรโซนชะลอตัวลงต่อเนื่อง สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว – ถดถอยในระยะถัดไป คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside การฟื้นตัวขึ้นได้อยู่

ทางด้านสัญญาราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้แกว่งตัวออกด้านข้างอิงทางลง ปิดที่ระดับ 104.27 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.92 ดอลลาร์ (-1.81%) ยังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสชะลอตัวลงจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางที่สำคัญของโลก คาดจะกดดันอุปสงค์น้ำมัน ผสานแนวโน้มการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน คาดจะเป็นปัจจัยหลักช่วยเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบระยะยาวได้ในระยะถัดไป คาดจะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 22% ของตลาดอ่อนตัวลงถ่วงตลาดหุ้นไทยได้ อย่างไรก็ตาม เรามองทิศทางราคาน้ำมันที่เริ่มจำกัด Upside มากขึ้นจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นที่มีต้นทุนเป็นน้ำมัน อาทิ หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM และ GPSC) และสายการบิน (AAV และ BA) คาดมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้แบบค่อยเป็นค่อยไป

ในส่วนของปัจจัยในประเทศ เรายังมีความกังวลต่อการอ่อนค่าของค่าเงินบาท โดยล่าสุดอ่อนค่าขึ้นเหนือระดับ 35.50 คาดจะกดดันทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกได้ต่อเนื่อง โดยเดือน มิ.ย. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท รวมทั้งมียอด Short SET50 Index Futures กว่า 1.33 หมื่นสัญญา คาดจะกดดันภาพรวมทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ สะท้อนความไม่มั่นใจในทิศทางตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าต่อเนื่องของค่าเงินบาทมองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออกอาหารได้ต่อ (CPF, TFG, GFPT, TU, ASIAN และ CFRESH) อีกทั้ งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ BBL) จากแนวโน้มการเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปของ กนง. คาดอาจมีการปรับขึ้นในช่วงเดือน ส.ค. ขณะที่การที่ กนง. คาดการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจมากกว่าที่ประเมินไว้ มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, MINT, CENTEL และ ERW)

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “PLAT”

กลยุทธ์ ซื้อเล่นสั้น 3.40 / 3.30 Target 3.74 / 3.90 Stop <3.22

- Advertisement -