บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Kiatnakin Phatra Bank (KKP TB) โอกาสเข้าซื้อ
หุ้นโตแกร่งที่มาพร้อม valuation ที่ถูก ชอบ KKP มากกว่า TISCO
เรามองว่า KKP ให้ผลตอบแทน (risk-adjusted return) สูงกว่า TISCO (ซื้อ CP 89.5 บาท ราคาเป้าหมาย 110 บาท) เนื่องจากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง และ valuation ที่น่าสนใจ ในส่วนการดำเนินงานของธนาคารของ KKP ดูเหมือนจะตามหลัง TISCO แต่ gap เริ่มจะแคบลง และชดเชยด้วยการเป็นผู้นำที่ชัดเจนในตลาดทุน เราเชื่อว่าการประเมินราคาหุ้นที่ไปของ KKP เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยหุ้น KKP (PER 7.5 เท่า) ซื้อขายที่ราคาถูกกว่า TISCO (10x PER) อยู่ 25% ในแง่ของ PER แนะนำ ซื้อ TP 88 บาท (P/BV ปี 65 ที่ 1.3 เท่า ROE 12.9%)
การเติบโตของสินเชื่อที่มีหลักประกันช่วยหนุนคุณภาพสินทรัพย์
สินเชื่อของ KKP เติบโตแข็งแกร่งที่ 12% ต่อปี และฐานสินทรัพย์ในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง เติบโต 14% ต่อปีในช่วงห้าปีที่ผ่านมา การเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งช่วยหนุนการเติบโตของ PPoP โดย PPoP ของ KKP อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาทในไตรมาส 1/65 มากกว่า ชของ TISCO 1.5 เท่า คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นหลังเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ไปสู่สินเชื่อองค์กรและสินเชื่อ SME ขนาดเล็ก เราไม่ค่อยกังวลเรื่องขาดทุนจากการขายรถยึด เนื่องจาก KKP ได้เร่งขายในปี 2563-2564 จากการตรวจสอบของเราพบว่าราคารถยนต์มือสองยังคงสูง เนื่องจากอุปสงค์ที่มากกว่าอุปทาน เราคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะลดลงมาอยู่ที่ 1.9% ในปี 2565 จาก 2.5% ในปี 2564 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมเริ่มใหม่ และ NPL coverage ที่สูง (181% ในไตรมาส 1/65)
กระจายรายได้ระหว่างธุรกิจธนาคารและตลาดทุน
การกระจายรายได้ระหว่างธนาคารและตลาดทุนจะช่วยลดดาวน์ไซด์ต่อกำไรตลาดหุ้นทั่วโลก ที่อ่อนแออาจส่งผลให้การขายผลิตภัณฑ์ offshore ที่มีค่าธรรมเนียมสูงทำได้ยากขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ แต่เราเชื่อว่า KKP เดินมาถูกทางในการขยายฐานสินทรัพย์ในธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ซึ่งมีรายได้ประจำที่ดี ความสามารถในการทำกำไรสูงโดยไม่มีความเสี่ยงต่อ NPL และความต้องการเงินทุนต่ำ ทั้งนี้ ฐานสินทรัพย์ของ KKP ในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 14% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจาก 3.79 แสนล้านบาทในปี 2559 เป็น 7.34 แสนล้านบาทในปี 2564 ธุรกิจ IB อาจล่าช้าจากตลาดทุนที่ผันผวน แต่แผนงานยังคงแน่นปึก
คาดกำไร 2Q65 เพิ่มขึ้น 30% YoY จากค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลง
เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 30% YoY (จาก NII ที่สูงขึ้นและต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง) แต่ลดลง 14% QoQ (จาก non-nii ที่ลดลง) เป็น 1.8 พันล้านบาทใน 2Q65 คาดเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 21% YoY และ 4% QoQ โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) สินเชื่อจำนองและสินเชื่อองค์กรที่โตแกร่ง เราจึงคาดว่า NII จะเติบโต 16% YoY Non-NII ลดลง 7% เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่ลดลงจากตลาดทุน อัตราส่วน NPL คาดว่าจะทรงตัว QoQ ที่ 2.85% ในไตรมาส 2/65 เราคาดว่า KKP จะมี ECL ลดลงที่ 176bp ใน 2Q65 เทียบกับ 257bp ในไตรมาส 2/64 เนื่องจาก NPL coverage สูงและคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น