Daily Focus: Selective Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องปิดบวก 11.44 จุด ณ สิ้นวัน ยืนเหนือ 1,580 จุด นำโดยหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก ทำให้ทางเทคนิคยังดูเป็นบวกระยะสั้น สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 819 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการที่ 1.7 พันลบ. (และ Long Index Futures เร่งขึ้นเป็น 1.5 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังมีแนวโน้มแกว่งแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ต่อเนื่องระยะสั้นหลังยืนเหนือ 1,580 จุดได้ แต่คาด Upside จะเริ่มจะกัดมากขึ้นบริเวณแนวต้านจิตวิทยา 1,600 จุด ตลาดคลายกังวลระยะสั้น และคาดหวังว่านโยบายการเงินของ FED ที่ดึงตัวเร็วจะไม่แย่ถึงขั้นทําให้เศรษฐกิจเกิด Recession แต่ภาพรวมตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ที่ชัดเจน และต่างรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญทั้งการจ้างงานและเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ก่อนที่ FED จะประชุมกันอีกครั้งวันที่ 26-27 ก.ค. ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ค่อนข้างแน่นอน ส่วนปัจจัยในประเทศน้ำหนักยังอยู่ที่การ Reopening และเปิดประเทศ หนุนเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางขาขึ้นและดูดีกว่าภูมิภาคอื่น ยังเน้นลงทุนในหุ้น Value และ Selective หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีแนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 ที่แข็งแกร่ง ถูกกระทบจํากัดจากต้นทุนที่ปรับขึ้น
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และแนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD
หุ้นเด่นวันนี้ : SNC
- แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก Consensus 22.92 บาท
- โมเมนตัมกําไร 2Q22 แม้อาจอ่อนตัว Q-Q จากปัจจัยฤดูกาลของลูกค้าชาวจีน แต่คาดยังเห็นการเติบโตที่โดดเด่น Y-Y จากคำสั่งชื้อ OEM ที่เร่งตัวจากปีก่อน หนุนรายได้โตแกร่งและได้อานิสงส์จาก Operating Leverage
- ตลาดประเมินกำไรปี 2022 เติบโต +26% Y-Y โดยหากอิงคาดการณ์ EPS ที่ 2.10 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER เพียง 8.8 เท่า และคาดให้ Dividend Yield ราว 6%
- แนวรับ 18.20-18 บาท แนวต้าน 18.80//19.40 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเร่งขึ้นเป็น US$476 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$314 ล้าน และ US$199 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ไหลเข้าไทยแต่ไหลออกจากอินโดนีเซีย แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้าระยะสั้น อย่าไงรก็ตาม ตลาดยังติดตามประเด็นเงินเฟ้อและดอกเบี้ยทั่วโลกที่เร่งตัว
ประเด็นสําคัญวันนี้
(+) ธปท. Analyst Meeting มองเศรษฐกิจไทยเห็นภาพการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศเป็นหลัก ธปท.จ่าเป็นต้องปรับนโยบายการเงินให้สอดคล้องและให้เศรษฐกิจ Take Off แบบราบรื่น ด้านเงินเฟ้ออาจปรับขึ้นสูงในระยะสั้นตามราคา Commodity แต่ยังคงกรอบเป้าหมายระยะกลางที่ 1-3% ตลาดประเมินมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งใน 2H22 เรามองบวกต่อกลุ่ม Domestic และ Reopening Play อย่างต่อเนื่อง กลุ่มธนาคารคาดว่ายังคงได้อานิสงส์ จากทั้ง Loan Growth ที่ดีขึ้น และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบ BBL จาก Valuation ที่ถูกโดยเทรด PBV เพียง 0.5 เท่า
(+) CPALL คาดพื้นตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y จาก SSSG 2Q22 ที่คาด +13% Y-Y ดีกว่าที่เคยประเมิน สะท้อนการฟื้นตัวตามการ Reopen เปิดเรียน และนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา คาดกําไร 2H22 จะฟื้นตัวดีกว่า 1H22 และคาดเห็น Synergy ระหว่าง MAKRO และ Lotus’s มากขึ้น คาดกำไรปี 2022 +66% Y-Y และราคาเป้าหมายจาก FSSIA อยู่ที่ 82 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) PR9 แนวโน้มกาไร 2Q22 ยังเร่งดิวแกร่ง Y-Y จากทิศทางรายได้เดือน เม.ย.-พ.ค. ที่ยังแข็งแรง โดยเฉพาะการรักษาโรคซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นผู้บริหารคาดว่าเป้ารายได้ปีนี้ที่ +15% Y-Y อาจมี Upside เป็น +20% Y-Y จากทั้งรายได้ผู้ป่วยต่างชาติและไทยที่ฟื้นตัว ส่วนเงินเฟ้อกระทบจำกัดต่อ PR9 จากราคาที่ยังถูกกว่าโรงพยาบาลระดับใกล้เคียงกันอื่นๆ คาดกำไรปีนี้ +65% Y-Y ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 16.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) PRM ภาพรวมกำไรปกติ 2Q22 ยังทรงๆ ไม่น่าตื่นเต้น -5% Q-Q เพราะมีวันหยุดมากในเดือน เม.ย. ชดเชยไม่ได้จากการรับเรือ VLCC ใหม่ 1 ลำ ต้น มิ.ย. และเรือ Crew boat 9 ล่าได้สัญญา 3-5 ปี เริ่มให้บริการ พ.ค. ส่วน Y-Y คาดทรงตัวเพราะรายได้เรือ FSU สู่ปีก่อนไม่ได้ บาทอ่อนคาดทำให้มีขาดทุน FX จากเงินกู้สกุลดอลลาร์ แนวโน้มกําไร 2H22 จะดีขึ้นหลังจากเรือ VLCC 2 ลำ และ Crew boat 9 ลำทำงานเต็มที่ และใน 4Q22 จะรับเรือ VLCC เพิ่มอีก 1 ลำ ยังคงคาดกำไรปกติปี 2022 ฟื้น +20% Y-Y ดามภาวะเศรษฐกิจ คงราคาเป้าหมาย 7.90 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) หุ้นเข้าออก SET50-SET100 งวด 2H22 สําหรับ SET50 หุ้นเข้า BLA JMT JMART หุ้นออก COM7 RATCH STGT ส่วน SET100 หุ้นเข้า FORTH ONEE PSL TIPH หุ้นออก BPP RS SIRI TVO
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 62.42 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 31,438.26 จุด จากแรงขาย Growth Stocks ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ท่ามกลางติดตามตัวเลข GDP 1Q22 ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จาการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และการผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 ในจีน
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากยังกังวลเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบ อยู่ที่บริเวณ 35.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 109.57 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญกับภาวะตึงตัวมากขึ้น หลังกลุ่มประเทศ G7 ยืนยันว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรุนแรงขึ้น
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,824.8 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับขึ้นขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. จากเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.4%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,056.37 / -6.69