DRT ประกาศแผนลงทุนครั้งใหม่ ทุ่มงบลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตอีก 100,000 ตันต่อปี ระบุเพื่อตอบสนองความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้น คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในต้นปี 2567 มั่นใจสามารถบริหารจัดการได้แม้ยังมีความเสี่ยงด้านต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น พร้อมประเมินตลาดวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้น ภาคอสังหาฯ เริ่มผุดโครงการใหม่
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผนการลงทุนเพิ่มสายการผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีต เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 100,000 ตันต่อปี ภายใต้งบลงทุน 477 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3 และแล้วเสร็จสามารถเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงต้นปี 2567
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าว จะส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องหลังคา ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าหลักของ DRT ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมรองรับกับการเติบโตในอนาคต จากปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตของเครื่องจักรผลิตกระเบื้องหลังคา คิดเป็นร้อยละ 95 ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งภายหลังการเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ในสายการผลิตดังกล่าว ทำให้ DRT บริหารจัดการด้านการผลิตให้มีความยืดหยุ่น สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีขึ้น
“การขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ าจะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดในการดำเนินงานและกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน เนื่องจากบริษัทมีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็ง มีสภาพคล่องที่ดีและมีอัตราหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 0.49 เท่า ทำให้มีความสามารถลงทุนเพิ่มเติม โดยไม่ส่งผลกระทบการจ่ายเงินปันผลแต่อย่างใด” นายสาธิต กล่าว
ด้าน ดร.พิชญานันท์ ล้อวรลักษณ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ทิศทางตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลังคาดว่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้น หลังภาครัฐเตรียมประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น และการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของภาคเอกชนและผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น แม้ปัจจุบันยังมีความเสี่ยงจากต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้นที่ยังเป็นปัจจัยที่เป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจและการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน
อย่างไรก็ตาม DRT เชื่อมั่นจะสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงดังกล่าวได้ จากการมุ่งรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ย 80-90% พร้อมตอกย้ำจุดเด่นด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ “ตราเพชร” เพื่อตอบสนองสนองความต้องการลูกค้า ผ่านช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่แบรนด์ต่างๆ ที่พบว่า คู่ค้าแต่ละรายต่างเร่งลงทุนเปิดสาขาใหม่หลายแห่งในช่วงครึ่งปีหลัง และช่องทางตลาดต่างประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านคลี่คลายไปในทางที่ดี และบริษัทฯ เริ่มกลับเข้าไปทำกิจกรรมการตลาดอีกครั้งเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น
นายกำชับ วัฒนธรรม ผู้จัดการฝ่ายขาย อาวุโส DRT กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกช่องทางที่มีทิศทางเติบโตที่ดีมาก โดยผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าหลักของบริษัทหลายราย วางแผนเร่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้มีความต้องการใช้สินค้าและบริการมากขึ้น เช่นเดียวกับช่องทางจำหน่ายร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายย่อยที่มีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น หลังจากประเมินแล้วว่า ราคาน้ำมันไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดลงในเร็วๆ นี้ จึงเพิ่มปริมาณสต๊อกสินค้าเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ช่องทางดังกล่าวมีอัตราการขยายตัวที่ดี
**********