KS Daily View 29.06.2022 > ติดตาม PMI จีน, US-CHINA Trade talk และ เงินเฟ้อสหรัฐ กำหนดทิศทางตลาดหุ้น SET Index วันนี้คาดแกว่งกรอบแคบๆ 1580-1585 จุด หุ้นแนะนำ SPRC, IIG
ต่างประเทศ : เมื่อคืนสินทรัพย์เสี่ยงปรับฐานอีกครั้งทั้ง ตลาดหุ้นสหรัฐ อิงดัชนี S&P 500(-2%), ราคาเหรียญ BTC(-2.5%) ฯลฯ จากประเด็นเดิมคือความกังวล Recession ที่เพิ่มขึ้น หลังจากรายงานดัชนีเศรษฐกิจที่ออกมาชะลอตัว ล่าสุด เมื่อวานสหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรุดตัวลงสู่ระดับ 98.7 ในเดือนมิ.ย. ลดลง -4.3% MoM ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2013 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 100 จุด และรายงานฝั่งตลาดบ้าน รายงาน Home-price growth ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021
โดยประเด็นที่ต้องติดตามช่วงสั้นและมีผลต่อตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ คือ ติดตามเช้าวันพรุ่งนี้ รายงานตัวเลข NBS Manufacturing PMI ของจีนเดือน มิ.ย. คาด 48.6 จุด (-2% MoM) หากออกมาสูงกว่าคาดและเหนือ 50 จุด คาดจะเป็นปัจจัยหนุนบวกต่อตลาดหุ้นโลก และ SET Index และหนุนต่อหุ้น CBG, SCGP, PSL อีกประเด็นที่ต้องตามคือ US-CHINA Trade talk คาดการณ์จะเกิดขึ้นหลังประชุม NATO วันที่ 29-30 มิ.ย. เป็นประเด็นที่ หากผ่อนคลายภาษี คาดอาจเป็น Catalyst ที่อาจหนุนตลาดหุ้น
โดย KS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นโลกตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงช่วงไตรมาสที่ 3 ตลาดหุ้นทั่วโลกจะผันผวน และมีโอกาสปรับฐานในช่วงสั้น แต่อาจจะเห็น Mini bear market rally ในบางช่วง เนื่องจากจะยังเห็นการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่เริ่มชะลอจากผลกระทบของดอกเบี้ยปรับขึ้น KS เชื่อว่าตัวเลขเศรษฐกิจคาดออกมาชะลอและ ณ.ปัจจุบัน มุมมองความเชื่อในตลาดแบ่งเป็น 2 กลุ่มซึ่งยังสวนทางกัน คือ 1.)กลุ่มที่กังวลเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้นในอนาคตและเชื่อว่าธนาคารกลางจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย(Hawkish) คาดกลุ่มนี้จะกังวลประเด็นเศรษฐกิจถดถดถอย รวมถึงกังวล stagflation ทำให้มีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง 2.) กลุ่มที่ไม่มีความกังวลเงินเฟ้อจะเร่งตัวในอนาคต(Dovish) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เชื่อ อัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในสหรัฐเริ่มอ่อนตัวลง มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม KS มีมุมมองเชิงบวกกับตลาดหุ้นในระยะกลาง คือ มองไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไปมีโอกาสที่ตลาดจะกลับเป็น V-shape recovery ประเมินประเด็นเงินเฟ้อน้ำหนักกดดันตลาดจะลดลง และแนวโน้มอ่อนตัวหรือผ่านจุด Peak ไปแล้ว เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) จะเดินหน้ากดเงินเฟ้อก่อนการเลือกตั้งสหรัฐกลางเทอม (Midterm election)
ในประเทศ : มี 2 ประเด็นสำคัญที่คาดจะยังเป็นกระแสต่อ คือ 1.) ภาคการท่องเที่ยวไทยเห็นสัญญาณบวก ล่าสุด เมื่อวานสำนักข่าว Bloomberg รายงาน จีนประกาศลดจำนวนวันกักตัวสำหรับคนที่จะเดินทางเข้าประเทศเหลือ 10 วัน จาก 21 วัน KS ประเมินการลดจำนวนวันกักตัวเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจีนได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศแล้ว จึงถือเป็นสัญญาณดีของในการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวไทยที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าปีละราว 10 ล้านคนหรือ 25% ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยก่อนโควิด-19 มองเป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวและขนส่ง โดยเฉพาะ AOT, AAV, SPA, CENTEL 2.) ค่าเงินบาททิศทางยังแข็งค่าแรงลงมาบริเวณ 35.0 บาท ผลจาก Dollar index ที่อ่อนค่าหลุด 104 จุด, ข่าวทางการจีนประกาศลดจำนวนวันกักตัวดังกล่าวคาดจะหนุนดุลบริการไทยช่วงที่้เหลือของปีทิศทางเป็นบวกเพิ่มขึ้น รวมถึง Fund Flow ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตั้งตลาดหุ้นไทย และตราสารหนี้ระยะสั้น โดย KS ประเมินจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นขนาดใหญ่ กลุ่มโรงไฟฟ้า (จากการศึกษาของ KS เงินบาทที่แข็งค่าทุก 1 บาทจะส่งผลบวกต่อ Bottom line ต่อ BGRIM +9.9%, EGCO +8.4% GULF+6.9%, TPIPP +0.8%, BPP+0.3%) อีกฝั่งประเมินเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาดแกว่งในกรอบแคบๆ 1580-1585 จุด
หุ้นแนะนำ SPRC, IIG
Top pick :
- IIG (ราคาพื้นฐาน 48.9 บาท) เราเริ่มออกบทวิเคราะห์ Initiate coverage หุ้น IIG ในวันนี้ด้วยคำแนะนำซื้อ โดยมองเป็นหุ้น Growth Stocks 1.) โดยบริษัทเป็นผู้ให้บริการ Digital transformation ด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์(CRM) และบริหารและจัดการทรัพยากรภายในองค์กร (ERP) มีดีลเป็นพันธมิตรกับบริษัทระดับโลก เช่น Salesforce , Oracle โดยเราคาดกำไรสุทธิปี 2565-67 ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 31% จากรายได้ที่แข็งแกร่งจากธุรกิจ ERP 2.) โดยมูลค่าหุ้นปัจจุบันน่าดึงดูด ราคาหุ้นปัจจบันซื้อขายด้วย PER ปี 2567 ที่ 23.7 เท่า ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งซึ่งอยู่ราว 37 – 42.7 เท่า หากพิจารณา PEG IIG ซื้อขายด้วย PEG ปี 2565-67 ที่ 0.9 เท่า ต่ำกว่าคู่แข่งที่ 1-1.1 เท่า
- SPRC (ราคาพื้นฐาน 11.9 บาท) เราชอบ SPRC เนื่องจาก 1.) แนวโน้มเชิงบวกจากวัฏจักรอุตสาหกรรมโรงกลั่นในระยะยาวที่แข็งแกร่ง โดย SPRC เป็นหนึ่งในบริษัทโรงกลั่นไม่กี่แห่งที่คาดจะรายงานกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งขึ้น QoQ ในไตรมาส 2/2565 จากค่าการกลั่น (GRM) ที่สูงขึ้นอย่างมาก และค่าใช้จ่ายที่พิเศษจากการรั่วไหลของน้ำมันที่ลดลง 2.) อัตราตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 13.1% 3.) ราคาหุ้นล่าสุดซื้อขายที่ PBV ปี 2566 ที่ 1.24 เท่า หรือเท่ากับระดับค่าเฉลี่ยในอดีต
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพุธ ติดตาม ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่น เดือน มิ.ย. คาด 33 จุด (-3% MoM) ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของเยอรมันเดือน มิ.ย. คาด +0.3% MoM และ +7.9% YoY ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde ถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell และปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
- วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลข NBS Manufacturing PMI ของจีนเดือน มิ.ย. คาด 48.6 จุด (-2% MoM) ตัวเลข NBS Non-Manufacturing PMI ของจีนเดือน มิ.ย. คาด 51.9 จุด (+8.5% MoM) ตัวเลขอัตราการว่างงานของ Eurozone เดือน พ.ค. คาด 6.8% ทรงตัว MoM ตัวเลข Personal Income ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด +0.5% MoM ตัวเลข Personal Spending ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด +0.5% MoM ดัชนี PCE Price index ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด +0.9% MoM และ +6.7% YoY และการประชุม OPEC+
- วันศุกร์ ติดตาม ดัชนี Caixin Manufacturing PMI ของจีนเดือน มิ.ย. คาด 50.5 จุด (+4.9% MoM) อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยูโรโซนเดือน มิ.ย. คาด +0.5% MoM +8.3% YoY ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานยูโรโซนเดือน มิ.ย.คาด +3.9%YoY,ตัวเลข ISM Manufacturing PMI สหรัฐ เดือน มิ.ย.คาด 55 จุด(-1.9% MoM)
