Our View? “เหนื่อยนักพักหน่อย”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,585 / 1,575 และแนวต้านที่บริเวณ 1,600 /1,607 คาดตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดต่างประเทศ เริ่มอ่อนตัวลงอีกครั้ง หลังดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือน มิ.ย. โดย Conference Board (CB) ออกมาอยู่ที่ระดับ 98.7 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 100.0 และต่ำสุดตั้งแต่ปี 56 สะท้อนความไม่เชื่อมั่นของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่ตลาดยังอยู่ในช่วงของการขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ดี แม้ว่าตลาดจะเริ่มปรับลดความกังวลของแนวโน้มการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐลงบ้าง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่มีโอกาสชะลอตัวลง และอาจถดถอยในระยะถัดไป รวมทั้งการเข้าสู่ช่วงของการ Preview ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ บจ.ในตลาด คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของตลาดได้อยู่ อีกทั้งวันนี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐคาดจะออกมา -1.5% QoQ หากออกมาต่ำกว่าคาด คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตการควบคุม COVID-19 มากขึ้น โดยปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในสถานที่ซึ่งรัฐบาลจัดเตรียมไว้เหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 14 วัน และกักตัวที่บ้านพักหลังจากนั้นได้ลดลงเหลือเพียง 3 วัน จากเดิม 7 วัน มองเป็นการส่งสัญญาณถึงการเตรียมเปิดประเทศของจีนในระยะถัดไป คาดเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-สายการบิน (AOT, MINT, CENTEL, ERW, SPA, AAV และ BA) อีกทั้งยังต้องติดตามการยกเลิกมาตรการกีดกันสินค้านำเข้าจีนของสหรัฐ โดยมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในช่วงเดือน ก.ค. คาดหากไม่มีมาตรการใดออกมาเพิ่มเติม มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาค
ทางด้านสัญญาราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้ฟื้นตัวขึ้นต่อ ปิดที่ระดับ 11.76 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.19 ดอลลาร์ หรือ +2.00% โดยได้รับแรงหนุนจากรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เปิดเผยว่ากำลังผลิตน้ำมันของ UAE ใกล้เต็มศักยภาพตามโควต้า 3.168 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่การผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าใกล้กำลังการผลิตที่ระดับ 11.5 ล้านบาร์เรล/วันแล้ว สะท้อนอุปทานน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับตึงตัว และลดความหวังการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ ของการประชุมในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม เรามองราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเริ่มมี Upside ที่จำกัด โดยเราแนะนำติดตามผลการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หากมีสัญญาณบวกจากการประชุมดังกล่าว มองเป็นการเปิดทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้ง ช่วยผ่อนคลายความกังวลดังกล่าวได้
ในส่วนของปัจจัยในประเทศ ยังต้องติดตามแนวโน้มการทำ Window Dressing ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 2 คาดไม่ได้ส่งผลต่อตลาดมากนัก แต่อาจเห็นแรงเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นในกลุ่ม Big Cap. ได้บ้าง ขณะที่เมื่อวานนี้ ธปท. ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือน ส.ค. อีกครั้ง มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ BBL) โดยคาดว่าเครื่องยนต์หลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในรอบนี้ คือ การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัว 4.9% ในปี’65 และขยายตัว 3.6% ในปี’66 และภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยปีนี้คาดว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 ล้านคน ส่วนปีหน้าคาดว่าจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 19 ล้านคน มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม-สายการบินเพิ่มเติม
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “SPA”
กลยุทธ์ ซื้อสะสม 8.70 / 8.50 Target 9.25 / 10,00 Stop <8.30