ยังชอบกลุ่มอิงในประเทศ แนะนำ M
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปรับฐาน 0.8% ตลาดยังคงวิตกกับเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ผลพวงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ FED ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ เมื่อคืนมีการรายงานดัชนีชี้วัดเงินเฟ้ออย่าง PCE ออกมาที่ 6.3%YoY, 0.6%MoM ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 6.4%YoY, 0.7%MoM ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 4.7%YoY, 0.3%MoM ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 4.8%YoY, 0.4%MoM ในภาพรวมมองเป็นเล็กๆ ต่อการลงทุน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ลดลง 1.3% แต่ WTI ปรับฐานแรง 3.7% นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอยจะกดดันอุปสงค์หายไป สำหรับที่ประชุม OPEC มีมติเพิ่มกำลังการผลิต 6.48 แสนบาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือน ส.ค. ถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดประเมินไว้ ส่วนกรณีธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาแถลง ความเห็นเราคล้ายว่าธนาคารแห่งประเทศไทยส่งสัญญาณเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว และน่าจะกลับเข้าสู่ระดับก่อน COVID-19 ในปี 23 ดังนั้น นโยบายผ่อนคลายควรกลับสู่ระดับปกติ ทั้งนี้ยังคงมุมมอง Overweight หุ้นกลุ่ม Bank เลือก BBL, KBANK เป็น Top Pick
Market Outlook
วันนี้ประเมิน SET INDEX ฟื้นตัวเล็กน้อยในกรอบ 1570 – 1580 เชื่อว่าจะเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาบ้างหลังวานนี้ปรับฐานแรง 1.1% ส่วนนึงเป็นไปได้ที่ตลาดกังวลกับข่าวที่ออกมาระหว่างวันว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการแถลงช่วงเย็น ตลาดวิตกถึงการขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei แกว่งบวก 0.3% สร้างแรงหนุนจิตวิทยาต่อภาพรวมการลงทุน ส่วนเมื่อวานนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ค. พบว่าการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชน ด้านการบริโภคในประเทศพบว่าสินค้าที่ขยายตัวได้ดีจะเป็นสินค้ากึ่งคงทน (เสื้อผ้า อุปกรณ์ เครื่องใช้ในบ้าน และชิ้นส่วนยานยนต์) รวมถึงสินค้าเกี่ยวข้องกับการบริการ ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือน มิ.ย. มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วนหุ้นได้ประโยชน์มองไปยัง (BJC CPALL CENTEL CRC HMPRO M MINT) ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเชื่อว่าตลาดมีแนวโน้มปรับขึ้น เพราะมองการปรับฐานสะท้อนปัจจัยลบด้านเงินเฟ้อและดอกเบี้ยไปพอสมควร แต่ยังคงกลยุทธ์เน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ร้านอาหาร (M) ได้ประโยชน์สินค้าโภคภัณฑ์ลดลง (BGRIM CBG HANA KCE)
Pi Stock Picks
M (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท)
มองราคาหุ้นปัจจุบันน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลาง ด้านปัจจัยพื้นฐานเชื่อว่าผลประกอบการจะค่อยๆ ฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการ และการเปิดประเทศหนุนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย เป็นบวกต่อผลประกอบการ
CPALL (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.25 บาท)
ได้รับผลดีจากมาตรการผ่อนคลายโควิคของภาครัฐ โดยเฉพาะการปรับเป็นโรคประจำถิ่น และการยกเลิกไทยแลนด์พาสสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ ทำให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมา ทำให้เรามองว่าสาขาที่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวหลักนอกเหนือจากกรุงเทพที่มีกว่า 15% จะมียอดขายที่กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
