ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

เทรดไซด์เวย์ต่อ น่าจะยังแข็งกว่าหุ้นโลก

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ เทรดไซด์เวย์ต่อ…. หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยผันผวนตลอดทั้งวัน ก่อนปิดบวกเล็กน้อย (แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ปรับลดลง)… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อย i) เมื่อวันศุกร์ สหรัฐฯ รายงานดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ลดลงมาที่ 53.0 จุด ต่ำกว่าที่ consensus คาดที่ 54.9 จุด ขณะที่ดัชนี ISM New Order ซึ่งเป็นเครื่องชี้สำคัญต่อเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ ลดลงแรงมาต่ำกว่าระดับ 50.0 จุด ทั้งนี้ หลังจากตัวเลขชุดดังกล่าวออกมา แบบจำลอง GDP tracker ของ ธ.กลางสหรัฐฯ ชี้ว่า GDP ไตรมาส 2/2565 อาจลดลง 2.1% QoQ ซึ่งในกรณีดังกล่าวสหรัฐฯ จะเข้าสู่ technical recession’ ii) ค่าเงินบาทอ่อนแรงกว่าที่เราคาดไว้ ซึ่งน่าจะมีสาเหตุจากตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังสูง และภาวะ risk-off ในตลาดหุ้นโลกในช่วงนี้….. ทั้งนี้นักลงทุนน่าจะยังชะลอการเทรด เพื่อติดตามปัจจัยเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ตัวเลข ISM ภาคบริการ และรายงานการประชุม US FOMC ในวันที่ 6 ก.ค. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร มิ.ย. ในวันที่ 8 ก.ค. นี้ ด้านปัจจัยภายในประเทศ ข้อมูลเบื้องต้นจากฝั่งรัฐบาล ระบุว่าจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก หลังจากมีการยกเลิกข้อกำหนด Thailand Pass ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา น่าจะยังเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว การใช้จ่ายบริโภคภายในประเทศ เป็นต้น

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร BBL*, TFG, MAKRO

  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 155 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 133 บาท / แนวต้าน 136.5 – 138.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 142 (Trailing stop 132.5 บาท) 2) ประเมินหุ้นกลุ่มธนาคารใหญ่รับอานิสงส์จาก i) แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นในไทย โดยคาดที่ ประชุม กนง. จะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายใน 2H65 นี้ ii) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเปิดการท่องเที่ยวใน 2H65 3) Valuation ไม่แพง PBV 0.51 เท่า คิดเป็นเพียง 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุด ROE ปี 2565 – 66 ทยอยฟื้นตัว
  • TFG (เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.2 บาท / แนวต้าน 6.5 – 6.75 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 7.1 บาท (Stop loss 6.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q – 3Q โตเด่น จาก i) การส่งออก โดยเฉพาะเนื้อไก่ ที่เติบโตดี โดยมีความต้องการสั่งซื้อที่แข็งแกร่งจากยุโรปและมาเลเซีย ii) ราคาเนื้อสัตว์ (ทั้งหมูและไก่) ทรงตัวสูงต่อเนื่อง ชดเชย ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้นมาได้ iii) การเตรียมเปิดประเทศของประเทศต่างๆ จะหนุนความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ 4) Valuation ไม่แพง Forward PE ต่ำเพียง +/-16 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลังอยู่ที่ 17 เท่า) ขณะที่คาดกำไรปีนี้โตเด่น +340% YoY
  • MAKRO (เป้าพื้นฐาน 44 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 34.75 บาท / แนวต้าน 36 – 37.5 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้านถัดไป +/-40 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะค่อยฟื้นตัวจากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม Horeca ที่นำไปใช้ในธุรกิจร้านอาหาร คาดผลการดำเนินงาน 2H65 จะเติบโต HoH 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาด Forward PE ปี 2566 จะลดลงเหลือ +/-26 เท่าจาก +/-35 เท่าในปีนี้ จากการคาดการณ์ EPS ปีหน้าจะกลับมาเติบโต +32% YoY หลังจากที่พ้นผลของ Dilution effect ที่เกิดขึ้นในปีนี้ และเริ่มรับรู้ Synergy benefit จากการซื้อ Lotus

หุ้นมีข่าว

(+) ADVANC* แจ้งการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) และซื้อหน่วยลงทุนใน กองทุนรวม โครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (www.set.or.th)

(0) โรงไฟฟ้าชุมชนฯ เคว้ง กกพ. เคาะเลื่อนลงนาม (ไทยโพสต์) บอร์ด กกพ. เคาะเลื่อนลงนามซื้อขายไฟฟ้า โรงไฟฟ้าชุมชนฯ นำร่องรอบที่ 4 กับผู้ที่ผ่านคัดเลือก 43 รายออกไปอีก 90 วัน อ้างเป็นไปตามที่ กฟภ. เสนอ หลังสำนักงาน ป.ป.ช.ยังสอบสวนข้อร้องเรียนฮั้วประมูลไม่เสร็จ

(0) ปม ก.ม.ป่วน ‘ธุรกิจกัญชา” เอกชนชะลอลงทุน รอดูความชัดเจน หวั่นล่าช้าสูญเสียโอกาส (กรุงเทพธุรกิจ) “อาร์เอส” ชี้ผู้บริโภคขาดข้อมูล ฉุดภาพลักษณ์กัญชาแย่ลง “เอกชน” ห่วง “กฎหมายกัญชา” กระทบแผนลงทุน “อีอี-ศรีตรัง” พร้อมลงทุน รอข้อกฎหมายชัดกว่านี้ เผยแผนปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ “เจซีเค” จ่อตั้งฮับกัญชากัญชงครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย ด้านบิ๊กคอร์ปพร้อมดันสินค้าบุกตลาด หวั่นล่าช้าสูญขุมทรัพย์มหาศาล “อาร์เอส” ระบุผู้บริโภคขาดข้อมูล ความรู้ ฉุดภาพลักษณ์กัญชาแย่กว่าเดิม “ณุศาศิริ” ผุดโมเดลกัญชากัญชง พืชเศรษฐกิจสู่การท่องเที่ยว

(+) PTTGC* รวบ Vencorex 100% มุ่งเป้าขยับสัดส่วนกำไรธุรกิจ HVB เพิ่ม 35% ปี 73 (ข่าวหุ้น) PTTGC* รวบหุ้น Vencorex 100% หลังปิดดีลซื้อหุ้นเพิ่มอีก 9.18% จาก Perstorp Holding AB เมื่อช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สอดคล้องเป้าระยะยาวเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (HVB) ทะลุ 35% ในปี 73

(+) EA* ควัก 7 พันล้านซื้อ BYD 23.63% เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ หนุนยอดขาย EV (ข่าวหุ้น) บอร์ด EA* ไฟเขียวซื้อหุ้นเพิ่มทุนพีพีของ BYD สัดส่วน 23.63% มูลค่าเฉียด 7 พันล้านบาท หวังเสริมพันธมิตรทางธุรกิจ ดันยอดขายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพิ่ม

(+) LEO จับมือสตาร์ทอัพ SCG ลุยแพลตฟอร์มส่งออก (ทันหุ้น) LEO ประกาศจับมือ “เน็กซเตอร์ เวน เจอร์ส” บริษัท Start Up ในเครือปูนซิเมนต์ไทย เข้าซื้อหุ้นของบริษัท ZPS Corporation Ltd. (ZPS) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม “ZUPPORTS” ช่วยผู้นำเข้าส่งออกบริหารการขนส่งระหว่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ ฟากผู้บริหารการร่วมทุนครั้งนี้ ช่วยต่อยอดธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รุกขยายธุรกิจในโลกยุคดิจิทัล

(+) AQUA ลุยเมกะเทรนด์เข้าซื้อ ‘Thai Parcel’ พร้อมดันเข้าตลาด (ทันหุ้น) AQUA จัดแผนยุทธศาสตร์ MEGA TREND เข้าลงทุนซื้อหุ้น Thai Parcel สัดส่วน 34% ถือเป็นเบอร์ใหญ่ในวงการ Logistic พร้อมหนุนเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น ขยายฐานธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) แนวรับ 26.0 บาท / แนวต้าน 26.5-27.5 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 29 บาท (Trailing stop 25.5 บาท)
  • OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) แนวรับ 13.5 บาท / แนวต้าน 14.2-15.0 บาท (Trailing stop 13.3 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 51.75 บาท / แนวต้าน 53-55 บาท (Trailing stop 50 บาท)
  • KBANK* (เป้าพื้นฐาน 188 บาท) แนวรับ 150.5 บาท / แนวต้าน 153-158 บาท (Stop loss 147 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 28.5 บาท / แนวต้าน 29.5-30.0 บาท (Stop loss 27.0 บาท)
  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) แนวรับ 24.8 บาท / แนวต้าน 25.25-26.5 บาท (Stop loss 24.5 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 21.5 บาท / แนวต้าน 22.0-22.5 บาท (Stop loss 21.2 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 12.6 บาท / แนวต้าน 13.1-13.3 บาท (Stop loss 12.6 บาท)
  • BEM* (เป้า Consensus 9.96 บาท) แนวรับ 8.7 บาท / แนวต้าน 8.9 – 9.0 บาท (Stop loss 8.6 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ น้ำหนักลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงานหลัก 2Q65 ของกลุ่มฯ จะดีขึ้น QoQ, YoY โดย SVI และ KCE* จะมีผลการดำเนินงานที่เด่น ขณะที่คาดมีเพียง HANA* ที่จะมีกำไรจากการดำเนินงานที่ลดลง YoY ในภาพรวมฝ่ายวิจัยฯยังคงชอบประเด็นเรื่องของ Data center และรถอีวี ที่จะเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เลือก DELTA และ KCE เป็นหุ้นเด่น… อ่านรายละเอียดการ Preview งบ 2Q65 หุ้นรายตัวในบทวิเคราะห์วันนี้เพิ่มเติม
  • CKP* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 6.35 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดคำแนะนำหุ้น CKP* ลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ”) จากการปรับสมมติฐานเรื่อง DE และปรับลดประมาณการฯ แม้ 2Q – 3Q จะเป็น High season ของธุรกิจ แต่ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานทรงตัวในช่วง 3 ปีข้างหน้า เว้นแต่จะมีข่าวดีเรื่อง i) สัญญา PPA โครงการ LPCL ใน 2H65 ii) ความชัดเจนเรื่องการซื้อกิจการ iii) ผลของปรากฏการณ์ La nina ที่แรงกว่าคาด ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนดีกว่าคาด
- Advertisement -