ECL ได้ไฟเขียวจากผู้ถือหุืน อนุมัติการออก ECL-W4 จำนวน 369.61 ล้านหน่วย แจกฟรีในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,108.85 9 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,478.47 ล้านบาท รองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ ระบุเพื่อรองรับการขยายกิจการในอนาคต รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ด้านแผนงานปีนี้ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อแตะ 10,000 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อนทำได้ 6,000 ล้านบาท วางเป้า NPL ไม่ให้เกิน 4.5% ทั้งเตรียมขยายพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน เปิดช่องให้พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ร่วมออกผลิตภัณฑ์ เพื่อขยายฐานลูกค้า

 

นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 4 (ECL-W4) จำนวนไม่เกิน 369,619,667 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ (ในกรณีที่มีเศษให้ปัดเศษทิ้ง) ที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2565

นอกจากนี้ ยังอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากทุนจดทะเบียน 1,108,859,002 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,478,478,669 บาท แบ่งออกเป็น 1,478,478,669 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 369,619,667 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (ECL-W4)

“วัตถุประสงค์ของการออก ECL-W4 เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเพื่อใช้ในการขยายกิจการในอนาคต และลดต้นทุนทางการเงินหรือลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทให้ลดลง และบริษัทกำหนดการใช้สิทธิในวันทำการของเดือนที่ครบทุก 1 ปี ตลอดอายุ 2 ปี หลังจากที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ส่วนราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิจะอยู่ที่ 2 บาทต่อหุ้น หรืออาจจะเปลี่ยนแปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ”

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่มีความท้าทายอย่างยิ่ง ทั้งจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและโรคระบาด ที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยศักยภาพ ความมุ่งมั่นและความตั้งใจ บริษัทจึงปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อมั่นบริษัทจะก้าวย่างไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต

ส่วนแผนงานในปีนี้ บริษัทยังคงคาดว่า พอร์ตสินเชื่อจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% จากปีก่อนทำได้ 6,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายที่จะบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้ไม่เกิน 4.5% นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/65 ยังเตรียมขยายพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน และเปิดโอกาสให้พันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ ร่วมออกผลิตภัณฑ์กับบริษัทเพื่อขยายฐานลูกค้าอีกด้วย

**********

- Advertisement -