บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +29.8%

Close Jul 1, 2022 Price (THB) 12.40

12M Target (THB) 16.10

Previous Target (THB) 16.10

What’s new?

  • BKV (BANPU ถือหุ้น 96.1%) ปิดดีลซื้อสัดส่วน 93% ในแหล่งก๊าซและธุรกิจกลางน้ำบริเวณแหล่งปิโตรเลียม Barnett จาก XTO Energy ได้ตามแผนวันที่ 30 มิ.ย. เพิ่มกำลังผลิตก๊าซ 225 mmcfed คาดเพิ่ม EBITDA 50 ล้านเหรียญฯ ต่อไตรมาส และลดอัตราส่วน Hedging ลงเป็น 60%
  • หากนับเฉพาะธุรกิจต้นนำ ราคาเข้าซื้อคิดเป็น อัตราส่วน EV/1P reserve ที่ 0.4 เหรียญฯ สูงกว่าดีล Barnett ปี 2562 เพราะเป็นช่วงราคาก๊าซ ตกต่ำแต่ใกล้เคียงดีล Marcellus ปี 2559 – 2560 ภาพรวมถือว่า Valuation ไม่แพง

Our view

  • ประมาณการของเรารวมดีลดังกล่าวไว้แล้ว คงคาดการณ์ปี 2565 ขึ้นทำนิวไฮที่ 3.1 หมื่นล้านบาท (+217% YoY) และคาดปันผลสูง 6-7%
  • ราคาก๊าซที่สหรัฐฯ ปรับฐานหลัง EIA รายงานสต็อกสูงขึ้น เพราะโรงงาน Freeport LNG ปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตาม ราคาก๊าซในปัจจุบันยังสูงมากเทียบกับในอดีต คาดจะสูงขึ้นอีกครั้งหลังโรงงานดังกล่าวกลับมาผลิต และเข้าฤดูหนาวใน 4Q65
  • แนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มงบ 2Q65 แข็งแกร่ง, ราคาถ่านหินจะยืนสูงตลอดปี, การปรับเพิ่มสัญญาราคาขายถ่านหินในเดือนมิ.ย. และโอกาส Spin-off BKV

BANPU ปิดดีล XTO ตามแผน รับรู้รายได้ทันที

ปิดดีลซื้อ XTO Energy ตามแผน

วันที่ 30 มิ.ย. BKV (บริษัทย่อยของ BANPU ถือหุ้น 96.1%) ได้เสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อสัดส่วนแหล่งก๊าซ ธรรมชาติ 93% และธุรกิจกลางน้ำมันบริเวณแหล่งปิโตรเลียม Barnett ประเทศสหรัฐฯ มูลค่า 750 ล้านเหรียญฯ จาก XTO Energy (บริษัทเครือ Exxon Mobil) โดย 1) เป็นสินทรัพย์ที่ดำเนินการผลิตอยู่แล้ว สามารถรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ 1 ก.ค. (อาจมีรายจ่ายเกี่ยวกับการลงทุนราว 20 ล้านเหรียญฯ) 2) ปริมาณผลิตก๊าซอยู่ที่ 225 mmcfed ทำให้กำลังผลิตก๊าซรวมเพิ่มจาก 700 mmcfed เป็น 900 mmcfed คาดว่าที่ราคาก๊าซ US$5/mmbtu จะช่วยสร้าง EBITDA ส่วนเพิ่ม 50 ล้านเหรียญฯ ต่อไตรมาส 3) ใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายใน และเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน ณ 1Q65 มีเงินสดในมือ 5.4 หมื่นล้านบาท Net IBD/E 1.3 เท่า คาดหลังลงทุน Net IBD/E จะเป็น 1.6 เท่า (ยังไม่รวมกำไรช่วงที่เหลือของปี) อยู่ในเงื่อนไข Debt Covenant 1.75 เท่า 4) กำลังผลิตก๊าซที่สูงขึ้น จะช่วยลดสัดส่วน Hedging ราคาก๊าซปี 2565 จาก 70% เหลือ 60% (คาดราคาเฉลี่ย US$4/mmbtu) และเหลือ 40% ในปี 2566 (คาดราคาเฉลี่ย US$3.8/mmbtu) 5) บริษัทฯ อยู่ระหว่างประเมินประโยชน์จากการบริหารงานร่วมกัน (Synergy) ระหว่าง XTO Energy กับแหล่ง Barnett เดิม ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน, สามารถใช้ Facility ร่วมกัน, เกิด Economy of scales และการบูรณการการผลิตต้นน้ำ – กลางน้ำ

Valuation ไม่แพง คาดช่วยเพิ่ม EBITDA 50 ล้านเหรียญฯ ต่อไตรมาส

ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ไม่สามารถให้ข้อมูลด้าน Valuation ของการลงทุนนี้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนเจรจากับผู้ขาย ทั้งนี้ ภายหลังปิดดีล เราได้เช็คสอบข้อมูลเพิ่มเติม บริษัทฯ ให้ข้อมูลว่าหากนับเฉพาะส่วนของธุรกิจต้นน้ำ Valuation ที่เข้าซื้อจะคิดเป็นอัตราส่วน EV/1P reserve ที่ราว 0.4 เหรียญฯ สูงกว่าดีลแหล่งก๊าซ Barnett ในปี 2562 ที่ 0.2 เหรียญฯ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวราคาก๊าซธรรมชาติตกต่ำเฉลี่ยเพียง US$2.5/mmbtu นอกจากนี้ Valuation ของธุรกิจต้นน้ำในครั้งนี้ยังใกล้เคียงกับดีลแหล่งก๊าซ Marcellus ในปี 2559 – 2560 โดยบริษัทฯ ให้ข้อมูลเพิ่มว่าได้เริ่มเจรจาการลงทุนนี้ตั้งแต่ปลายปี 2564 ก่อนราคาพลังงานสูงขึ้นจากเหตุการณ์รัสเซียบุกยูเครน และประเมินราคาก๊าซระยะยาว US$3.5-4.5/mmbtu โดยสรุป Valuation การลงทุนครั้งนี้จึงไม่แพง ประเมิน EBITDA ส่วนเพิ่ม 50 ล้านเหรียญฯ ต่อไตรมาส เรารวมดีลดังกล่าวไว้ในประมาณการแล้ว คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท (+217% YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่และมีเงินปันผลปี 2565 – 2566 ระดับสูง 6-7% ต่อปี (อ้างอิง Payout ratio ที่ 24-35% เทียบกับ Payout policy 50%)

ราคาก๊าซปรับฐานระยะสั้น คาด 4Q65 ฟื้นตัวหลังโรงงานเป็นปกติ และเข้าสู่ฤดูหนาว

ระยะสั้นราคาหุ้นปรับตัวลงจากการปรับฐานของราคาก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ หลังปริมาณสต็อกสูงขึ้น เพราะ โรงงาน Freeport LNG ปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตาม เรามองว่าระดับราคาก๊าซปัจจุบันที่ US$5.4/mmbtu ถือว่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก, Hedging loss ของ BANPU จะลดลง, ขณะที่อุปสงค์ก๊าซยังแข็งแกร่งจากความ ต้องการใช้ LNG ทดแทนก๊าซรัสเซียของยุโรป – ภาวะอากาศร้อนผิดปกติในสหรัฐฯ และคาดว่าช่วง 4Q65 ที่ โรงงาน Freeport LNG เริ่มทยอยกลับมาผลิต – เข้าสู่ฤดูหนาวของสหรัฐฯ จะทำให้ราคาก๊าซเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

กำไรแข็งแกร่ง….มี Upside จากสัญญาราคาถ่านหินใหม่ และโอกาสปลดล็อค BKV

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 16.10 บาท 1) แนวโน้มกำไรปกติ 2Q65 คาดขยายตัว QoQ และ YoY หนุน จากการพุ่งขึ้นของราคาถ่านหิน – ก๊าซ และได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า 2) 2H65 มีปัจจัยหนุนจากการรวม XTO Energy และราคาพลังงานจะอยู่ระดับสูง โดยเฉพาะถ่านหินเนื่องจากการลงทุนใหม่ที่จำกัด, อุปสงค์ช่วง Post-lockdown ของจีน, ภาวะขาดแคลนพลังงานจากรัสเซีย ทำให้หลายประเทศโดยเฉพาะยุโรปเริ่มกลับมาใช้ ถ่านหิน 3) มีปัจจัยบวกที่ยังไม่ได้อยู่ในประมาณการจากการปรับสัญญาราคาขายถ่านหินออสเตรเลียรอบใหม่ ในเดือนมิ.ย. (สัญญาขายราว 1-2 ปี) ซึ่งเดิมมีราคาต่ำเพียงราว AS80/ตัน คาดจะเริ่มเห็นผลบวกใน 3Q65 และ 4) โอกาสการปลดล็อคธุรกิจก๊าซจากการ Spin-off BKV หลังขึ้นเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ในแหล่งก๊าซ Barnett

- Advertisement -