YONG เผย ก.ล.ต.ไฟเขียวอนุญาตให้เสนอขาย IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น เข้าเป็นสมาชิกใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ชูจุดเด่นจากการผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ รวมทั้งให้บริการติดตั้งโครงสร้างสำเร็จรูปรายใหญ่โซนภาคกลาง ภาคตะวันออก ตะวันตก มั่นใจเป็นอีกหุ้น IPO น้องใหม่ที่น่าสนใจ คาดเข้าเทรดได้ภายในปีนี้

 

นายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยเชื่อมั่นว่า การเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 180 ล้านหุ้นในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพและความพร้อมในการขยายธุรกิจมากขึ้น โดยเงินที่ได้จากระดมทุนจะนำไปใช้ลงทุนในการก่อสร้างโรงงานที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อขยายกำลังการผลิตและพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้อง ใช้ลงทุนก่อสร้างโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ ที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี  ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ยกระดับมาตรฐานของบริษัทเข้าสู่มาตรฐานสากล เพิ่มความน่าเชื่อถือในด้านภาพลักษณ์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและคู่ค้า รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันที่รอบด้าน

ด้านนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน (IPO) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนและนับหนึ่งไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับ YONG มีจุดเด่นที่น่าสนใจ มีทีมผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากว่า 30 ปี ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์ มาตรฐาน ความปลอดภัย ทีมงานวิศวกรที่มีความรู้ความสามารถในการผลิตและควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐาน จนเป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับมาตรฐาน มอก.จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) และได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 : 2015  ทำให้ YONG ได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าทางธุรกิจมาโดยตลอด

ด้านสัดส่วนรายได้จากการขายและให้บริการของบริษัท ณ สิ้นไตรมาส 1/65 แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าโครงการภาคเอกชนอยู่ที่ 34.81% กลุ่มลูกค้าโครงการภาครัฐ 3.43% และกลุ่มลูกค้าทั่วไป 61.76% เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโต เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศช่วงหลังโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐบาลและการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ช่วยสนับสนุนบรรยากาศงานก่อสร้างในประเทศให้คึกคักขึ้น สนับสนุน YONG เป็นหุ้นน้องใหม่ที่จะได้รับอานิสงส์ในครั้งนี้ด้วย

********

- Advertisement -