Daily Focus Selective Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรงกว่าคาด ปิดลบถึง 12.40 จุด ณ สิ้นวัน ถูกกดดันจากแรงนำโดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงหุ้นรายได้อย่าง TU JAS และ JASIF เป็นต้น ตลาดยังคงกังวลและจับตาเงินเฟ้อที่สูง ซึ่งเพิ่งโอกาสเกิด Recession โดยเฉพาะฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปในอนาคต สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นฝั่งละราว 1.3-1.4 พันลบ. (แต่ต่างชาติยัง Long Index Futures อีกเล็กน้อย 2.3 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังคงแกว่ง Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,555-1,570 จุด ฟื้นตัวได้บ้างระยะสั้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังไบเดนใกล้ได้ข้อสรุปในการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจีน เพื่อลดแรงกดดันด้านต้นทุนและเงินเฟ้อในประเทศ อย่างไรก็ตาม เรายังมองการฟื้นตัวยังคงจำกัด โดยยังต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเดือน มิ.ย. ปลายสัปดาห์นี้ และโดยเฉพาะดัวเลขเงินเฟ้อสัปดาห์หน้า ขณะที่ส่วนต่าง Bond Yield 10Y-2Y ของสหรัฐฯ แคบลงเหลือ 0.24% ใกล้ Inverted อีกครั้ง สะท้อนความกังวล Recession ในอนาคต ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้จะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ตลาดคาด +7.45% Y-Y เรายังคงมองว่า 3Q22 จะเป็นไตรมาสที่ตลาดผันผวน และขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อว่าจะชะลอตัวลงชัดเจนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะยังแข็งแกร่งกว่าหนุนจากเศรษฐกิจที่เร่งตัวและการเปิดประเทศ กลยุทธ์ยังเน้นลงทุนในหุ้น Value และ Selective หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีแนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 ที่แข็งแกร่ง ถูกกระทบจากกำลังชื้อที่ชะลอและต้นทุนที่ปรับขึ้นจำกัด

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และหุ้นทีมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและแนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, CPN, GFPT, KTB, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : SISB

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15 บาท
  • เราคาดกําไรจะกลับมาเร่งตัวและเป็นขาขึ้น Q-Q และ Y-Y ชัดเจนใน 2Q22 หลังกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนปกติ จํานวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษาอีก หนุนกำไรโตต่อเนื่องใน 2H22 รวมถึงมีแรงหนุนจากคนจีนที่ส่งลูกมาเรียนโรงเรียนนานาชาติในไทย หลังจีนสั่งปิดโรงเรียนนานาชาติในประเทศ
  • คาดกำไรปี 2022-2023 โดเฉลี่ย +37% ต่อปี ระยะยาวการเติบโตถูกรองรับด้วยการเปิด 2 Campus ใหม่ที่นนทบุรีและระยอง ภาพรวมกำไรกลับเข้าสู่ Growth Stage อีกครั้งในปี 2022-2026
  • แนวรับ 11.30 บาท แนวต้าน 12//12.50 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาคอีก US$421 ล้าน ยังคงนำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ประเทศละ US$138-152 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกทุกประเทศ นำโดยอินโดนีเซีย US$74 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่และตลาดยังติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อ ซึ่งมีผลถึงการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจที่มีโอกาส

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) REIT Focus ความกังวลเงินเฟ้อ การเร่งขึ้นดอกเบี้ย และ Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น โดย PF&REIT ปรับตัวลงใกล้เคียง SET Index เกือบทั้งเดือน แต่แข็งแกว่งกว่าในสัปดาห์สุดท้าย เราเชื่อว่ากลุ่ม PF&REIT จะยังเป็นแหล่งพักเงินที่ดีท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน และเหมาะสำหรับการถือลงทุนระยะยาวรับปันผล โดยยังคงเน้นกอง คลังสินค้าที่มีอัตราเช่าสูง กองทุนที่ห้างสรรพสินค้าที่ได้อานิสงส์จากการ Reopening โดยเลือก Top Pick ได้แก่ AIMIRT ALLY WHAIR FTREIT ส่วน DIF ยังชอบจากปันผลที่สูงสุด แต่ต้องติดตามการควบรวมระหว่าง TRUE-DTAC

(-) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ราคาหุ้นปรับลงนำโดย KCE HANA คาดว่ามาจากความกังวลต่อ Recession อาจกระทบต่อกําลังซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพราะมีราคาสูง ส่งผลให้กลุ่มถูก Derate PE ลงมาจากเดิม 25-35 เท่า (แพงสุดคือ DELTA 40 เท่า) โดยหากเทียบกับช่วงก่อน COVID-19 จะเทรดอยู่ในกรอบ 17-20 เท่า แต่เรามองว่าต่ำเกินไป สําหรับ KCE และ DELTA เพราะไปเน้นกลุ่ม EV แนวโน้ม 2Q22 ยังดูดี บาทอ่อนและราคาทองแดงลงเป็นบวก ส่วน HANA สมควรถูก Derate เพราะมีผลขาดทุนโรงงานใหม่กดดัน บวกกับส่วนใหญ่ขายไป Consumer Electronic ซึ่งแนวโน้มไม่สดใส เราแนะนำรอเก็งกำไรช่วง Rebound สําหรับ KCE และ DELTA

(+) ADVANC จัด Conference Call โดยระบุว่าการเข้าซื้อ TTTBB และ JASIF ราว 3.2 หมื่นลบ.นันทําให้สามารถขยายธุรกิจ Fixed Broadband ได้เร็วและค้มค่ากว่าลงทุนเอง เนื่องจากฐานลูกค้า 3BB อยู่ในต่างจังหวัดค่อนข้างมาก ต่างจาก AIS ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ทำให้มีโอกาสเกิด Synergy ได้ในอนาคต ส่วนการเข้าซื้อ JASIF จะยกเลิกสัญญาเช่าส่วน 20% และกับการต่ออายุสัญญาหลัก 80% ออกไปเป็นปี 2037 เรามองค่อนไปในทางลบสําหรับ JASIF ส่วน JAS ต้องติดตามว่าจะมีแผนใช้เงินทุนดังกล่าวอย่างไร และมองบวกระยะยาวสําหรับ ADVANC ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 250 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) ตลาดดาวโจนส์ ปิดทำการวันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก หนุนจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรป ท่ามกลางติดตามธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย รวมถึงรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.จากไฉซิน

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง อยู่ที่บริเวณ 35.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการวันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ

(0) ราคาทองคำ COMEX ปิดทำการวันที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,041.90 / +-

- Advertisement -