น้ำมันปรับฐานแรง Bond Yield ลดลง บวกกับโรงไฟฟ้า แนะ BGRIM

Market Update

เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อไทยประจำเดือน มิ.ย. ที่ 7.66% YoY สาเหตุหลักยังมาจากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน (น้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า และแก๊สหุงต้ม) ที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการสูงขึ้นของค่าโดยสารสาธารณะ อาทิ จักรยานยนต์รับจ้าง ค่าโดยสารเรือ เนื่องจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นได้ส่งผ่านไปยังค่าบริการ ส่วนการขยายตัวเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับเดือนก่อนพบว่าอยู่ที่ 0.9% MoM ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ 1.4%YoY สาเหตุที่ชะลอลงเป็นเพราะราคาสินค้าบางประเภทลดลง อาทิ ไข่ไก่ ผลไม้สด ผงซักฟอก สบู่ และโฟมล้างหน้า ด้านหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ พบ เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำขยายตัว 13% YoY จากราคาสุกร ไก่สด และปลาทู กลุ่มผักสดขยายตัว 1.5%YoY จากราคาพริก ต้นหอม ผักบุ้ง มองเป็นลบต่อกลุ่มที่มีเนื้อสัตว์และราคาพลังงานเป็นต้นทุน อาทิ ร้านอาหาร (CENTEL M MINT) ขนส่ง (KEX) แต่เป็นบวกกับผู้ขายเนื้อสัตว์ (CPG GFPT TFG) ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับฐานแรง 9.45% ตลาดกลับมากังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังธนาคารกลางทั่วโลกเตรียมจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาหากดอกเบี้ยปรับขึ้นระดับสูงก็มักตามมาด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจ (ลบกับกลุ่มน้ำมัน PTTEP) ขณะเดียวกันเมื่อคืนก็ได้เกิด Inverted Yield Curve อีกครั้งหรือเป็นสัญญาณของ Recession ในอนาคต

Market Outlook

วันนี้คาด SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1534 – 1548 อาจมีจังหวะอ่อนตัวลงบ้าง แต่เชื่อว่าไม่แรงมากนัก ด้วยการปรับฐานลงมาแล้ววานนี้ 1.2% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับลดลงทั้ง 2 ปี และ 10 ปี ประกอบกับความคาดหวังเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงความกังวลดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่ลดลง ในทางกลับกันมีความเป็นไปได้ที่ความเข้มงวดนโยบายการเงินจะผ่อนคลายลง ซึ่งกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GULF GPSC) จะได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันเงินบาทยังคงทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่องทดสอบระดับ 35.98 บาท/ 1 ดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการอ่อนค่าที่สูงสุดในรอบ 5 ปี ระยะสั้นเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออกแต่เน้นที่เกี่ยวข้องกับอาหาร (ASIAN) อุตสาหกรรมอื่นๆ ยังชอบ Defensive ที่ผลกระทบจากเงินเฟ้อจำกัด อาทิ โรงพยาบาล (BCH CHG) ค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับสินค้าจำเป็น (BJC CPALL) ได้ประโยชน์น้ำมันลง (OSP SCC SCGP TOA)

Pi Stock Picks

BGRIM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท)

มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อภาพรวม 2H22 โดยคาดว่าการปรับค่าไฟในทุกไตรมาสและต้นทุนก๊าซที่กลับสู่ระดับปกติจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรในโครงการ SPP ฟื้นตัวขึ้นได้

SCC (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 445.00 บาท)

เชื่อว่ากำไรปกติจะฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ 2Q22 เป็นต้นไป หนุนจากส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ปรับดีขึ้น บวกกับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (CBM) และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแกร่งขึ้น

- Advertisement -