รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีรีบาวน์ต่อจากวานนี้
Market wrap & Outlook
- วานนี้ SET เด้งแรง 20 จุด นำโดยกลุ่มอุปโภค-บริโภค CPALL MAKRO CRC CBG ICHI และหุ้น SMID Cap./Growth รีบาวน์แรง HL OTO AS KEX TH ส่วนหุ้นกดดันตลาด ได้แก่ โรงกลั่น SPRC TOP และธนาคาร KTB BBL KBANK SCB
- วันนี้คาดดัชนีรีบาวน์ต่อจากวานนี้ ภาพรวมตลาดยังคงเป็นไปตามปัจจัยมหภาคเศรษฐกิจโลก แต่กลยุทธ์เริ่มมองหา และแนะนำให้เลือกซื้อหุ้นเพื่อดัก Flow ของข่าวหรือ Event บวกต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ ได้แก่ การรีวิวการปรับเพิ่มค่า Ft. กลาง กค. บวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP (+BGRIM GPSC) การแข่งขัน e-sport ระดับนานาชาติ 10 กค. (+OTO) แนะถือต่อสองกลุ่มนี้ กลุ่มอุปโภค-บริโภคภายในประเทศ (CPALL CPN CRC CBG) ฟื้นตัวและได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันขาลงเช่นกัน และสุดท้ายประเด็นการพิจารณาเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ BTS ที่คาดเห็นภาพชัดขึ้น
What to watch
- ศาลปกครองกลางพิพากษาคณะกรรมการ ม.36-ผู้ว่า รฟม. ออกคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย คดีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี ด้าน “บีทีเอส” เผยได้รับความเป็นธรรม ชี้เป็นการสร้างบรรทัดฐานการประมูลให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ (ประชาชาติธุรกิจ)
- หอการค้าไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิย. อยู่ระดับ 41.6 ฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน (จาก พค. ที่ 40.2) อย่างไรก็ตามยังอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับปกติ
- รายงานการประชุมเฟด FOMC ที่เปิดเผยออกมา ระบุว่าถึงคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นตรงกันเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อว่าเหมาะสมแล้ว แนวโน้มการประชุมเดือน กค. ปรับขึ้นอีก 0.5-0.75%
- การประกาศค่า Ft.รอบ กย.-ธค.65 ตลาดคาดจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 0.40 บาท บวกต่อโรงไฟฟ้า
หุ้นแนะนำวันนี้
- BTS วานนี้ศาลปกครองกลางพิพากษา คดีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บวกต่อ BTS และคาดช่วงเดือน กค. มีข่าวความชัดเจนสายสีเขียวเพิ่ม ช่วยกระตุ้นราคาหุ้นฟื้นตัวจากจุดต่ำ
- CBG อานิสงค์จากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวหลังเปิดเมือง แนวโน้มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คาด 2Q22 โตทั้ง YoY, QoQ
Technical Daily (T)
หัวข้อ: SET divergence 2 ครั้ง…ทำงานแล้ว!
แนะนำ ซื้อ
CPF แนวรับ 26 แนวต้าน 30-31 (stop loss < 25)
KBANK แนวรับ 144-145 แนวต้าน 153-155 (stop loss < 143)
SC แนวรับ 3.12-3.18 แนวต้าน 3.4-3.5 (stop loss < 3.08)
Global Investing Brief: หุ้นเทคฯ สหรัฐฯ ฟื้นเด่น ติดตามตัวเลขจ้างงานวันนี้ // BYD หุ้นใน CSI 300 แซง Tesla ขึ้นเป็นผู้ผลิต EV เบอร์ 1 ของโลก ใน 1H65
Highlight
BYD ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในดัชนี CSI 300 ที่สัดส่วนราว 1.5% ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถ EV อันดับ 1 ของโลก แซงหน้า Tesla (TSLA) หลังใน 1H65 ส่งมอบรถ EV ได้ 641,000 คัน ส่วน Tesla อยู่ที่ 564,000 คัน สาเหตุมาจาก Tesla ผลิตรถยนต์ได้น้อยลงในช่วง 2Q65 โดยลดลง 15%QoQ มาอยู่ที่ 258,580 คัน กระทบจากการล็อกดาวน์ของโรงงานในเซี่ยงไฮ้ อย่างไรก็ดีเราคาดยอดการผลิตของ Tesla มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง หนุนจากกำลังการผลิตในโรงงาน Giga ที่เยอรมนี ขณะที่ Goldman Sachs คาดยอดส่งมอบในปี 65 จะอยู่ที่ 1.4 ล้านคันเพิ่มขึ้นราว 50%YoY
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักปิดบวก โดย S&P 500 +1.5%, DJIA +1.1% และ Nasdaq +2.3% นำโดย Apple (AAPL) +2.4%, Alphabet (GOOGL) +3.7%, Meta Platforms (META) +1.4% หลังนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ยังคงมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงขยายตัวในปีนี้ อย่างไรก็ดีเราแนะติดตามการเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. ในวันนี้ โดยตลาดคาดจะยังคงมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดจะเพิ่มขึ้น 250,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าระดับ 390,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. และคาดอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6%
- General Motors (GM) เผยยอดขายรถยนต์ในจีนลดลง 35%YoY มาสู่ 484,200 คัน ใน 2Q65 โดยถือว่าเป็นตัวเลขยอดขายที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ 1Q63 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการการล็อกดาวน์ในจีน อย่างไรก็ดีบริษัทเผยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้น 13%YoY โดยคาดว่าได้รับอานิสงส์จากมาตรการสนับสนุนต่างๆ ของภาครัฐบาลจีน เช่น การให้ประโยชน์ทางภาษี ขณะที่บริษัทมีกำหนดเผยงบ 2Q65 ในวันที่ 26 ก.ค. โดย Bloomberg Consensus คาดรายได้โต 5%YoY และกำไรโต 6%YoY พร้อมให้ TP ที่ $56.94
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งฟื้น 0.3% นำโดย Anta Sports (2020) +2.6%, Xiaomi (1810) +1.8%, Tencent (700) +1.2% หลังฮ่องกงมีการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางแก่ผู้ที่เข้ามายังฮ่องกง แต่ยังต้องมีการตรวจหาเชื้อก่อน ขณะที่จีนมีกำหนดเผย GDP ไตรมาส 2 ในวันที่ 15 ก.ค. นี้ โดย Bloomberg Consensus คาดอาจขยายตัว 1.5%YoY จากระดับ 4.8%YoY ในไตรมาส 1 หลังได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในช่วง เม.ย. -พ.ค. ซึ่งเราคาดว่า GDP ไตรมาส 2 อาจเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้และฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี
- Xiaomi (1810) เผยว่าสมาร์ทโฟนชุดแรกที่ผลิตในโรงงานที่เวียดนาม ได้ทำการส่งมอบให้แก่ตัวแทนจำหน่ายเวียดนามแล้ว พร้อมคาดว่าจะเริ่มส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย, ไทย เร็วๆนี้ เราคาดว่าการขยายฐานการผลิตอาจช่วยบรรเทาปัญหาสินค้าคงคลังที่ไม่เพียงพอ และพยุงยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนในปีนี้ให้เติบโตต่อได้ นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าลงทุนใน Huayuan Semiconductor ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์จีน ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกหนุนต่อธุรกิจผลิตสมาร์ทโฟนเช่นกัน ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ HKD14.30
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- วานนี้ดัชนี VN ปรับลงต่อ 1.2% นำโดย MSN -5.3%, VNM -2.7%, SAB -1.8% ด้าน IMF คาด GDP เวียดนามจะโต 6%YoY ในปีนี้ และ 7.2%YoY ในปี 66 หนุนจากภาคการบริโภคและอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะยังคงไม่เกินเป้าหมายที่รัฐบาลเวียดนามตั้งไว้ที่ 4% ขณะเดียวกันกลุ่มประเทศอาเซียนได้จัดการประชุมเมื่อวันที่ 6 ก.ค. โดยเวียดนามได้เสนอให้ยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ทั้งหมด เพื่อหนุนภาคการท่องเที่ยว และตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติแตะระดับ 30% ของช่วงก่อนการระบาด
- เรามีมุมมองบวกต่อ FPT หุ้นเทคโนโลยีเวียดนามที่มีสัดส่วน 6.6% ในดัชนี VN 30 และ 15.9% ในดัชนี VN Diamond ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 และ DR FUEVFVND01 โดยคาดว่าภาพรวมกำไรจะหนุนโดยธุรกิจคลาวด์ หลังได้รับอานิสงส์มาจากการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้องค์กรมีการปรับโครงสร้างทางเทคโนโลยีและมีแนวโน้มที่จะใช้ระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โบรกเวียดนามคาดรายได้จากธุรกิจคลาวด์ของ FPT จะโตเฉลี่ยราว 45% ในปี 64-69