Daily Focus: Defensive Play // Bet on Rebound at 1500-1520+-

2022SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้แข็งแรงกว่าคาดมาก ปิดบวกถึง 20.58 จุด ได้แรงหนุนจากเม็ดเงินที่ไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น หลังกังวลโอกาสเกิด Recession ค่อนข้างมาก โดยมีแรงซื้อในหนุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก สถาบันในประเทศซื้อสุทธิบางๆ ในตลาดหุ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่องอีก 1.8 พันลบ. (และ Long Index Futures 9.8 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways Up ในกรอบ 1,550-1,575 จุด โดยเม็ดเงินยังไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม คาดไม่ร้อนแรงเท่ากับวานนี้ โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเดือน มิ.ย. คืนนี้ รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์หน้า ขณะที่ราคาน้ำมันฟื้นตัวกลับเหนือ US$100 ต่อบาร์เรลอีกครั้งจากความกังวล ด้าน Supply ที่ยังดึงตัว ส่วน Bond Yield ปรับตัวขึ้นเหนือ 3% และยังมีภาพ Inverted Yield Curve ต่อเนื่อง สะท้อนความกังวลถึงโอกาสเกิด Recession ปีหน้า ภาพรวมจึงยังมองเป็น เพียงการ Rebound และยังไม่กลับเป็นขาขึ้นในระยะกลาง-ยาว อย่างไรก็ตาม เรายังคงมองเดิมที่คาด SET Index จะสามารถปรับตัวได้แข็งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นๆ จากทิศทางเศรษฐกิจที่กำลังเร่งตัวตามการเปิดประเทศ โดยคาดแนวรับหลัก 1,500-1,520+- จุด จะแข็งแรง และเป็นโอกาสสะสมหุ้นหากปรับฐานลง ส่วนหุ้นยังเน้นกลุ่ม Value Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการจำเป็น รวมถึงกลุ่ม Reopening

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Domestic and Reopening Play//รอซื้อบริเวณ 1500-1,520+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, CPN, GFPT, KTB, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : BBL

  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก Consensus 164 บาท
  • เบื้องต้นเราประเมินกำไร 2Q22 ฟื้นตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y ตามการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจ ขณะที่สํารอง ECL คาดลดลงต่อเนื่องหลังตั้งไปมากในปีก่อนๆ ขณะที่โมเมนตัม 3Q22 ยังดีต่อตามภาพเศรษฐกิจในประเทศ
  • เราคาดกำไรปี 2022 +10% Y-Y และคาดเป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากดอกเบี้ยขาขึ้นจากสัดส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่สูง ขณะที่ Valuation ยังถูก โดยเทรด PBV เพียง 0.5 เท่า ซึ่งเรามอง Downside จํากัด
  • แนวรับ 129-128 บาท แนวต้าน 131-132//135 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาค US$696 ล้าน แต่กระจุกตัวที่ไต้หวันเช่นเคย US$631 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินยังผสมผสาน ไหลออกจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ แต่ไหลเข้าไทยและเวียดนาม แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ามีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่องแต่ไม่หนาแน่น โดยคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานของสหรัฐฯ

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มอสังหาฯ ยอด Presales 2Q22 ของ 12 บริษัท คาด +6% Y-Y, +19% Y-Y จากการเปิดโครงการใหม่ที่เร่งขึ้นจากปีก่อนมาก ภาพรวมแนวราบยังไปได้ดีโดยเฉพาะระดับ Mid to High End ส่วนคอนโดเริ่มฟื้นตัวหลังสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น ยอดขาย 1H22 +19% Y-Y และคิดเป็น 48% ของเป้าทั้งปี ขณะที่ 2H22 คาดเร่งตัวขึ้นตามการเปิดโครงการใหม่ สอดคล้องกับแนวโน้มกำไรที่เร่งตัวเช่นกัน และคาดทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q22 เราชอบ ORI SC AP

(+) CPF แนวโน้มกำไร 2Q22 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากปริมาณขายที่ดี โดยสามารถปรับราคาส่งออกขึ้น 10-15% สะท้อนต้นทุนได้ และราคาเนื้อสัตว์ดีขึ้นแทบทุกประเทศ โดยเฉพาะหมูไทย +6% Q-Q ไก่ไทย +7% Q-Q, หมูเวียดนาม +5% Q-Q และล่าสุดหมูจีนขยับขึ้นเหนือ 20 หยวน/กก. สูงกว่าต้นทุนที่ 16-17 หยวน คาดธุรกิจจีนจะขาดทุนน้อยลงใน 2Q และพลิกมีกําไร 3Q22 มีเพียงสหรัฐ และแคนาดา (Hylife) ที่ยังฟื้นช้า แนวโน้มราคาเนื้อสัตว์น่าจะทรงตัวดีต่อใน 2H22 ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์เริ่มปรับลง คาดกำไร 2H22 จะเร่งขึ้นจาก 1H22 Consensus คาดกำไรสุทธิปี 2022 +20% และ +14% ในปี 2023 ราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ Consensus 30 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”

(+) TH เป็น 1 ใน 15 บริษัทจากทั่วโลก และเป็นบริษัทเดียวในไทยที่ผ่านเกณฑ์ และเซ็นสัญญาเข้าร่วมโครงการ Web3ESPA ในการพัฒนา Web 3 Decentralized Storage โครงการนี้เป็นการแก้ไขการจัดเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิมที่มีปัญหามากมาย และเป็นการรองรับ megatrend ในการเปลี่ยนเทคโนโลยีเป็น Web 3 รายได้จะมาจากการดูและระบบและการเสนอ Storage solutions ให้ลูกค้า เรายังไม่ได้รวมในประมาณการแต่ให้เป็น Upside risk ที่มีศักยภาพมาก ยังคงแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมาย 9 บาท (Full dilution 7.20 บาท)

(0) TU ราคาหุ้นปรับลงก่อนหน้าจากความกังวลแนวโน้มกำไร 2Q22 ที่อาจเผชิญผลขาดทุนทางบัญชีจากการถือ Preferred Share ใน Red Lobster ตามมาตรฐานบัญชี เพราะดอกเบี้ยในสหรัฐสูงขึ้น ทำให้มูลค่ายุติธรรมลดลง และค่าใช้จ่ายจากการปิดโรงงานที่เยอรมณี ขณะที่ภาพรวม Operation ของ TU เองถือว่าทำได้ดีทั้งที่เผชิญต้นทุนที่สูงขึ้นจากปีก่อน เรามองกําไรสุทธิ 2Q22 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ และฟื้นตัวใน 2H22 โดยเฉพาะด้านต้นทุนที่เริ่มผ่อนคลายจากการปรับลงของราคาทูน่า ราคาอลูมิเนียมและเหล็ก รวมถึงค่าระวางเรือ อย่างไรก็ตาม เราปรับลดกำาไรปี 2022 ลงเป็น -23% Y-Y สะท้อนการปรับลดกำาไรของ TFM แต่คาดปี 2023 กลับมา +19% Y-Y ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 24.50 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 31,384.55 จุด พุ่งขึ้น 346.87 จุด หรือ+1.12% จากนักลงทุนยังคงขานรับการรายงานการประชุมเดือน มิ.ย. ของ Fed ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ผิดคาด

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มธนาคาร หลังราคาน้ำมันและโลหะปรับตัวขึ้น

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นดาวโจนส์

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น อยู่ที่บริเวณ 35.95 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับเพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 102.73 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว และจากตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

(0) ราคาทองคำ COMEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,739.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ฟื้นตัวเล็กน้อย หลังนักลงทุนรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. ของสหรัฐฯ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,024.425 / –

- Advertisement -