เข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการ และอาจผันผวนจากการปรับลดคาดการณ์กำไร
แรงกดดันจากเงินเฟ้อใกล้ถึงจุดสูงสุด และตลาดจะเริ่มกลับไปมองการเติบโตรวมถึงผลประกอบการ แม้ตลาดคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อ มิ.ย.สหรัฐฯ ที่จะประกาศ 13 ก.ค.จะยังทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 8.8% แต่เรามองแรงกดดันของเงินเฟ้อใกล้ถึงจุดสูงสุด เมื่อพิจารณาจาก 1) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และอาหารที่เริ่มปรับลดลง 2) การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วยสกัดเงินเฟ้อจากฝั่งอุปสงค์ 3) ฐานเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้เงินเฟ้อน่าจะเพิ่มในอัตราที่ชะลอและทำจุดสูงสุดในช่วงไตรมาส 3/65 ซึ่งเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ // ในสภาวะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ จะมีแรงฉุดจากแรงเฉื่อยของการขึ้นดอกเบี้ยของทั้งสหรัฐฯ และธนาคารกลางแต่ละประเทศ เราประเมินตลาดจะเริ่มหันกลับมาให้ความสนใจกับการเติบโตและผลประกอบการ
ความกังวลต่อการปรับลดประมาณการยังเป็นปัจจัยกดดันหุ้นโลกในช่วง 1 เดือนข้างหน้า แม้ดัชนีหุ้นในตลาดสำคัญของโลกจะปรับลดลงราว 20% จากผลของระดับ PER ที่ลดลง (de-rating) แล้วแต่ประมาณการกำไรบจ.ยังแทบไม่ปรับลดลง ซึ่งความเสี่ยงของการปรับลดประมาณการจากตัวเลขเศรษฐกิจที่จะชะลอลง จะเป็นปัจจัยกดดันความเคลื่อนไหวของหุ้นโลกในช่วง 1 เดือนหน้า // คาดกลุ่มที่จะทรงตัวได้ดีถึงมีโอกาสปรับขึ้นในรอบนี้ ได้แก่ กลุ่มหุ้นปลอดภัยและอาหาร ได้แก่ สื่อสาร, โรงไฟฟ้า และโรงพยาบาล โดยหุ้นที่เราชอบได้แก่ ADVANC, INTUCH, BGRIM, GPSC, BCH, CHG, RAM, BDMS เป็นต้น สำหรับกลุ่มเปิดเมืองท่องเที่ยว และห้างสรรพสินค้า ช่วงสั้นอาจเผชิญแรงขายทำกำไรจากความกังวลการระบาดของโควิดระลอกใหม่ แต่เรามองเป็นเป้าหมายในการทยอยซื้อแบบตั้งรับ โดยหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ SPA, VRANDA, MINT, ERW, CENTEL, MBK, CPN, CRC เป็นต้น
ประเด็นเก็งกำไรอื่น
1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE
2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA
3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK
4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN
5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001
ภาพรวมกลยุทธ์: แม้อาจดีดตัวได้บ้าง แต่ภาพใหญ่มีโอกาสซึมลงจากการทยอยปรับประมาณการ ช่วงสั้นเม็ดเงินมีโอกาสเข้าพักหุ้นปลอดภัย (สื่อสาร ไฟฟ้า การแพทย์) ระหว่างทยอยสะสมหรือรอจุดซื้อในหุ้น 1) กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก) ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการทยอยสะสมและซื้อกลับ หลังแรงทำกำไรรอบนี้ของ เรา 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิงหุ้นจีน) ยังมีแนวโน้มโดดเด่น
หุ้นแนะนำ: CPF*, CBG*, RAM*, RATCH*
แนวรับ: 1,520-1,540 / แนวต้าน : 1,5 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
- เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow ล่าสุดบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.2% ใน Q2/65 – ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่าแบบจำลองคาดการณ์ แสดงตัวเลขหดตัว 1.2% ในไตรมาส 2/65 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.9% นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ใกล้ 100%
- คาดเฟดขึ้นดบ. 0.75% เดือนนี้ – หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาด
- สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาด – พุ่งขึ้น 372,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 250,000 ตำแหน่ง ก.คลังทบทวนมาตรการลดภาษีดีเซล กองทุนน้ำมันมองจังหวะราคาน้ำมันดิบโลกลดกว่า 5% ลดการชดเชยดีเซล 4.44-5.44 บาทต่อลิตร ส่งผลราคาขายปลีกดีเซลยืนระดับ 34.94 บาท ไม่ปรับตัวลง คาดทยอยกลับมาเก็บแบบขั้นบันได หลังสูญเสียรายได้ไปแล้วกว่า 27,000 ล้านบาท
- ศบค.เผยนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว 2.2 ล้านคน – จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-6 ก.ค. 65 มีจำนวน 2,214,132 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 3,684%YoY ส่งผลให้มีรายได้ 1.25 แสนล้านบาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยมากสุดเป็นอินเดียจำนวน 249,466 คน
- SCB ขาย SCBAM คาดบุ๊กกำไร 4.3 หมื่นล้าน – บมจ.เอสซีบี เอ็กซ์ (SCB) กำลังพิจารณาขายธุรกิจจัดการกองทุน หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) คาดมีมูลค่าธุรกรรม 3.6-5.4 หมื่นล้านบาท และจะทำให้มีการบันทึกกำไรระหว่าง 2.88-4.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผู้บริหาร SCB ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
- SCB ขยายเวลาทำธุรกรรมเข้าซื้อหุ้น Bitkub – บมจ.เอสซีบี เอ็กซ์ (SCB) เปิดเผยว่า การเข้าทำธุรกรรมซื้อขายหุ้น บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) ของ บล.ไทย พาณิชย์ (SCBS) อยู่ระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ โดยมีการขยายเวลาการเข้าทำธุรกรรมออกไปจากกำหนดการเดิมไตรมาสแรกปี 65
- ตลท.ปลด SP หุ้น HYDRO กลับเข้าเทรด 12 ก.ค. – เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินการลดทุนตามกระบวนการเสร็จสิ้นแล้ว
ประเด็นติดตาม: 13 ก.ค. – US CPI / 13-20 ก.ค. – รายงานงบกลุ่มแบงก์ / 14 ก.ค. – US PPI China GDP / 15 ก.ค. – US Retail Sales / 19 ก.ค. – EU CPI / 20 ก.ค. – US Existing Home Sales
ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ
- CPF* (29.50): ราคาหมูจีนปัจจุบันพุ่งขึ้นมาสู่ระดับ 22 หยวน/กก. เทียบงวด 2Q22 เฉลี่ยที่ราว 15.3 หยวน/กก. (เพิ่มขึ้น +4 +44%) ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่สูงกว่าต้นทุนการเลี้ยงหมูของ CPF (16 หยวน/กก.) แล้วภาพรวมถือเป็นการปลดล็อค overhang สุดท้ายจากจีนต่อ CPF คงคาดแนวโน้มกำไร CPF จะกลับมาเติบโตได้ qoq ในทุกไตรมาส ตัดขาดทุน 24.50 บาท
- CBG* (120): ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุด และมีแนวโน้มฟื้นตัว มีโอกาสเพิ่มส่วนบ่างการตลาดจากการตรึงราคา ตัดขาดทุน 110 บาท
- RAM* (63): ผลการดำเนินงานได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่ ซึ่งเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการ ตัดขาดทุน 53.75 บาท
- EGCO* (200) : กลุ่มปลอดภัยที่มีโอกาสเป็นแหล่งพักเงินในช่วงตลาดกังวลการปรับลดประมาณการ ตัดขาดทุน 174 บาท
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
Market News & Factors
- ตลาดหุ้นสหรัฐ – ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเล็กน้อยในวันศุกร์ (8 ก.ค.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง (อินโฟเควสท์)
- ตลาดหุ้นยุโรป – หุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวลงหลังหุ้นกลุ่มเหมืองปรับตัวลงจากราคาทองแดงร่วง วิตกกังวลเรื่องจีนออกมาตรการสกัดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ตลาดสามารถกลับมาปิดบวกตอนปิดตลาดได้ โดยปิด DAX +1.34% (อินโฟเควสท์)
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่น – ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกเพียงเล็กน้อย โดยความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของเฟด อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกดังกล่าวถูกบดบังด้วย เหตุการณ์ลอบยิงนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (อินโฟเควสท์)
- ตลาดน้ำมัน – สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้น 2% ในวันศุกร์ (8 ก.ค.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด และยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (อินโฟเควสท์)
- เฟดเผยแบบจําลอง GDPNow ล่าสุดบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.2% ใน Q2/65 – ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์แสดงตัวเลขหดตัว 1.2% ในไตรมาส 2/65 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.9% (อินโฟเควสท์)
- นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ใกล้ 100% คาดเฟดขึ้นดบ. 0.75% – คาดจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาด (อินโฟเควสท์)
- สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาด – พุ่งขึ้น 372,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 250,000 ตำแหน่ง (อินโฟเควสท์)
- ก.คลัง ทบทวนมาตรการลดภาษีดีเซล – กองทุนน้ำมันมองจังหวะราคาน้ำมันดิบโลกลดกว่า 5% ลดการชดเชยดีเซล 4.44-5.44 บาทต่อลิตร ส่งผลราคาขายปลีกดีเซลยืนระดับ 34.94 บาท ไม่ปรับตัวลง คาดทยอยกลับมาเก็บแบบขั้นบันได หลังสูญเสียรายได้ไปแล้วกว่า 27,000 ล้านบาท (ข่าวหุ้น)
- ศบค.เผยนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าไทยแล้ว 2.2 ล้านคน – จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 6 ก.ค. 65 มีจำนวน 2,214,132 คน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 3,684%YoY ส่งผลให้มีรายได้ 1.25 แสนล้านบาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยมากสุดเป็นอินเดีย จำนวน 249,466 คน (อินโฟเควสท์)
- SCB ขาย SCBAM คาดบุ๊กกำไร 4.3 หมื่นล้าน – บมจ.เอสซีบี เอ็กซ์ (SCB) กำลังพิจารณาขายธุรกิจจัดการกองทุน หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) คาดมีมูลค่าธุรกรรม 3.6-5.4 หมื่นล้านบาท และจะทำให้มีการบันทึกกำไรระหว่าง 2.88-4.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผู้บริหาร SCB ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น (ข่าวหุ้น)
- SCB ขยายเวลาทำธุรกรรม เข้าซื้อหุ้น Bitkub – บมจ.เอสซีบี เอ็กซ์ (SCB) เปิดเผยว่า การเข้าทำธุรกรรมซื้อขายหุ้น บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) ของ บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) อยู่ระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ โดยมีการขยายเวลาการเข้าทำธุรกรรมออกไปจาก กําหนดการเดิมไตรมาสแรกปี 65 (อินโฟเควสท์)
- ตลท.ปลด SP หุ้น HYDRO กลับเข้าเทรด 12 ก.ค. – เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินการลดทุนตามกระบวนการเสร็จสิ้นแล้ว (อินโฟเควสท์)
Report & Corporate News
TRUE Maintained BUY TP: 5.20 บาท – เราคาดว่า TRUE จะขาดทุนสุทธิลดลง qoq ใน 2Q22 เนื่องจากมีกำไรพิเศษจากการขาย DIF ก้อนใหญ่ ชดเชยผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน เราคาดว่า TRUE จะมีผลขาดทุนหลักใน 2Q22 ที่ทรงตัวจากรายได้ค่าบริการที่ลดลงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซา และการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง ในขณะที่ Catalyst หลักยังคงเป็นดีลควบรวม TRUE/DTAC ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจาก กสทช. ภายในวันที่ 10 ส.ค. 22 คงคําแนะนํา ซื้อ ราคาเป้าหมาย: 5.20 บาท
CRC – บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ขับเคลื่อนธุรกิจในฐานะผู้นำค้าปลีกเอเชียสู่ระดับโลก เดินหน้าบุกตลาดรีเทล และเสริมความแข็งแกร่งด้วยนวัตกรรมค้าปลีกแห่งอนาคต ครอบคลุมรอบด้าน ทั้งออมนิแชแนล และประสบการณ์ช้อปปิ้งโอทูโอ โดย Central App ได้รางวัล Retail App of the Year และท็อปส์ มาร์เก็ต ได้รางวัล Supermarket of the Year สะท้อนความสำเร็จจากการทำ Digital Transformation เพื่อพลิกโฉมธุรกิจ และสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้แก่ลูกค้า (อินโฟเควสท์)
CPALL – บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) แต่งตั้ง นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 9 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป พร้อมทั้งให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทย่อย โดยการเพิ่มทุนจด ทะเบียนจำนวน 750 ล้านบาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 1,000 ล้านบาท ในบริษัท ออลล์ คอร์ ปอเรชั่น จำกัด (All Corporation Co., Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (99.99%) ของ CPALL โดยใช้กระแสเงินสดของ CPALL เป็นแหล่งที่มาของเงินทุน เพื่อนำเงินทุนไปลงทุนเพิ่มในบริษัทย่อยทางอ้อม ในสัดส่วนการถือหุ้นเดิมที่ 64.99% ในบริษัท ออลล์ การ์เดี้ยน จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม และเพื่อลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อยทางอ้อมใหม่ในประเทศกัมพูชา และประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ส.ป.ป.ลาว) (อินโฟเควสท์)
BGRIM – บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท Sekong Investment Advisory Company Limited (SIA) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายสาธารณรัฐ ประชาชนลาว ในสัดส่วนร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียน เพื่อสนับสนุนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เซกอง 4A และ 4B ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 355 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่แขวงเซกอง สปป. ลาว (อินโฟเควสท์)