BRR เตรียมเปิดให้จองซื้อหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 950 ล้านบาท ชูดอกเบี้ยสูง 5.60% กู้ครบกําหนดไถ่ถอนปี 2568 จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เผยเล็งนำเงินที่ได้ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ใช้ในการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เผยล่าสุด ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตองค์กรที่ BBB- แนวโน้ม Stable ระบุถือเป็นการตอกย้ำธุรกิจของกลุ่มบริษัทที่มีความมั่นคง ผลงานมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน เพื่อเสนอขายต่อนักลงทุนในวงจำกัดแก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ วงเงินไม่เกิน 950 ล้านบาท ผ่านบริษัทหลักทรัพย์เคทีบีเอสที จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดจำหน่าย สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.60 % ต่อปี โดยจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเปิดจองซื้อในวันที่ 11 และ 15-16 สิงหาคม 2565
สำหรับการออกขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน จำนวน 800 ล้านบาท ใช้ในการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท จำนวน 100 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะช่วยเสริมให้ฐานะการเงินของบริษัทให้แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท
ขณะที่บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สถาบันจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือของไทย ได้ประกาศอันดับความน่าเชื่อถือของ BRR ที่ระดับ BBB- ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือคงที่ ซึ่งสะท้อนถึงประสบการณ์ที่ยาวนานในธุรกิจน้ำตาล ตลอดจนการกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจน้ำตาลไปสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าและบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท
นอกจากนี้ ยังเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งทางธุรกิจของ BRR ในช่วงที่ผ่านมา จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563-64 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 6.17 ล้านบาท และ 127.04 ล้านบาท ตามลำดับและในงวด 3 เดือนปี 2564 และปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 185.85 ล้านบาท และ 425.09 ล้านบาท ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 ถึงแม้บริษัทจะได้รับปัจจัยลบจากปริมาณขายน้ำตาลที่ลดลง เนื่องจากการเลื่อนส่งมอบน้ำตาลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ด้วยราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2563 รวมถึงรายได้จากกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้ในภาพรวมบริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 120.87 ล้านบาท และสำหรับงวด 3 เดือนปี 2565 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 239.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 128.73 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2564 สาเหตุหลักมาจากปริมาณและราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยปริมาณการขายน้ำตาลเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 244 และราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลกเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อตันน้ำตาล
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจในโครงการธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด โครงการติดตั้งระบบบำบัดมลพิษอากาศแบบไฟฟ้าสถิต (ESP Boiler) และโครงการติดตั้ง new rotor turbine Generator 10 MW
******