บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY

TP upside (downside) 24%

Close Jul 12, 2022 Price (THB)15.40

12M Target (THB) 19.10

Previous Target (THB) 24.70

What’s new?

  • คาดกําไรใน 2Q65 ลดลง 41%QoQ และ 39% YoY หลักๆ จากธุรกิจขายสินค้าผลกระทบจากกำลังซื้ออ่อนตัว และมีการปรับกลยุทธ์มาเน้นขายสินค้าแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น
  • คาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโต YoY ใน 2H65 ผลบวกจากการเปิดประเทศ ทำให้กิจกรรมการตลาดกลับมาจัดได้
  • ด้วยผลประกอบการที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดไว้ เราปรับลดกำไรปี 65-66 ลง 43% และ 30%

Our view

  • เราคงแนะนำจาก “ซื้อ” แม้เราจะผิดหวังกับผลประกอบการที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดไว้ แต่ภาพรวมทั้งปียังมองว่าจะฟื้นเด่นจากปีก่อน ขณะที่ราคาหุ้นถือว่าได้ปรับลดลงสะท้อนปัจจัยลบไปแล้วพอสมควร
  • เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานปี 65 ที่ 24.70 บาท ลงมาเหลือ 19.10 บาท สะท้อนการปรับลดประมาณการ โดยวิธี DCF อิง WACC ที่ 7.9%

RS คาด 2Q65 ชะลอ QoQ, YoY…รอฟื้นครึ่งปีหลัง

คาดกําไร 2Q65 ลดลง QoQ และ YoY

เราคาดกำไรใน 2Q65 ที่ 33 ล้านบาท ปรับลดลง 41% QoQ และ 39% YoY ซึ่งถือว่าฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดไว้ โดย 1) ธุรกิจขายสินค้ารายได้ลดลง 5%QoQ และ 28%YoY ซึ่งยังคงเป็นผลกระทบจากทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กำลังซื้ออ่อนตัว และการที่บริษัทมีการปรับกลยุทธ์มาเน้นขายสินค้าแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น (House Brand) มากขึ้น และลดสินค้าของพาร์ทเนอร์ที่ทับซ้อน เพื่อคาดหวังอัตรากำไรที่ดีขึ้น ส่วนสินค้าใหม่มีการล่าช้าเปิดตัวไปราว 1 เดือน เช่นตัว CAMU C สูตรกัญชง ขณะที่เริ่มรับรู้รายได้จาก Ulife เข้ามา 2 เดือน รับรู้รายได้ราว 100 ล้านบาท 2) ธุรกิจทีวีและบันเทิง รายได้ดีขึ้น 3%QoQ แต่ยังชะลอตัว 5%YoY จากฐานสูงปีก่อน ซึ่งในภาวะอุตสาหกรรมชะลอตัวจึงไม่สามารถปรับเรทค่าโฆษณาได้ 3) ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไร พบว่าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 51.2% ดีขึ้น QoQ เทียบไตรมาสก่อนที่ 48.8% จากการปรับกลยุทธ์ขายสินค้าแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น และรับรู้รายได้จาก Ulife ที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าธุรกิจเดิมของบริษัท ขณะที่เทียบ YoY ลดลงจาก 53.8% ตามยอดขายที่ลดลง ส่วน SG&A เพิ่มขึ้น 8%QoQ ส่วนใหญ่มาจากต้นทุนของ Ulife ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายการปรับโครงสร้างองค์กรรวมเข้ามาด้วย

คาดกําไรฟื้น 2H65… แต่เราปรับลดประมาณการลงต่ำกว่าเป้าบริษัท

คาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโต YoY ใน 2H65 เนื่องจาก 1) สินค้าใหม่ที่เปิดตัวล่าช้าในปลาย 2Q65 จะเริ่มกลับมาทำรายได้ให้บริษัทมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับกัญชงของแบรนด์ Camu C และ Well U 2) จะเริ่มรับรู้รายได้จาก ULife เต็มไตรมาส และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างจะเริ่มลดลง ขณะที่ธุรกิจของ Ulife ปกติแล้วมีมาร์จิ้นสูงกว่าธุรกิจเดิม ซึ่งจะช่วยดึงให้มาร์จิ้นดีขึ้น 3) ธุรกิจบันเทิงที่ฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ผลบวกเปิดประเทศ ทำให้อีเว้นท์กลับมาจัดได้ โดยบริษัทมีแผนที่จะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ 2 งาน ได้แก่ กามิกาเซ่ และ RS Meeting ในเดือน ต.ค. และ ธ.ค. รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ธุรกิจโฟร์ทแอปเปิ้ล จะกลับมาจัด Food Truck และ K-pop ได้ ตลอดจนสามารถนำเอา Popcoin มาสร้างมูลค่าได้ตามแผนที่วางไว้ และยังมีรอดุลอีเว้นท์ใหญ่จากต่างประเทศ

ปรับลดประมาณการปี 2565 ลงมาต่ำกว่าเป้าบริษัท

ด้วยผลประกอบการใน 2Q65 ถือว่าฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดไว้ ขณะที่ครึ่งปีหลังมีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์เงินเฟ้อและการกลับมาระบาดของ COVID-19 เราจึงประมาณการแบบอนุรักษ์นิยมมากขึ้น โดยปรับลดประมาณการรายได้ในปีนี้ลงมาต่ำกว่าเป้าของบริษัท (ไม่ รวม Ulife) ที่ 5,100 ล้านบาท โดยเรามีการปรับลดประมาณการรายได้ของเราลงจากเดิม 24% เหลือ 4,199 ล้านบาท และปรับลดกำไรสุทธิในปีนี้ 43% เหลือ 405 ล้านบาท +218%YoY ขณะที่ปี 2566 เราปรับลดประมาณการกำไรลงราว 30% จากการปรับลดรายได้ลง 17%

แนะนำ “ซื้อ” แม้ผิดหวัง แต่ก็ผ่านช่วงแย่สุดไปแล้ว และยังโตดีจากปีก่อน

แม้เราจะผิดหวังกับผลประกอบการที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดไว้ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นถือว่าได้ปรับลดลงสะท้อนปัจจัยลบไปแล้วพอสมควร มองว่าผลประกอบการผ่านช่วงที่แย่สุดไปแล้ว แนวโน้มที่เหลือของปีจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ธุรกิจ RS Mall จะรับผลบวกจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วง 2H65 ขณะที่ธุรกิจบันเทิงรับผลบวกจากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัว และกิจกรรมการตลาดที่กลับมาจัดได้ เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานปี 2565 จากเดิมที่ 24.70 บาท ลงมาเหลือ 19.10 สะท้อนการปรับลดประมาณการกำไร อิงวิธี DCF อิง WACC ที่ 7.9%

- Advertisement -