บล.ไอร่า:

SCC ปูนซิเมนต์ไทย

คาด 2Q/65 กำไรสุทธิ ~9,089 ล้านบาท +3% qoq แต่ -47%yoy คาดเงินปันผล 1H/65 7.00 – 7.50 บาท

“ซื้อ” Target 470.00 บาท

  • ภาพรวมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี หลักๆ ได้รับผลกระทบจากความต้องการจีน (1ใน 3 ของโลก) จากมาตรการ Lockdown ขณะที่ SCC มี Plant shutdown (on plan) ในส่วนของ Downstream และ cut run ~5-7% เพื่อ Optimize การผลิต ทำให้คาดปริมาณขาย Polyolefins ใน Q2/65 อยู่ที่ 430,000 – 450,000 ตัน จากระดับปกติ -500,000 ตัน/ไตรมาส พร้อมส่วนต่างผลิตภัณฑ์ HDPE และ PP อยู่ที่ 468USD/ต้น (+3%qoq, -20% yoy) และ 445USD/ตัน (-7%qoq, -36%yoy) หลังราคา Naphtha ทรงตัว qoq แม้ราคาน้ำมัน (อิง Brent) +15%qoq และ +62%yoy อยู่ที่ -112USD/บาร์เรล ส่วนหนึ่งจากผู้ประกอบการบางส่วนในภูมิภาค cut run -15-20% ทำให้ความต้องการ Naphtha ลดลง ขณะที่คาดส่วนแบ่งกําไรฯ ดีขึ้นจาก BD-Naphtha เพิ่มขึ้นจาก 169USD/ต้น เมื่อ 1Q165 เป็น 558USD/ตัน ใน 2Q/65
  • ภาพรวมธุรกิจ CBM คาดความต้องการลดลง 6-7%yoy ทั้งจากฤดูกาล และผลกระทบจากเงินเฟ้อทำให้โครงการต่างๆ ชะลอ หลังต้นทุนก่อสร้างสูงขึ้น ขณะที่ภาครัฐไม่มีโครงการใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม คาดยังสามารถปรับราคาขายตามต้นทุนที่สูงขึ้นได้บางส่วน พร้อมบริหารจัดการต้นทุนพลังงาน โดยเพิ่มสัดส่วน AFR เพื่อชดเชยต้นทุนถ่านหินที่สูงขึ้น ทางด้านธุรกิจ Packaging คาดผลการดำเนินงานทรงตัว qoq หลังรับรู้รายได้เต็มปีจากธุรกิจที่ M&P ในปีที่ผ่านมา คาดกำไรสุทธิ 1,600 – 1,800 ล้านบาท
  • คาดภาพรวมผลการดำเนินงาน 2Q/65 มีรายได้ 147,822 ล้านบาท ลดลง 3%qoq แต่เพิ่มขึ้น 11% yoy และคาดกำไรสุทธิ 9,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%qoq แต่ลดลง 47%yoy ขณะที่ 1H/65 คาดรายได้เพิ่มขึ้น 17% อยู่ที่ 300,315 ล้านบาท แต่คาดกำไรสุทธิ ลดลง 44% อยู่ที่ 17,932 ล้านบาท และภายใต้ Payout -47% ในปี’64 คาดเงินปันผล 1H165 -7.00 – 7.50 บาท/หุ้น โดยประกาศพร้อมงบฯ ในวันที่ 27/7/65
  • แม้สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจยังมีผลต่อความต้องการ รวมถึงเงินเฟ้อในหลายประเทศ ส่งผลต่อต้นทุนสูงขึ้น พร้อมกับราคาน้ำมันที่ยังมีความผันผวน และถ่านหินซึ่งส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนจากราคา Naphtha และต้นทุนพลังงานสูงขึ้น แต่คาด SCC มีความสามารถบริหารจัดการ เพื่อความเสี่ยงดังกล่าว โดย (1) Lock Margin และ Lean Stock ให้ต่ำกว่า 10 วัน จากเดิม ~2 สัปดาห์ เพื่อลดความผันผวนราคาน้ำมัน (2) คงนโยบาย Order ถ่านหินล่วงหน้า 6 9 เดือน ซึ่งปัจจุบันมีเพียงพอถึงเดือนม.ค. 66 และสิ้นปี’65 มีนโยบายลดสัดส่วนการใช้ถ่านหินให้อยู่ที่ 40-50% และ (3) เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ HVA เพื่อลดความผันผวนราคาที่อิงกับสินค้า Commodity
  • ประเมินราคาเป้าหมาย 470.00 บาท อิง PE 11X โดยในระยะยาว SCC ยังมีความน่าสนใจจากนำธุรกิจปิโตรเคมีเข้าจดทะเบียน คาดภายในปี’65 คาดช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโต เช่นเดียวกับ Packaging พร้อมฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ยังคงแนะนำ “ซื้อ” จากความสามารถในการบริหารจัดการที่ดี ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ที่มีความท้าทาย ทำให้ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
- Advertisement -