เข้าสู่การประกาศผลประกอบการ
Market Update
เมื่อคืนตลาดหุ้น Dow Jones ปิดลบเล็กน้อย 0.46% จากช่วงแรกที่ลงไปติดลบสูงถึง 2% ส่วนสาเหตุที่ตลาดหุ้น Dow Jones ปรับฐานเป็นเพราะผิดหวังกับผลประกอบการกลุ่มการเงิน อาทิ JP Morgan รายงานกำไรสุทธิต่ำกว่าตลาดคาด 4% รวมถึง Morgan Stanley รายงานกำไรสุทธิต่ำกว่าตลาดคาด 12% นอกจากนี้ยังถูกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่ตลาดคาดการประชุมสิ้นเดือนนี้จะขึ้นดอกเบี้ยถึง 1% ด้วยโอกาส 42.8% ถูกปรับขึ้น หลังรายงานเงินเฟ้อ (ก่อนหน้าโอกาสอยู่ 0%) ส่วนราคาน้ำมันดิบ BRT ลดลง 0.5% กังวลว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะฉุดอุปสงค์ลดลง ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิตขยายตัว 11.3%YoY สูงกว่าตลาดประเมินที่ 10.7%YoY อย่างไรก็ตาม คล้ายกับว่านักลงทุนจะมิได้ให้น้ำหนักมากนัก ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง ทดสอบระดับ 36.57 บาท / ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าสุดในรอบ 7 ปี (บวกกับกลุ่มส่งออก)
Market Outlook
วันนี้คาด SET INDEX ฟื้นตัวในกรอบ 1537 – 1545 น่าจะฟื้นตัวได้บ้างหลังปรับฐานลงมาวานนี้ราว 0.65% ประกอบกับจิตวิทยาการลงทุนเช้านี้ดูเป็นบวกหนุนจาก (1) Dow Jones Future แกว่งบวกอยู่ 0.34% (2) เช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei เคลื่อนไหวบวก 0.74% ขณะที่การรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารฯ ค่อนข้างเป็นบวกหนุนจาก TISCO รายงานกำไร 2Q22 ที่ 1.85 พันล้านบาท (+11%YoY +3%QoQ) ดีกว่าเราคาดไว้ 6% ขณะที่ NPL ทรงตัว QoQ ที่ระดับ 2.2% และมีการตั้งสำรองที่สูงถึง 255% เชื่อว่าเพียงพอต่อการรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต ทั้งนี้จากการเริ่มประกาศผลประกอบการกลุ่ม Bank เบื้องต้น อาจพอประมาณได้ว่าเงินเฟ้อที่สูงยังมีผลกระทบจำกัด และหากธนาคารฯ ขนาดใหญ่ประกาศผลประกอบการจากนี้มิได้แย่จนเกินไปนัก เชื่อว่าตลาดจะคลายกังวลได้บางส่วน กับภาวะเงินเฟ้อโดยกลุ่ม Bank ขนาดใหญ่จะเริ่มรายงานในสัปดาห์หน้า ด้านตัวเลข เศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนนี้มีประกาศยอดค้าปลีก Bloomberg คาดจะขยายตัว 0.9%MoM เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังชอบกลุ่ม Anti Commodity อาทิ (CBG SCC SCGP) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ค้าปลีก (BJC CPALL) โรงพยาบาล (BCH CHG) กลุ่มส่งออก (ASIAN) ร้านอาหาร (CENTEL M MINT) ค้าปลีก (BJC CPALL)
Pi Stock Picks
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.25 บาท)
จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจนถึงระดับ 7.1% ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้สินค้าหลายรายการมีการปรับราคาขายขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำหรับรายได้ของ CPALL ที่จะทำให้ยอดขายต่อสาขาเดิม (Same Store Sale Growth) เพิ่มขึ้น
M (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท)
คาดกำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 444 ล้านบาท (+64%QoQ) ฟื้นตัวจากขาดทุน 99 ล้านบาทใน 2Q21 หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่แข็งแกร่งใน 3 แบรนด์หลัก (MK +60% YoY, Yayoi +53%YoY, แหลมเจริญซีฟู้ด +54%YoY)