บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

TISCO Financial Group (TISCO TB)

ต้นทุนสำรองต่ำ ต้นทุนทางการเงินเพิ่ม

ลดคาดการณ์กำไร และ TP เป็น 105 บาท ซื้อ

TISCO มีแนวโน้มผลกำไรดี เนื่องจากอัตราส่วน NPL ต่ำและ NPL coverage สูง ส่งผลต้นทุนสินเชื่อเพื่อรองรับการเติบโตของกำไรในปี 65-66 เราคาดว่า TISCO จะเสนออัตราเงินปันผลตอบแทน 9% ต่อปี เนื่องจากธนาคารจะคงอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงเพื่อหนุน ROE เราลดคาดการณ์กำไรลง เพื่อสะท้อนต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น และ NIM ที่ลดลงในปี 66 ซื้อและลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 105 บาท (P/BV ปี 65 2 เท่า, ROE 16.7%) ความเสี่ยงที่ สำคัญคือต้นทุนสินเชื่อและต้นทุนทางการเงินที่สูงกว่าคาด

กำไร 2Q65 เพิ่มขึ้น 11% YoY จากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง

TISCO รายงานกำไรสุทธิ 2Q65 ที่ 1.85 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY จากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง สินเชื่อทรงตัว QoQ (5% YoY) นำโดยสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) ที่หดตัวในรถยนต์ใหม่ ในขณะที่สินเชื่อ SMEs และสินเชื่อผู้บริโภคที่ให้ผลตอบแทนสูง (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ สินเชื่อ HP รถจักรยานยนต์) กลับมาเติบโตเป็นบวก QoQ ใน 2Q65 ซึ่งช่วยให้ NIM ดีขึ้น 8bps QoQ เป็น 5.06% ในไตรมาส 2/65 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 7% YoY เนื่องจากค่าธรรมเนียมตลาดทุนที่ลดลง อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 5bps QoQ เป็น 2.20% ในขณะที่ NPL coverage ลดลงเป็น 253% ในไตรมาส 2/65 จาก 262% ในไตรมาส 1/65 TISCO ตั้งสำรอง 140 ลบ. หรือต้นทุนสินเชื่อ 0.3% ใน 2Q65 เทียบกับ 0.2% ใน 1Q65 เงินให้สินเชื่อภายใต้โครงการบรรเทาหนี้คิดเป็น 6.3% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 2/65

คาดต้นทุนสินเชื่อจะอยู่ในระดับต่ำในปี 65-66

เรามีมุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์กับ CFO เมื่อวานนี้ โดย ผบห. เผยว่าการดำเนินงานกำลังดีขึ้นด้วยการเติบโตของสินเชื่อที่ดีขึ้น QoQ ในธุรกิจสินเชื่อและประกันภัยที่ให้ผลตอบแทนสูง อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงระมัดระวังในการให้สินเชื่อ HP รถยนต์ใหม่ เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง TISCO ปล่อยส่วนแบ่งตลาดไปบางส่วน เนื่องจากเห็นว่าอาจสร้างผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยงได้ต่ำ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นในปี 65-66 เราคาดว่า TISCO จะตั้งสำรองต้นทุนสินเชื่อที่ต่ำไว้ที่ 0.3% ในปี 65-66 เนื่องจากเราเห็นว่าเงินสำรองเพื่อสงสัยหนี้จะสูญในปัจจุบันมีมากเกินพอ เนื่องจาก NPL coverage สูงถึง 253%

ลดคาดการณ์ EPS สะท้อน NIM ลดลงจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น

แม้ว่าเราคาดว่าผลตอบแทนของสินเชื่อจะดีขึ้นเนื่องจาก TISCO เน้นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่เราคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าผลตอบแทนของสินเชื่อ ดังนั้นเราจึงลดคาดการณ์ NIM ลง 20bps ในปี 65-66  เนื่องจากคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้น 5bps YoY ในปี 65 และ 30bps ต่อปีในปี 66-67 ดังนั้นเราจึงลดคาดการณ์กำไรปี 66 ลง 4%

- Advertisement -