KS Daily View 15.07.2022 > คงมุมมองหุ้น 3Q65 ยังแกว่งตัว เน้นสะสมหุ้น Anti commodity เลี่ยงกลุ่ม Global Play SET วันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1525-1540 จุด หุ้นแนะนำ GULF   

ต่างประเทศ :  ฝั่งสหรัฐเมื่อคืนตลาดหุ้นยังผันผวนแกว่งตัว  Dow jones -0.46%, S&P500 -0.3% Nasdaq+0.03%  โดยมีประเด็นคือมีการรายงานผลประกอบไตรมาส 2 การกลุ่มการเงิน ทั้ง JPMORGAN CHASE, MORGAN STANLEY ออกมาชะลอตัว กดดันราคาหุ้นในกลุ่มปรับลงราว 2-4% ตัวเลขเศรษฐกิจ มีรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9 พันราย อยู่ที่ 2.44 แสนราย ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 และรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) วัดเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต ของเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 11.3%YoY สูงกว่า Consensus คาดที่ 10.7% ทิศทางเดียวกับเงินเฟ้อสหรัฐทั่วไปที่ออกมากลางสัปดาห์  9.1%YoY  KS มีมุมมองเงินเฟ้อสหรัฐล่าสุดได้ผ่านจุด Peak ไปแล้ว ประเมินไตรมาส 3 เงินเฟ้อสหรัฐจะยังทรงตัวสูง แต่จะค่อยลงจากทิศทางพลังงานที่ปรับลง และไตรมาสที่ 4 จะลดลงต่อเนื่องจากฝั่งภาคอสังหาที่ชะลอลง รวมถึงมุมมองต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้ง Fed Fund Futures , Eurodollar ที่เริ่มปรับมุมมองโอกาสในปี 2566 อาจจะเริ่มเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง  แม้ในปีนี้ การประชุมรอบถัดไปรอบ 27 ก.ค. ตลาดได้ Price in การขึ้น 75bps ไปแล้ว และเริ่มคาดมีโอกาสจะขึ้น 100bps  โดยรวมแม้มุมมองเรื่องอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มเห็นว่าปีถัดไปจะไม่ Hawkish ,เงินเฟ้อเริ่มลดลง แต่ KS ประเมินว่าตลาดหุ้นในช่วงไตรมาส 3 จะยังไม่กลับเป็นขาขึ้น คาดจะไปฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยประเมินจะเป็นการแกว่งตัว Sideway  เนื่องจากจะยังถูกกดดันจากภาวะความกังวล Recession ต่อ โดยคำแนะนำการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ทยอยสะสมลงทุนหากราคาหุ้นปรับฐานลงมา คือ

1. กลุ่ม Anticommodity อาทิ CBG, OSP, RBF, CPF, GFPT, TOA และ PTG

2. หุ้น Defensive อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า  GPSC, BGRIM, GULF กลุ่มโรงพยาบาล BDMS

3. กลุ่ม Growth แนะนำกลุ่ม Tech Consult อาทิ BE8, BBIK, IIG

4. กลุ่มท่องเที่ยว แนะนำโรงแรม CENTEL, SHR

ประเด็นที่ต้องติดตามและมีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นในวันนี้หลักๆ คือ

1.) เช้านี้ตัวเลข GDP 2Q22 ของจีน Consensus คาด -2.3% QoQ และ +1%YoY  ชะลอจาก 1Q22 ขยายตัว 4.8% รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจจีนอื่นๆ อาทิ  Retail sales , Fixed asset investment เป็นต้น   หาก GDP ออกมาชะลอถือว่าไม่ได้ Surprise และรับรุ้ไปแล้วในราคา จากผลกระทบจาก Covid และรัฐบาลจีนคุมเข้มเศรษฐกิจ KS ประเมินไตรมาสนี้เป็น Bottom ของปีนี้และคาดจะเห็นการฟื้นตัวในช่วง 3Q22 สะท้อนจากทั้ง PMI เดือน มิ.ย. ที่กลับมายืนเหนือ 50 จุด แม้ระยะสั้นจะเผชิญกับ Covid ในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ท่าทีของรัฐบาลที่เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประเมินเป็นบวกต่อ CBG, EKH, PSL, SCGP ฯลฯ

2.) ติดตามประธานาธิบดีสหรัฐโจ ไบเดน เยือนซาอุดีอาระเบีย เริ่มในวันนี้ (ระหว่าง 15-16 ก.ค.) จับตาจะทำให้ซาอุฯ เพิ่มการผลิตน้ำมันได้หรือไม่ เพื่อลดราคาน้ำมันดิบโลกลง เพื่อชะลอเงินเฟ้อสหรัฐ  โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบ Brent  ผันผวนสูงมากแกว่งในกรอบ 95-105 เหรียญฯ จากความกังวล technical Recession  KS แนะนำ สำหรับการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน   โดยผู้รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำเพียง Trading สั้นๆเท่านั้น เน้นหุ้นกลุ่ม Upstream และโรงกลั่น  แต่สำหรับผู้รับความเสี่ยงต่ำ ระมัดระวังการลงทุน แนะนำชะลอการลงทุน

ในประเทศ :  เมื่อวานมีการรายงานผลประกอบการ คือ TISCO รายงานงบ 2Q22 ที่ 1.8 พันลบ. เติบโต 3% QoQ และ 11% YoY สูงกว่าที่  KS และตลาดคาด  แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 125 บาทความน่าสนใจในเรื่องเงินปันผล ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็น Dividend yield ถึง 8% และ ธนาคารพาณิชย์อื่นๆในสัปดาห์หน้า ส่วนวันนี้ DTAC คาดจะประกาศงบ 2Q22  KS คาดที่ 884 ล้านบาท +21.7% QoQ, -42.3% YoY และธนาคารพาณิชย์อื่นๆในสัปดาห์หน้า ส่วนประเด็นอื่นที่ต้องติดตามคือ ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ ล่าสุด ยังอ่อนค่าต่อเนื่องอยู่ที่ 36.5 บาท หรืออ่อนค่าราว 10% นับตั้งแต่ต้นปี (ytd) ประเมินเป็นแรงกดดันต่อหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคารพาณิชย์  และติดตามสัปดาห์หน้า 19-22 ก.ค.จะเริ่มการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

มุมมองตลาดหุ้น  SET วันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1525-1540 จุด หุ้นแนะนำ GULF

Top pick : 

GULF (ราคาพื้นฐาน 48.0 บาท) เป็นหุ้น Defensive ที่สามารถ hedge ความกังวล Recession และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่กำลังผ่านจุดสูงสุดใน 3Q22 ไปพร้อมกับเงินเฟ้อด้วย ล่าสุด Thai10Y bond yield เหลือ 2.6% ลงจาก 3.1%นับจากกลางเดือน มิ.ย.65 และแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2565  จะเติบโตขึ้น QoQ เนื่องจาก กกพ. ปรับขึ้นค่า Ft รอบที่ 2 ของปี 2565 (เดือนพ.ค.-ส.ค.2565) ที่ 0.234 บาท/หน่วย เป็น 0.248 บาท/หน่วย ซึ่งคาดจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าของ PEA เพิ่มขึ้น 6% เป็น 4.00 บาท/หน่วย และล่าสุด  กกพ.เผยว่าค่า Ft งวดก.ย.-ธ.ค.65 อาจปรับขึ้น 90-100 สตางค์ต่อหน่วย

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข GDP 2Q22 ของจีนคาด -2.3% QoQ และ +1% YoY ตัวเลข Retail sales ของจีนเดือน มิ.ย. คาด +0.3% YoY (จากเดือนก่อนหน้าที่ -6.7% YoY) ตัวเลข Fixed asset investment ของจีนใน 1H22 คาด +6% YoY ตัวเลข Industrial production ของจีนเดือน มิ.ย. คาด +0.7% YoY ตัวเลข Wholesale Price ของเยอรมันเดือน มิ.ย. คาด +1% MoM และ +22.9% YoY ตัวเลข Retail sales ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. คาด +0.8% MoM และ +6.5% YoY ตัวเลข Industrial production ของสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. คาด +0.1% MoM และ +4.8% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. คาด -0.4% MoM เป็น 49.8 จุด
- Advertisement -