ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ปรับลงต่อ ต่างชาติยังอยู่ในฝั่งขายสุทธิในระยะนี้

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ ปรับลงต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวลง (ตามคาด) จากความกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งแรง อาจกดดันให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง + หุ้นกลุ่มธนาคารเผชิญแรงขายตามบอนด์ยีลด์ที่ลดลง และ yield curve inversion’ ในตลาดการเงินโลก… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นยังคงเป็นลบ i) สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อผู้ผลิต PPI เดือน มิ.ย. พุ่ง 11.3% YoY ซึ่งสูงกว่าที่ consensus คาดการณ์ และ ii) ธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯ เช่น JP Morgan และ Morgan Stanley รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2565 ต่ำกว่าที่ consensus คาดการณ์เช่นกัน และกดดันจิตวิทยาหุ้นธนาคารในสหรัฐฯ… ในส่วนของแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดนั้น สัญญาเฟฟันด์ฟิวเจอร์ขยับอีกครั้งหนึ่ง ให้น้ำหนักเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 27 (เมื่อวานนี้ ก.ค. ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ยแรง 1.00%) ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนวันนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีก และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน มิ.ย. ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมาดี จะมีนัยกับตลาดในแง่ของมุมมองต่อดอกเบี้ยเฟด รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งในคืนนี้เฟดจะมีการ update แบบจำลอง GDP tracker เพื่อคาดการณ์ตัวเลข GDP ด้วย…. ล่าสุด ณ วันที่ 8 ก.ค. แบบจำลองดังกล่าวคาด GDP ไตรมาส 2/2565 จะติดลบ 1.2% QoQ เทียบรายปี

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร BGRIM*, PTG*, OTO

  • BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 37 บาท / แนวต้าน 38 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 40 บาท (Stop loss 36 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากต้นทุนพลังงานที่เริ่มปรับลดลงตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ และการได้ปรับขึ้นค่า Ft ใน 2H65 ช่วยชดเชยต้นทุนพลังงานที่ปรับขึ้นมา ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด แล้ว 3) Catalyst บวกอื่นๆ จาก i) โอกาสลงทุนโครงการใหม่ๆ จากการเตรียมปรับแผน PDP ของทั้งไทยและเวียดนามใน 2H65 ii) ยังมีแผนการลงทุนซื้อกิจการโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก โดยวางเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้า 7,200MW ในปี 2568 (ปัจจุบัน 4,015MW)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 17.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.1 บาท / แนวต้าน 14.5 – 14.8 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 15.2 บาท (Trailing 44 stop 13.5 บาท) 2) ประเมินราคาน้ำมันเริ่มพักฐาน ลดแรงกดดันเรื่องค่าการตลาดฯ ที่มีความเสี่ยง ถูกกดดันจากภาครัฐฯ รวมทั้งคาดเป็นบวกต่อปริมาณขายน้ำมันที่เริ่ม น้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวหลังผ่อนคลายมาตรการ โควิด-19 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ต่ำเพียง 15.1 เท่า (ใกล้เคียงกับ – 1 เท่าของส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ราว +/-16 เท่า) ขณะที่คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัว +55% YoY
  • OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 16.4 บาท / แนวต้าน 17.0-17.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 15.2 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) การเพิ่มทีมแข่งขัน Esports ภายใต้สังกัด ZERXIA จากเกมส์ Valorant ล่าสุดเพิ่มอีก 2 เกมส์คือ PUBG (อยู่ระหว่างลุ้นทำคะแนนเข้าแข่งโปรลีค) และ ROV / ขณะที่สังกัด PSG (เกมส์ ROV) เตรียมเปิดตัวนักกีฬาชื่อดังคนใหม่เข้าทีม ii) คาดเตรียมเปิดตัว Platform HUBBER ที่จะเป็น Community สำหรับนักเล่นเกมส์ใน 3Q65 นี้ iii) Sentiment บวกจากเหรียญ Z7DAO ที่จะใช้ใน Ecosystem ของ OTO ที่จะเชื่อมโยงนักเล่นเกมส์และนักลงทุนคริปโตเข้ามาอยู่ด้วยกัน 3) คาด 2Q65 เริ่มมีรายได้จาก Esports และธุรกิจ Call center ฟื้นตัวเด่น ทำให้กำไรจากการดำเนินงานโต QoQ (แต่คาดยังมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนในตลาดหุ้น)

หุ้นมีข่าว

(+) EA*-NEX-BYD วิ่งคึก! หลังปิดตำนาน “สาย 8” จ่อมอบบัสอีวี 800 คัน (ข่าวหุ้น) 3 หุ้นรถอีวี วิ่งคึก! จ่อส่งมอบรถบัสไฟฟ้าขั้นต่ำ 800 คัน ต.ค.นี้ พร้อมวิ่งบริการลูกค้า หลังปิดตำนาน “รถเมล์สาย 8”

(0) JMART* – GUNKUL* สวอปหุ้นมูลค่าดีล 500 ล. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “เจ มาร์ท “จับมือแลก หุ้น “กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง” มูลค่ารวม 500 ล้านบาท ย้ำความมั่นใจดัน JGS Synergy Power สู่เมกะเทรนด์ ผู้นำค้าปลีกสินค้าพลังงานทดแทนของประเทศ

(+) RICHY ดีลร่วมทุนขยายฐานธุรกิจหนุนรายได้แกร่ง (ทันหุ้น) RICHY แตกไลน์ธุรกิจ ผนึก “กลุ่มโรงพยาบาลวิภาวดี” รุกธุรกิจ “เวลเนส-แอนตี้เอจจิ้ง” คาดเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2565 บิ๊กบอส “ดร. อาภา อรรถบูรณ์วงศ์” มั่นใจช่วยขยายฐานรายได้ หนุนธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง

(+) COM7* จับมือ Alibaba Cloud รุกบริการคลาวด์ให้ธุรกิจในไทยครบวงจร (ข่าวหุ้น) “คอมเซเว่น” ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในไทยให้กับบริการและโซลูชั่นของ Alibaba Cloud ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของ Alibaba Group เพื่อนำเสนอบริการคลาวด์ให้กับธุรกิจในไทยอย่างครบวงจร ตามเทรนด์ทางเทคโนโลยีทั่วโลก

(+) MICRO ดีมานด์ครึ่งหลังโต รุกสินเชื่อบุคคลดันพอร์ต (ทันหุ้น) MICRO ฉายภาพครึ่งหลังปี 65 ยอดสินเชื่อใหม่ยังเติบโต หลังเข้าไฮซีซั่นธุรกิจ ดีมานด์ใช้รถบรรทุกมือสองยังขยายตัวต่อ พร้อมเดินเครื่องสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์สิ้นปีพอร์ตคงค้างแตะ 300-400 ล้านบาท เตรียมกดปุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล ประเภทมีทะเบียนรถและไม่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน มั่นใจคุม NPL ต่ำ 3% ด้านพอร์ตคงค้างรวมสิ้นปียืนเหนือ 5 พันล้านบาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) แนวรับ 26.5 บาท / แนวต้าน 27.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 26 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 51 บาท / แนวต้าน 52.5-53 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 51 บาท)
  • CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) แนวรับ 26 บาท / แนวต้าน 27-29 บาท (Trailing stop 26 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 12.6 บาท / แนวต้าน 13.1-13.3 บาท (Stop loss 12.6 บาท)
  • TFG (เป้าพื้นฐาน 8.3 บาท) แนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.55-6.75 บาท (Stop loss 6.1 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 20.1 บาท / แนวต้าน 20.6-21.0 บาท (Stop loss 19.8 บาท)
  • MAKRO (เป้าพื้นฐาน 44 บาท) แนวรับ 34 บาท / แนวต้าน 35-36 บาท (Stop loss 34 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • AU แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 11.9 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q65 = 23 ล้านบาท (Turnaround YoY, +56% QoQ) และคาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 จะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ และเปิดรับการท่องเที่ยว
  • M แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 58 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q65 = 430 ล้านบาท (Turnaround YoY, +59% QoQ) และคาดแนวโน้มผลดำเนินงานจะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 2H65 จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ และเปิดรับการท่องเที่ยว
- Advertisement -